ชะลอเคาะขวา

*หากดูจากเบสิกการเล่นหุ้นเที่ยวนี้ “โมนิก้า” พูดได้ทันทีว่า ผู้เล่นกลุ่มหลักเริ่มชะลอการเคาะขวารัว ๆ อย่างเห็นได้ชัด และน่าจะเป็นผลมาจากผลงานไตรมาส 1 ไม่ปังอย่างที่เดี๊ยนเคยย้ำให้ฟังหลายรอบ ผนวกกับมีหุ้นหลายตัวทยอยขึ้นเครื่องหมาย XD จึงไม่มีความจำเป็นต้องเข้าไปรับหุ้นในช่วงที่โค้งตัวลงมาเรื่อย ๆ เพราะมันไม่มีประเด็นที่ทำให้เชื่อว่า หุ้นจะไปไกลกว่ายอดเดิมครั้งก่อนนะซี


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*หากดูจากเบสิกการเล่นหุ้นเที่ยวนี้ “โมนิก้า” พูดได้ทันทีว่า ผู้เล่นกลุ่มหลักเริ่มชะลอการเคาะขวารัว ๆ อย่างเห็นได้ชัด และน่าจะเป็นผลมาจากผลงานไตรมาส 1 ไม่ปังอย่างที่เดี๊ยนเคยย้ำให้ฟังหลายรอบ ผนวกกับมีหุ้นหลายตัวทยอยขึ้นเครื่องหมาย XD จึงไม่มีความจำเป็นต้องเข้าไปรับหุ้นในช่วงที่โค้งตัวลงมาเรื่อย ๆ เพราะมันไม่มีประเด็นที่ทำให้เชื่อว่า หุ้นจะไปไกลกว่ายอดเดิมครั้งก่อนนะซี

*เมื่อทุกอย่างยังกลิ้งไปกลิ้งมาแบบไร้จุดหมาย ตลาดหุ้นไทยถึงโดนถล่มเทขายเป็นช่วง ๆ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ดัชนีต้องย่ำฐานเหนือแนวรับ 1,665 จุดให้มั่นคงเสียก่อน ต่อจากนั้นถึงจะมีโอกาสทะยานขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยา 1,700 จุดในอนาคตอันใกล้ “โมนิก้า” ถึงพยายามหาข่าวดีของหุ้นกลุ่มต่าง ๆ มาเล่าให้ฟังตลอดเวลาไงล่ะคะตัวเอง

*น่าเสียดายที่บรรยากาศทางเศรษฐกิจมีแต่เรื่องวุ่นวายเต็มไปหมดทุกวัน “โมนิก้า” ถึงรู้สึกพอใจที่เห็นดัชนียืนประคองตัวปิดที่ระดับ 1,671.31 จุด ลบไป 2.17 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.16 หมื่นล้านบาท เพราะเมื่อมองดูจากข่าวเก็บดอกเบี้ยเงินฝากเกินระดับ 2 หมื่นบาท เพียงเท่านี้ก็ทำให้คนในวงการต่าง ๆ รู้สึกเบื่อหน่ายกับท่าทีของคนที่คุมกฎอย่างล้นหลาม เพราะดันทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก (ต้องการจัดการคนรวยแค่ 1% แต่ดันกระทบกับคนอีก 99%) นะซี

*ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้เดี๊ยนต้องพร่ำบ่นแนวทางการลงทุนเที่ยวนี้ ควรวัดกันที่เรื่องเทคนิคมากกว่าพื้นฐานสักนิดหนึ่ง เพราะเป็นช็อตที่ทำให้แมงเม่าไหวตัวทัน และอย่าได้ไปโทษเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้เสียเวลา เพราะตามตำราที่ทุกคนเล่าเรียนกันมานั้น มันเป็นจังหวะที่บอกให้ทุกคนรู้ว่า หุ้นเข้าเขตซื้อมากเกินไปจริง ๆ และมีความจำเป็นต้อง take profit แล้วค่อยย้อนกลับเข้ามาเก็บของรอบใหม่นะจะบอกให้

