ค่าเสียโอกาส
*ประเด็นที่ทำให้ผู้คนพูดถึงมากเหลือเกินในช่วงนี้คงเป็นเรื่องทางการเมืองกับละครดังหลังข่าวภาคค่ำ เพราะเดินทางไปไหนมาไหนก็มีแต่คนพูดถึงเรื่องดังกล่าวเยอะแยะไปหมด “โมนิก้า” เลยต้องไหลไปตามกระแสกับเขาเสียหน่อย เพื่อไม่ให้ตัวเองกลายเป็นคนตกกระแสที่เกิดขึ้นตอนนี้ จึงถือโอกาสเล่าเรื่องที่เป็นช็อตต่อเนื่องกับสถานการณ์ดังกล่าวสักเล็กน้อยนะจะบอกให้
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ประเด็นที่ทำให้ผู้คนพูดถึงมากเหลือเกินในช่วงนี้คงเป็นเรื่องทางการเมืองกับละครดังหลังข่าวภาคค่ำ เพราะเดินทางไปไหนมาไหนก็มีแต่คนพูดถึงเรื่องดังกล่าวเยอะแยะไปหมด “โมนิก้า” เลยต้องไหลไปตามกระแสกับเขาเสียหน่อย เพื่อไม่ให้ตัวเองกลายเป็นคนตกกระแสที่เกิดขึ้นตอนนี้ จึงถือโอกาสเล่าเรื่องที่เป็นช็อตต่อเนื่องกับสถานการณ์ดังกล่าวสักเล็กน้อยนะจะบอกให้
*โดยเฉพาะเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลที่ยังไม่รู้ “ออกหัว” หรือ “ออกก้อย” กลายเป็นประเด็นที่ทำให้กูรูการเงินทั่วโลกมองเหมือนกันว่า ประเทศไทยเสียโอกาสในการแข่งขันทางด้านต่าง ๆ ไปอย่างสิ้นเชิง และความไม่ชัดเจนดังกล่าวยังทำให้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศไม่เป็นโล้เป็นพายอีกด้วย ซึ่งทำให้ระบบการเงินที่คิดว่าจะสะพัดในทุกระดับชั้นทางธุรกิจหยุดชะงักไปดื้อ ๆ ไงล่ะตัวเอง
*ตรงนี้เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ดัชนีแกว่งตัวออกด้านข้างต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพราะเมื่อนั่งบวกลบคูณหารออกมาอย่างเป็นทางการ มันไม่มีความคุ้มค่าสำหรับการลงทุนจริง ๆ เลยไม่มีใครกล้าทุ่มทุนแบบสุดตัวในจังหวะนี้ “โมนิก้า” ถึงเห็นดัชนีขยับตัวไปมาทั้งในแดนบวกและแดนลบ ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 1,673.43 จุด บวกไป 2.12 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.75 หมื่นล้านบาทแบบกร่อย ๆ พะยะค่ะ
*ขนาดในรายของ IVL ซึ่งเขาว่ากันว่า แจ๋ว ๆ แน่ ๆ ยังจอดไม่ต้องแจวเลย “โมนิก้า” ถึงมองไม่เห็นประเด็นที่จะทำให้ราคาหุ้นวิ่งสู้ฟัดอีกรอบ แถมเมื่อติดตามดูการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นเป็นเวลานานถึง 3 เดือนครึ่งแล้วพบว่า หุ้นเอาแต่มุดหัวลงลูกเดียว เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นทำใจกับการยืนปิดที่ระดับ 46.75 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือลงไป 1.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.20 พันล้านบาท เพราะเป็นการกลับมายืนที่ฐานเดิมบริเวณ 46 บาทนะซี
*เช่นเดียวกับในรายของ CBG มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับพาร์ตเนอร์ใหม่ที่จะเข้ามาช่วยต่อยอดทางธุรกิจ แต่สุดท้ายกลับไม่มีอะไรในกอไผ่สักอย่าง แถมยังถูกปรามาสว่า กำไรไตรมาส 1 ปี 2562 เทียบกับไตรมาส 4 ปี 2561 หดตัวสูงถึง 35% “โมนิก้า” ถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 61.25 บาท ลบไป 2.50 บาท หรือลงไป 3.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 610 ล้านบาท ยังไม่ใช่จุดรับของสำหรับแมงเม่าก็เท่านั้นเองจ้า !
