จังหวะชาวสวน
*หลายคนอาจมองการเคลื่อนตัวของดัชนีเป็นแบบ m-shape หรือ u-shape และอาจเป็นแบบ w-shape ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดพลาดแต่อย่างใด เพราะกระบวนการวิเคราะห์ดังกล่าวมีเหตุผลรองรับกันทั้งนั้น “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นเข้าใจหลักการลงทุนเสียก่อนว่า อย่าลืมมองความเป็นจริงรอบด้านที่เกิดขึ้น เพื่อพิจารณาผลกระทบที่เกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำไงล่ะคะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*หลายคนอาจมองการเคลื่อนตัวของดัชนีเป็นแบบ m-shape หรือ u-shape และอาจเป็นแบบ w-shape ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดพลาดแต่อย่างใด เพราะกระบวนการวิเคราะห์ดังกล่าวมีเหตุผลรองรับกันทั้งนั้น “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นเข้าใจหลักการลงทุนเสียก่อนว่า อย่าลืมมองความเป็นจริงรอบด้านที่เกิดขึ้น เพื่อพิจารณาผลกระทบที่เกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำไงล่ะคะ
*งานนี้ไม่ต้องสนใจปัจจัยรอบด้านมากก็จริง แต่ต้องเข้าใจธรรมชาติของหุ้นที่ล้อไปกับดัชนี เพื่อประเมินผลได้ผลเสียจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นข้อมูลพื้นฐานที่ “โมนิก้า” ใช้ประกอบการวิพากษ์วิจารณ์เป็นประจำ และจังหวะนี้ต้องไม่ลืมว่า การโค้งตัวลงของดัชนีคล้ายคลึงกับก่อนหน้านี้ พร้อมกันนั้นยังสื่อให้รู้ว่า จังหวะของชาวสวนกำลังมาถึงแล้วนะคะ
*สาเหตุที่ทำให้เดี๊ยนมั่นใจเช่นนั้นล้วนมาจากแพตเทิร์นทุกอย่างยังเหมือนเดิม บวกกับนักลงทุนสถาบันพากันเทขายออกมาเรื่อย ๆ เลยทำให้สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยดูอึมครึมขึ้นไปอีก บวกกับดัชนียังไม่สามารถวิ่งทะลุแนวต้าน 1,680 จุดขึ้นไปได้ “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่าดัชนีน่าจะอ่อนตัวลงมาปักหลักย่ำฐานอีกครั้ง จึงไม่ใช่เรื่องน่าตกใจหากดัชนีจะอ่อนตัวลงมาอีก เพราะทั้งทิศทางและน้ำหนักมาทางนี้แล้วนะซี
*ด้วยเหตุนี้ข้อเสนอในช่วงหลัง ๆ ถึงมีแค่การแนะนำให้เล่นหุ้นรายตัว ใครชอบหุ้นตัวใหญ่ต้องเข้าทำให้เร็วที่สุด ใครชอบหุ้นกลางต้องจับจังหวะช่วงเด้ง ส่วนใครที่ชอบหุ้นเล็กต้องกำหนดช่องเล่น 3 ช่อง แล้วออกของทันที “โมนิก้า” ถึงอยากให้เหล่านักเล่นลองประเมินการอ่อนตัวของดัชนีลงมาปิดที่ 1,667.15 จุด ลบไป 6.17 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4 หมื่นล้านบาท มีอะไรต้องสนใจอีกไหมเจ้าค่ะ
*หากยังไม่เข้าใจ “โมนิก้า” ขอแนะนำให้ย้อนกลับไปดูแพตเทิร์นการทะยานขึ้นของหุ้น AOT ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ? วันนี้รูปแบบดังกล่าวกำลังเดินตามรอยอีกครั้ง เดี๊ยนถึงย้ำเสมอว่า หุ้นแต่ละตัวมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไปก็จริง แต่รูปแบบเคลื่อนตัวมักมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง (67-70) เซียนหุ้นสำนักต่าง ๆ ถึงจะหันมาเล่นเทคนิคกันเยอะแยะไปหมด และการปิดที่ 68 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 911.08 ล้านบาท น่าจะเป็นโอกาสของการเล่นรอบนะจ๊ะ
*ดาวเด่นอีกหนึ่งตัวที่ “โมนิก้า” อยากให้แฟนคลับจับตาให้ดี ๆ ในเที่ยวนี้ก็คือ SQ ในเมื่อแผนงานทุกอย่างยังมีลุ้นเทิร์นอะราวด์ ก็ถูกต้องแล้วที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นสวนภาวะ งานนี้ไม่ต้องไปสืบเสาะแสวงหาประเด็นอื่นให้เสียเวลา แค่รู้ว่าหลังจากนี้จะดีขึ้นอย่างรูปธรรม ราคาหุ้นก็ควรวิ่งขึ้นใช่ไหมเอ่ย ? เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับดูราคาปิดที่ 2.50 บาท บวกไป 0.10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 84.03 ล้านบาท น่าลุยต่อไหม ?
*เช่นเดียวกับในรายของ BEM ถูกปูฐานด้วยความเชื่อเรื่อง growth ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย. 2561 ต่อเนื่องถึงเดือน ก.พ. 2562 หุ้นถึงไต่ระดับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง จากหุ้นที่มีค่าตัวแค่ 8.50 บาท ขยับขึ้นไปเกือบ 11 บาท ก่อนจะม้วนตัวลงมายืนปิดที่บริเวณ 10.50 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือ 1.94% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 452.28 ล้านบาท มันเป็นจังหวะของนักลงทุนระยะสั้นอย่างแท้จริง งานนี้ไม่ได้เชียร์ให้ซื้อสุดลิ่มทิ่มประตู แค่อยากบอกเล่าเรื่องราวของหุ้นที่มีแนวโน้มเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นก็เท่านั้นเอง
*เหมือนกับกรณีของหุ้นเดินเรือ OSP มองในมุมของความเชื่อเรื่องผลการดำเนินงาน “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจที่ผู้เล่นต้องชะเง้อตามอง ยิ่งเห็นหุ้นฟอร์มตัวรอบใหม่ด้วยการขึ้นแรงสองสามวันแล้วพัก ต่อจากนั้นเริ่มขยับขึ้นอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ยิ่งต้องตามไปดูแบบไม่ให้คลาดสายตา หลังหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 30.75 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 2.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 743.32 ล้านบาท มันเป็นจังหวะที่น่าเสี่ยงดูสักตั้งนะจะบอกให้
*ส่วนหุ้นเด่นประเด็นร้อนอย่าง NOBLE คงเป็นเพียงแค่เกมหุ้นที่นำมาผูกเข้ากับวิศวกรรมทางการเงิน ราคาหุ้นระหว่างวันถึงพุ่งทะยานอย่างร้อนแรง เพราะเมื่อเจาะดูเนื้อในงบการเงินคงเป็นการถ่ายโอนแบบถูกกฎหมาย เพราะคนเก่าก็รับเงินเข้ากระเป๋าเนื้อ ๆ ส่วนคนใหม่ก็ได้ทรัพย์สินจำนวนมากเช่นกัน “โมนิก้า” ถึงมองการย้อนลงมาทำได้แค่ทรงตัว ปิดที่ระดับ 18.30 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 274.68 ล้านบาท มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วเจ้าค่ะ…อิอิ