*เช่นเดียวกับในรายของ PTTEP ทะยานขึ้นพร้อมกับเจอแรงเทขายทำกำไรเป็นระยะ แต่ยังยืนปิดที่ระดับ 136.50 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 1.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.99 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นการบวกสวนตลาดที่มาพร้อมกับข่าวดีที่เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ผนวกกับหุ้นยืนปิดเหนือแนวต้านบริเวณ 133 บาทได้อย่างยอดเยี่ยม จึงกลายเป็นจังหวะของการซื้อมากกว่าขายไงล่ะคะ

*เหมือนกับในรายของ EA หากยังสามารถยืนเหนือเส้นแนวรับ 10 วันบริเวณ 51 บาทได้อย่างแข็งแกร่ง “โมนิก้า” ย่อมเชื่อว่า นี่เป็นจังหวะของการเล่นตามน้ำแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะของมันเห็นกันอยู่แล้วว่า แวลูของหุ้นอยู่สูงกว่าราคาปิดวานนี้ที่บริเวณ 52.75 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 825 ล้านบาทหลายสิบช่อง จึงไม่มีอะไรต้องวอร์รี่พะยะค่ะ

*ส่วนในรายของ TQM พุ่งทะยานขึ้นมาปิดที่ 33.50 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 9.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 242 ล้านบาท กลายเป็นช็อตที่ทำให้ “โมนิก้า” ได้เรียนรู้พฤติกรรมของพวกกองทุนมากกว่าขึ้นไปอีกขั้นว่า เวลาก๊วนนี้เข้าไล่ราคาแบบสุดซอย ราคาหุ้นมักทะยานขึ้นเหนือความคาดหมายเป็นประจำ แต่สุดท้ายมักกลับมาตายที่ฐานเก่าก่อนดันด้วยเช่นกัน เพราะวันนี้เดี๊ยนยังมองไม่ออกว่า growth ปีนี้จะมีหรือเปล่านะซี

*คล้ายกับกรณีของ DDD พยายามแสดงอภินิหารให้ชาวหุ้นเห็นตั้งแต่ต้นปี 2562 ด้วยการกระชากขึ้นจากจุดต่ำสุดบริเวณ 15 บาทอย่างร้อนแรงในบางวัน แต่หลังจากนั้นปล่อยให้พวกแมงเม่าเคาะขวากันแบบเปาะ ๆ แปะ ๆ ก่อนจะย้อนกลับเข้ามาไล่ราคาแบบสุดซอยอีกครั้ง “โมนิก้า” ถึงมีความรู้สึกไม่ค่อยดีเมื่อเห็นราคาหุ้นยืนปิดที่ 34.75 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 5.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 347 ล้านบาท  เพราะไม่รู้ว่า แวลูของหุ้นอยู่ตรงไหนเจ้าค่ะ

*หากจินตนาการภาพดังกล่าวไม่ออก “โมนิก้า” ขอแนะนำให้หันดูหุ้น KCE เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจสักนิดหนึ่งว่า ทุกครั้งที่หุ้นกระชากขึ้นแรง พร้อมกับแสดงการกลับทิศอย่างบูรณาการ สุดท้ายก็ไม่เห็นเป็นเหมือนที่คิดสักครั้ง เดี๊ยนถึงไม่แน่ใจว่าการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 27 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 2.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 204 ล้านบาท มันเป็นจังหวะที่ต้องตามไปเล่นต่อหรือเปล่า ?

*เหมือนกับในรายของหุ้นน้ำแข็งใส AU ทำท่าทำทางจะขึ้นอย่างแข็งขันได้แค่ 2 วัน ต่อจากนั้นกลับโดนบอมบ์แบบไม่ให้รู้ตัว “โมนิก้า” ถึงเฉย ๆ กับการอ่อนตัวลงมาปิดที่ 8.70 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 2.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 94 ล้านบาท เพราะกรอบการเคลื่อนไหวของหุ้นอยู่ในระดับ 8-9 บาทมาตั้งแต่เดือน ก.พ. เลยไม่มีความจำเป็นต้องแสดงอาการอะไรออกมาทั้งสิ้นพะยะค่ะ

Back to top button