งบแย่..หุ้นทรุด

*วานนี้เป็นอีกครั้งที่ “เพื่อนสนิท มิตรสหาย” อันเป็นที่รักกริ๊งกร๊างมาหา “โมนิก้า” จนสายแทบไหม้ พร้อมกับเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ในแวดวงตลาดหุ้นกันอย่างออกรสชาติ แถมยังมีการพูดถึงประเด็นสำคัญของวันก่อนที่เม้าท์ว่า ตลาดหุ้นไทยได้แค่นี้จริง ๆ เดี๊ยนถึงไม่มีความจำเป็นต้องสาธยายอะไรให้มากความอีกต่อไป เพราะทั้งหมดมันเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้ดีแก่ใจไงล่ะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*วานนี้เป็นอีกครั้งที่ “เพื่อนสนิท มิตรสหาย” อันเป็นที่รักกริ๊งกร๊างมาหา “โมนิก้า” จนสายแทบไหม้ พร้อมกับเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ในแวดวงตลาดหุ้นกันอย่างออกรสชาติ แถมยังมีการพูดถึงประเด็นสำคัญของวันก่อนที่เม้าท์ว่า ตลาดหุ้นไทยได้แค่นี้จริง ๆ เดี๊ยนถึงไม่มีความจำเป็นต้องสาธยายอะไรให้มากความอีกต่อไป เพราะทั้งหมดมันเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้ดีแก่ใจไงล่ะคะ

*ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่า ทุกครั้งที่อเมริกาตัวแสบหาเรื่องพี่จีนทีไร ตลาดหุ้นทั่วโลกมักมีอาการปั่นป่วนเป็นประจำ “โมนิก้า” เลยไม่มีความจำเป็นต้องอธิบายการร่วงลงมาปิดที่ 1,654.01 จุด ลบไป 15.67 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.56 หมื่นล้านบาท เพราะมันเป็นไฟต์บังคับที่ทำให้กองทุนต้องสาดหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สภาพของตลาดหุ้นไทยดูไม่จืดอีกครั้งนะจะบอกให้

*นั่นหมายความว่า นักเล่นต้องย้อนกลับมาดูเรื่องปัจจัยพื้นฐานเป็นที่ตั้ง เพราะเป็นเพียงตัวแปรเดียวที่ทำให้นักเล่นได้รู้ว่า หุ้นตัวไหนแพง..หุ้นตัวไหนถูก พร้อมกันนั้นก็ควรดูสัญญาณเทคนิคควบคู่กันไปด้วย เพื่อทำให้เห็นจังหวะเข้าช้อนซื้อหุ้นมาถึงหรือยัง ? เดี๊ยนถึงไม่มีอาการตื่นตระหนกเมื่อเห็นหุ้นอันเป็นที่รักหลายตัวถูกกระทำชำเราอย่างหนักตั้งแต่เช้าจรดเย็น หลังบรรยากาศการลงทุนมันไม่เอื้อให้ลุยแบบสุดซอยนะซี

*เหมือนกับการโดนดั๊มพ์ทุกราคาของหุ้น EA เดี๊ยนมองจากในมุมไหน ด้านไหน ก็มาจากปัจจัยภายนอกที่อยู่เหนือการควบคุม วานนี้ถึงเห็นหุ้นรูดลงมากองอยู่ที่ระดับ 54 บาท ลบไป 3.75 บาท หรือลงไป 6.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.23 พันล้านบาท มันกลายเป็นโอกาสทยอยสะสมหุ้นของคนที่มีเงินเย็น เพราะของมันเห็นกันทนโท่ว่า บรรดาเกจิอาจารย์ดังให้ราคาเป้าหมายเกิน 60 บาทกันทั้งนั้นเจ้าค่ะ

*ส่วนในรายของ MTC เจอแจ็กพอตเรื่องกำไรต่ำกว่าคาดเล่นงานเข้าเต็มเปา ราคาหุ้นถึงโดนถล่มตั้งแต่เปิดตลาดแบบไม่ปรานี ผนวกกับพรายกระซิบแอบไปได้ยินพวกเฮดจ์ฟันด์คุยกันว่า เดินหน้าช็อตหุ้นแบบเต็มอัตราศึก “โมนิก้า” ถึงมองการอ่อนตัวลงมาปิดที่ 47.75 บาท ลบไป 3.25 บาท หรือลงไป 6.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.77 พันล้านบาท น่าจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของขาลงสั้น ๆ รอบใหม่นะคะ

