PRIN ภายใต้เงา KPNH
ประเด็นที่นักลงทุนกลัวว่า PRIN จะจบไม่สวยในท้ายเรื่องนั้น ถือเป็นการด่วนสรุปเกินไปหน่อย และใช้ความคิดของตัวเองเป็นหลัก โดยไม่ได้มองดูความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงค่อนข้างเยอะ ซึ่งเป็นเรื่องที่ตัวนักลงทุนต้องปรับปรุงแก้ไขโดยด่วน ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถหาโอกาสในการลงทุนได้เลย
คุณเสถียร จากพระราม 2 กรุงเทพฯ ถามถึงสถานการณ์ของหุ้น PRIN หรือ บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) หลังจาก บริษัท เคพีเอ็น โฮลดิ้ง จำกัด หรือ KPNH เข้ามาถือหุ้นใหญ่ 30% จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นบ้าง เพราะข้อมูลที่ผมได้รับมาอีกทอดหนึ่งเป็นเพียงการเอาหุ้นเข้าตลาดหุ้นทางอ้อม ไม่สามารถคาดหวังโครงการที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการจะทำกำไรมหาศาล จึงอยากให้อาจารย์ช่วยประเมินเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรอบนี้ด้วย เพราะดูท่าทางเรื่องนี้จะจบไม่ค่อยสวยนะครับ
ประเด็นที่นักลงทุนกลัวว่า PRIN หรือ บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) จะจบไม่สวยในท้ายเรื่องนั้น ถือเป็นการด่วนสรุปเกินไปหน่อย และใช้ความคิดของตัวเองเป็นหลัก โดยไม่ได้มองดูความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงค่อนข้างเยอะ ซึ่งเป็นเรื่องที่ตัวนักลงทุนต้องปรับปรุงแก้ไขโดยด่วน ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถหาโอกาสในการลงทุนได้เลย
เหมือนกับการเข้ามาของ บริษัท เคพีเอ็น โฮลดิ้ง จำกัด หรือ KPNH ซึ่งกำลังจะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 30% ย่อมจะมีอะไรใหม่ๆ เข้ามาสร้างสีสันให้กับหุ้นตัวนี้มากพอสมควร ส่วนจะเป็นจริงเหมือนกับที่บางกระแสคาดการณ์ขนาดไหน ต้องติดตามดูกันต่อไปเรื่อยๆ นะครับ
เนื่องจากข้อมูลเบื้องต้นที่อาจารย์นั่งอ่านคร่าวๆ พบว่า KPNH ก็ไม่ใช่บริษัทที่มีผลการดำเนินงานเลิศหรูแต่อย่างใด แถมในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีผลขาดทุนถึง 2 ครั้งด้วยกัน จึงเป็นเรื่องที่น่ากลัวไม่ใช่น้อย หากนักลงทุนคิดจะเข้าลงทุนในจังหวะนี้
สาเหตุที่ทำให้อาจารย์มีความคิดเช่นนั้นเป็นผลมาจาก KPNH ต้องใช้เงินซื้อ บริษัท เคพีเอ็น กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ KPNGC เข้ามาอยู่ภายใต้ร่มเงาเป็นเงินกว่า 4,200 ล้านบาท ต่อจากนั้นถึงจะสีสิทธิ์รับรู้รายได้ และกำไรจากโครงการที่ KPNGC มีอยู่ในมือ 4 โครงการ ซึ่งแต่ละโครงการมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านบาท
น่าเสียดายที่โลกแห่งความเป็นจริงไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบ และภาวะเศรษฐกิจในประเทศก็ไม่ดีอย่างที่หลายคนคาดหวัง ส่งผลให้โอกาสในทำยอดขายแบบถล่มทลาย ถึงเป็นเรื่องที่ไกลเกินตัวไปหน่อย และดูเหมือนว่า ในช่วงนี้นักลงทุนจะสนใจเรื่อง sell on fact มากกว่าประเด็นอื่น
หุ้น PRIN ถึงไม่ร้อนแรงสักเท่าไหร่ เพราะถือว่า เดินมาถึงตอนจบแล้ว
ส่วนจะมีภาคต่อหรือไม่ อันนี้ต้องติดตามกันเอาเอง แต่เมื่อดูคร่าวๆ อะไรหลายอย่างก็ไม่เป็นใจให้เข้าเล่นนะครับ
…