ตั้งหลักก่อน

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*เดี๊ยนยอมรับว่า อาการแกว่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นแกว่งตัวลงอย่างต่อเนื่อง มันเป็นสถานการณ์ที่บีบคั้นหัวใจนักลงทุนอย่างแรง จนพวกจิตอ่อนเกิดอาการไขว้เขว ขายหุ้นผิดจังหวะจะโคนไปหมด “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับหลบไปตั้งหลักสักพักหนึ่งก่อน เพราะเมื่อดูตามเนื้อผ้าที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ มันเป็นอะไรที่พูดยากมาก ๆ แถมพอถึงเวลาที่ต้องทำจริง ๆ กลับทำได้ยากกว่าหลายเท่านะคะ

*ด้วยเหตุนี้อย่าได้กังวลใจอะไรไปเลย เพราะข้อมูลที่ได้รับมาอีกทอดหนึ่งก็มีการพูดถึงกรอบลงทุนที่วนไปวนมา ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละคนสามารถเข้าไปเก็บหุ้นได้ในจังหวะไหน ? หากช้อนหุ้นได้ในราคาต่ำ ๆ ก็คงรู้สึกแฮปปี้เอ็นจอย… หากเข้าไปเก็บหุ้นในราคาสูงก็คงต้องลุ้นตัวโก่ง “โมนิก้า” ถึงต้องการให้เหล่านักเล่นเคลียร์หน้าเสื่อให้เรียบร้อยตั้งแต่ตอนนี้เจ้าค่ะ

*ประกอบกับสัปดาห์นี้ยังมองไม่เห็นปัจจัยบวกใหม่ๆ จึงไม่มีความจำเป็นต้องกอดหุ้นไว้ในพอร์ตเยอะ ๆ เพราะไม่รู้ว่าตัวแปรที่จะทำให้นักเล่นเกิดความฮึกเหิมมีอะไรบ้าง “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับยึดนโยบาย “เข้าเร็ว ออกเร็ว” เพื่อความคล่องตัวในการเล่นหุ้นช่วงตลาดกำลังทดสอบแรงขาย บวกกับข้อมูลที่ปรากฏให้เห็นในจังหวะนี้มีแต่เรื่องราวชวนระทึกขวัญ จึงต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่างตั้งแต่เนิ่น ๆ  พะยะค่ะ

*เหมือนกับการทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงของหุ้น BEM จนสุดท้ายหุ้นขึ้นมาปิดที่ 11.20 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 2.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 684.03 ล้านบาท ทั้งที่ 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ถูกเทขายจนลงมานอนกลิ้งอยู่ที่ 10 บาท  “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่นักลงทุนต้องอ่านเกมให้ขาดก่อนเข้าลงทุน เพราะจังหวะของการลงทุนเที่ยวนี้เปลี่ยนเร็วเหลือเกิน..บางวันขึ้นแรง บางวันลงแรง บางวันนิ่ง ๆ จำได้ไหมจ๊ะ

*ส่วนในรายของ CKP ทะยานขึ้นมาปิดที่ 5.95 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 1.71% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 265.01 ล้านบาท ล้วนเป็นช็อตที่เหล่านักเล่นเชื่อกันว่า กำไรปี 2562 น่าจะออกมาเริ่ดสะแม็นแต็น จึงมีแรงซื้อเข้ามาไล่ราคาหุ้นจนทำ new high เป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนเครื่องกล และเมื่อดูจากแฟนคลับเจ้าประจำที่ยังหนาแน่น หุ้นมีโอกาสไปอีกค่อนข้างสูง แต่ทันทีที่เหลือบดูค่า P/E ปาเข้าไป 72 เท่า “โมนิก้า” คิดว่า ลองกลับไปคิดอีกทีดีไหม ?

*บทเรียนเรื่องดังกล่าวดูได้จากราคาหุ้น TOP พยายามทะยานขึ้นไปหายอดเดิมก่อนหน้านี้ที่ระดับ 75 บาทได้ไม่ทันไร ต่อจากนั้นมีแรงเทขายถล่มออกมาไม่เลี้ยง จนหุ้นเซถลาลงมาใกล้ฐานเดิมบริเวณ 68 บาท ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 69 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 0.36%  ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 569.35 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่สมควรเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการลดอุณหภูมิของหุ้นไม่ให้ฮีตจนเกินไป ซึ่งจะทำให้การขึ้นเที่ยวนี้สนุกตื่นเต้นยิ่งขึ้นค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวสอดคล้องกับการไต่ระดับของหุ้น MTC อย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งได้แรงซัพพอร์ตมาจากผลการดำเนินงานที่เข้าตากรรมการ หุ้นถึงไต่เพดานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายมาจบที่ราคา 51.50 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 0.48%  ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 568.67 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่คนเล่นเริ่มผ่องหุ้นออกไปบางส่วนในช่วงที่หุ้นถีบตัวขึ้น เพราะไซเคิลของหุ้นเป็นแบบขึ้นแรงแล้วพักนะซี

*ส่วนรายที่เคยขึ้นไปแรง ๆ แล้วทุบอย่าง KTB มันเป็นจังหวะที่แฟนคลับต้องเล่นเกมเร็ว เหตุผลของการขึ้นก่อนหน้านี้ยังเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนตัวเล่นไปเรื่อย ๆ ไม่มีเรื่องปัจจัยพื้นฐานเข้ามาสนับสนุนสักเท่าไหร่ ? มารอบนี้ “โมนิก้า” ถึงเห็นหุ้นมาปิดที่ 18.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 223.94 ล้านบาท  มันเป็นภาพที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นหุ้นวิ่งขึ้นไปเกือบ 20 บาท ต่อจากนั้นหุ้นลงมายืน 18.50 บาทไงล่ะคะ

* ไหน ๆ พูดถึงหุ้นที่มีแพตเทิร์นเดิม ๆ ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอเม้าท์ถึง WHA เพื่อย้ำถึงกรอบการวิ่งของหุ้นยังอยู่ที่ระดับ 4.10-4.50 บาทเหมือนเดิม บวกกับตลอดระยะเวลาเกือบ 7 เดือนก็ยังอยู่ในทรงนี้ “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉย ๆ ที่เห็นหุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 4.28 บาท ลบไป 0.04 บาท หรือลงไป 0.93% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 132.37 ล้านบาท เพราะมันไม่มีอะไรซับซ้อนเลยสักอย่างนะซี

*สำหรับรายที่พยายามฉีกกฎอย่าง BANPU พอถึงจุดหนึ่งของการลงทุนที่เกิดขึ้น “โมนิก้า” ก็มักจะเห็นแรงขายทยอยออกมาเป็นระลอก การที่หุ้นขึ้นมาปิดที่บริเวณ 16.30 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือ 0.63% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 286.17 ล้านบาท มันเป็นภาพที่ย้ำกับนักเล่นสั้นให้ระลึกไว้เสมอว่า เมื่อโอกาสทำกำไรรออยู่เบื้องหน้า ก็ไม่มีความจำเป็นต้องรีรออะไรทั้งสิ้นเจ้าค่ะ