*เหมือนกับในรายของ TKN ซึ่งพยายามผงกหัวขึ้นตลอดเวลา แต่สุดท้ายกลับทำไม่สำเร็จสักทีนั้น “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของตัวเลขยังไม่มาตามนัด ผนวกกับกำลังซื้อสินค้าหดหายไปจากตลาดค่อนข้างเยอะ เดี๊ยนถึงไม่เชื่อว่าหุ้นจะไปได้ไกลกว่าที่เป็นอยู่ แถมรอบก่อนก็เล่นกันแถวนี้แล้วเลิกทันที ยิ่งทำให้การยืนปิดที่ระดับ 10.30 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 175 ล้านบาทอันตรายขึ้นกว่าเก่า เพราะเล่นกันบน P/E 30 เท่านะซี
*ส่วนรายที่น่ารักน่าลุ้นอย่าง JMART กลายเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่กำลังมองหาหุ้นเทิร์นอะราวด์เต็มตัว แถมในช่วง 1 เดือนกว่า ๆ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า แรงซื้อที่เข้ามารอบนี้ของแท้ 100% “โมนิก้า” ถึงไม่มีความจำเป็นต้องเม้าท์มอยอะไรทั้งสิ้น เพราะในช่วงที่ผ่านมามีคนพูดแทนเดี๊ยนเยอะแยะเต็มไปหมด จึงขอเม้าท์แค่ว่า ราคาปิดที่ 9.35 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 37 ล้านบาท ยังมีแก๊ปให้เล่นต่อนะจะบอกให้
*คล้ายกับกรณีของหุ้น III ในเมื่อเห็นกันอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่า กำไรปี 2561 เติบโตถึง 16% โดยไม่มีลูกค้าไปรษณีย์เข้ามาเกี่ยวข้อง แถมในปี 2562 ตั้งเป้ากำไรเติบโตอีกไม่ต่ำกว่า 20% จากการทำธุรกิจเดิม ผสมผสานกับการเข้าไปถือหุ้นในบริษัทพาร์ตเนอร์ใหม่ ราคาหุ้นก็ควรทะยานขึ้นไปสร้างฐานใหม่ที่สูงกว่าเดิมใช่ไหม ! เดี๊ยนถึงมองการอ่อนตัวลงมาปิดที่ 5.80 บาท ลบไป 0.15 บาท หรือลงไป 2.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 34 ล้านบาท น่าจะเป็นโอกาสของการเล่นมากกว่าค่ะ
*อีกหนึ่งรายที่ตกอยู่ในร่องเดียวกัน “โมนิก้า” คงโฟกัสไปที่หุ้น JWD เพื่อทำให้นักเล่นได้มองเห็นจังหวะไหลตามน้ำได้เกิดขึ้นแล้วจริง ๆ เพราะเมื่อดูบทสัมภาษณ์ผ่านช่องทางยูทูบของสำนักข่าวหุ้นออนไลน์ ซึ่งมีการพูดถึงทิศทางธุรกิจยังไปได้สวย “โมนิก้า” ย่อมเชื่อในทันทีว่า การยืนปิดที่ระดับ 8.85 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 2.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 37 ล้านบาท มันกลายเป็นช็อตของดีราคาถูกที่แมงเม่าไม่ควรมองข้ามนะจ๊ะ
*ส่วนในรายของ SISB เห็นกันทนโท่ว่า มองในระยะสั้นก็ดีขึ้น และมองยาวขึ้นไปอีกนิดหนึ่งก็ดีสุด ๆ “โมนิก้า” ถึงมองว่าหุ้นตัวนี้เป็นทางเลือกอันดับต้น ๆ ของคนที่เน้นลงทุนระยะยาว เพราะสตอรี่ที่ถูกปูพรมในอีก 3 ปีข้างหน้ามีแต่เรื่อง growth ซึ่งจะทำให้แวลูของหุ้นเพิ่มขึ้นทุกปีอย่างมีนัยสำคัญ เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับพิจารณากันเอาเองอีกทีหนึ่งว่า การที่หุ้นยืนปิดในระดับ 7.60 บาท ใช่จังหวะของการเก็บหุ้นอะป่าว !