*ขนาดหุ้นทีเด็ดทีขาดอย่าง CKP ยังโดนทิ้งแบบไม่ไว้หน้า “โมนิก้า” เลยไม่จำเป็นต้องพูดถึงการทรุดตัวลงมาปิดที่ 5.70 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไป 5% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 833 ล้านบาทให้เสียเวลา เพราะคอนเซ็ปต์ที่ทุกคนมองในเวลานี้เป็นเรื่องของการเอาตัวรอดเป็นอันดับแรก เรื่องอื่นไว้คุยกันหลังจากทุกอย่างสงบนิ่งดีกว่า เดี๊ยนเลยไม่รู้จะพูดถึงเรื่องปัจจัยพื้นฐานเยอะแยะไปทำไมนะซี

*สำหรับในรายที่ทำผลงานไม่ดีอย่างหุ้น IRPC ถือเป็นอีกช็อตที่ทำให้นักเล่นต้องคิดหนักอย่างบอกไม่ถูกกันเลยทีเดียว หลังหุ้นหลุดฐานแนวรับสำคัญลงมาแบบหลุดลุ่ย บวกกับแรงเทขายเที่ยวนี้เยอะมากกว่าเดิมหลายเท่า “โมนิก้า” ถึงรู้สึกกังวลใจเมื่อเห็นหุ้นอ่อนตัวลงมาปิดจุดต่ำสุดของวันบริเวณ 5.25 บาท ลบไป 0.15 บาท หรือลงไป 2.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.06 พันล้านบาทไงล่ะคะ

*ส่วนในรายของเถ้าแก่เละ TKN ตกอยู่ในสภาพร่องแร่งชนิดที่คนใกล้ตัวพูดไม่ออก “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นความเสี่ยงสำหรับคนที่เชื่อว่า กำไรในไตรมาส 2 ต่อเนื่องถึงไตรมาส 3 ยาวจนไปถึงไตรมาส 4 จะดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เพราะของมันเห็นกันทนโท่ว่า สินค้ามันเอาต์..แถมกระแสก็ไม่มา หุ้นถึงทิ้งดิ่งลงมาปิดที่จุดต่ำสุดของวันบริเวณ 10.20 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 6.40%  ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 155 ล้านบาทพะยะค่ะ

*เช่นเดียวกับหุ้นขายสี TOA มีคนพูดกันหนาหูเหลือเกินว่า กำไรดีอย่างนั้น..กำไรดีอย่างนี้ แต่เมื่อเหลือบดูผลงานในแต่ละปีที่เกิดขึ้น กลับไม่เลิศเลอเพอร์เฟ็กต์สักอย่าง ! ซึ่งกลายเป็นชนวนเหตุที่ทำให้กองทุนทั้งน้อยใหญ่รินหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง จากช่วงต้นปีหุ้นยืนอยู่แถวบริเวณ 38 บาท ล่าสุดโดนถล่มลงมาปิดที่ระดับ 29.50 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 4.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 180 ล้านบาท มันกลายเป็นช็อตบังคับให้หุ้นต้องเด้งเพื่อเปลี่ยนโมเมนตัมเป็นการพักฐานแทนการลงยาวนะซี

*ขนาดหุ้นน้องใหม่อย่าง VRANDA พกข่าวดีมาเต็มกระเป๋า และหลายคนเชื่อมั่นในตัวบริษัทอย่างล้นหลาม แต่วานนี้กลับโดนเทขายจนราคาหุ้นไหลลงมาปิดต่ำสุดของวันที่บริเวณ 10 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 5.65 ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 117 ล้านบาท มันทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกหวั่นใจเหลือเกินว่า หุ้นมีโอกาสหลุดไอพีโอค่อนข้างสูง เพราะนักเล่นกลุ่มสถาบันไม่อยากเก็บหุ้นไว้ในพอร์ตพะยะค่ะ

Back to top button