เห็นหัวประชาชนบ้าง

ผิดคาดอยู่หน่อยที่ กกต.รับรอง ส.ส.ทั้ง 349 เขต นอกจากเขต 8 เชียงใหม่ ไม่แจกใบส้มให้ใครอีก ทั้งที่ กกต.สามารถตัดสิทธิหรือแขวนไว้ 17 เขต ก็ยังได้ ส.ส. 95% เปิดประชุมสภาตั้งรัฐบาล


ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

ผิดคาดอยู่หน่อยที่ กกต.รับรอง ส.ส.ทั้ง 349 เขต นอกจากเขต 8 เชียงใหม่ ไม่แจกใบส้มให้ใครอีก ทั้งที่ กกต.สามารถตัดสิทธิหรือแขวนไว้ 17 เขต ก็ยังได้ ส.ส. 95% เปิดประชุมสภาตั้งรัฐบาล

ที่ผู้คนคาด หรือพูดอีกอย่าง-หวั่นวิตก ก็เพราะมีเรื่องร้องเรียนกันมากมาย มีสาระบ้าง ไร้สาระเสียเยอะ ตั้งแต่ข้อหาไม่สุจริต ไปจนขาดคุณสมบัติเพราะถือ “หุ้นสื่อ” ทำให้ประชาชนไม่มั่นใจ ไม่ไว้วางใจ กลัว กกต.ตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง ในสถานการณ์ที่คะแนนเสียงก้ำกึ่ง

ที่ไหนได้ กกต.รู้ตัว รู้ว่ากระแสสังคมกดดัน จึงใช้อำนาจอย่างระมัดระวัง ประกาศรับรอง ส.ส.ไปก่อน มีปัญหาค่อยส่งศาลภายหลัง เรื่องคุณสมบัติก็ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ข้อหาไม่สุจริตก็ส่งศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง กกต.ยังมีหลังพิง ไม่ต้องเป็นหนังหน้าไฟ แถมวันพุธนี้ ยังมีเรื่องใหญ่ ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยกฎหมายเลือกตั้ง สูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ กกต.ออมเครดิตไว้ดีกว่า

ก็ต้องชมว่า กกต.ตัดสินใจถูกแล้ว รู้จักเกรงใจประชาชน เพราะหากไม่มีหลักฐานว่าผู้สมัครซื้อเสียงปูพรม ก็ไม่ควรใช้มติ กกต. 7 คน สกัดไม่ให้เป็น ส.ส. ข้อหาเล็ก ๆ น้อย ๆ แม้แต่กรณีถวายเงินพระ 2 พันบาท ล้วนไม่ใช่ปัจจัยทำให้ประชาชนหลายหมื่นคนเลือกเข้ามา

การให้อำนาจ กกต. 5 คน 7 คน แจกใบแดงใบส้ม เพียงเพราะ “เชื่อได้ว่า” ไม่สุจริต มันผิดหลักการประชาธิปไตยตั้งแต่ กกต.ชุดแรก แต่ก็ต่อเติมจนเป็นอำนาจเทวดา

ในขณะที่ กกต.ยังเห็นหัวประชาชน โฟกัสประจำวันจึงหันไปที่การตั้ง ส.ว. 250 คน ซึ่งรู้กันว่าตั้งมาเลือกใครเป็นนายกฯ

ยังไม่ทันนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ก็เผยตัวกันอ้าซ่า แห่ลาออกจากรัฐมนตรี 15 คน คสช. 4 คน สนช.ยังนับไม่ถ้วนว่าเท่าไหร่ แต่สื่อรายงานว่า 50-90 คน ไม่นับพวกที่เคยเป็น สปช. สปท.

ในจำนวนนี้รวมถึง พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกลาโหม น้องชายนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์อย่างตรงไปตรงมา ลาออกเพราะได้เป็น ส.ว.

เสียดายนักข่าวไม่ถามต่อ ได้เป็น ส.ว.เพราะพี่ชายตั้ง แล้วจะยกมือเลือกพี่ชายเป็นนายกฯ ต่อไปใช่หรือไม่

รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ยังเล่าว่า นายกฯ ถามในที่ประชุม ครม. ใครอยากเป็น ส.ว.ก็แจ้งความจำนงมาได้ แหม่ ตำแหน่งนี้ช่างเป็นง่าย แค่บอกหัวหน้า คสช.ก็ได้เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย มีอำนาจเท่าเทียม ส.ส. ที่หาเสียงเหนื่อยยากกว่าจะชนะใจประชาชน

ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า คนเป็นรัฐมนตรีมา 5 ปี จะยังอยากเป็น ส.ว.หาสวรรค์วิมานอะไร รัฐบาลรัฐประหารชุดก่อน ๆ ไม่เคยมีอย่างนี้ หรือไม่มีตัวเลือก เหลือแต่คนใกล้ตัว แบบเดียวกับ สนช.บางคนบางกลุ่ม เข้ามามีตำแหน่งตั้งแต่รัฐประหาร 2549 แล้วเป็น ส.ว.สรรหา รัฐประหาร 2557 กลับมาใหม่ รัฐธรรมนูญ 2560 ก็ได้เป็น ส.ว.อีก

มองมุมกลับก็น่าเห็นใจ เหมือนไม่มีคนที่ไว้วางใจ ไม่มีคนหน้าใหม่อยากโดดเข้ามาร่วมหัวจมท้าย มือไม้ของคณะรัฐประหารมีอยู่แค่นี้

รัฐธรรมนูญ 2560 ออกแบบมาดี ปูทางสืบทอดอำนาจ แต่ไม่เห็นหัวประชาชน เลือกตั้งมาเดือนครึ่ง กว่าจะรับรองผู้แทนที่ประชาชนเลือก ก็ต้องวิตกกังวลสารพัด จนป่านนี้ ยังไม่รู้สูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ แต่ ส.ว.ตู่ตั้ง ทั้งคนหน้าเดิม ๆ คนใกล้ชิด ออกมาลอยหน้าลอยตากันแล้ว เข้าสภาไม่เห็นยาก ไม่เห็นต้องลำบากเหมือนไอ้พวกหน้าโง่ 500 คน ที่ต้องเหนื่อยยาก ลงทุนลงแรง เสี่ยงคุกเสี่ยงตะราง ใบส้มใบแดง ฯลฯ

แถมครึ่งหนึ่งของไอ้พวกนั้นก็ยังจะหนุนคนเดียวกันเป็นนายกฯ ตลกสิ้นดี

Back to top button