เอาอะไรมาขึ้น?

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ประเด็นคำถามที่แมงเม่าเม้าท์ถึงมากสุดในเที่ยวนี้ กลายเป็นเรื่องปัจจัยที่จะทำให้ตลาดหุ้นไทยกลับเข้าสู่วงโคจรขาขึ้นมีอะไรบ้าง เพราะมองไปทางไหน ด้านไหน มีแต่เรื่องราวที่ชวนปวดเศียรเวียนเกล้าไม่เว้นในแต่ละวัน ผนวกกับประเด็นสงครามการค้านับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น (วาทกรรม) “โมนิก้า” ถึงมองไม่เห็นโอกาสที่ดัชนีจะทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งอีกรอบนะซี

*งานนี้ถึงต้องขอบอกกันตามตรงว่า เดี๊ยนรู้สึกจนปัญญาจริง ๆ ที่จะสรรหาข่าวดีมาเล่าสู่กันฟัง เพราะมองไปทางไหน ด้านไหน บรรดานักเล่นเตรียม “เคาะซ้าย” มากกว่า “เคาะขวา” ส่งผลให้ภาพของการเล่นเต็มไปด้วยความอึดอัดใจอย่างบอกไม่ถูก ผนวกกับข่าวลือต่าง ๆ ผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด เท่ากับเป็นแรงกดดันให้นักลงทุนต้องอยู่เฉย ๆ หากไม่อยากเจ็บตัวไปมากกว่าที่เป็นอยู่นะจะบอกให้

*เมื่อสถานการณ์ออกมาในรูปนี้ “โมนิก้า” ก็ขอเม้าท์ถึงเฉพาะหุ้นตัวที่น่าจะมีปัญหาเรื่องปั๊มกำไร เพราะเป็นกลุ่มหุ้นที่มีการเข้ามาไล่สั้น ๆ ต่อจากนั้นก็ปล่อยให้ร่วงลงเป็นประจำ จึงอยากให้นักเล่นระวังตัวในการเข้าลุยเป็นพิเศษ และขอให้จำไว้ว่า ดัชนีทะยานขึ้นมาปิดที่ 1,646.80 จุด ลบไป 7.21 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.50 หมื่นล้านบาท มันเป็นคนละประเด็นกับการเล่นหุ้นรายตัวที่โผล่มาเขียวบ้าง แดงบ้างนะจ๊ะ

*เหมือนกับการแกว่งตัวไปมาของ TRUE ท่ามกลางแผนธุรกิจที่ยังเป๋ไปเป๋มา และไม่รู้จะปั๊มกำไรให้สูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอย่างไร ? “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นคิดหน้าคิดหลังให้ดีก่อนเข้าลุย เพราะวงรอบของหุ้นก่อนหน้านี้เล่นกันแค่ระดับ 4.70-5.20 บาท ขณะที่วานนี้หุ้นยืนปิดที่ระดับ 5 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 1.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 490 ล้านบาท มันเป็นเรื่องที่ต้องคิดมากจริง ๆ นะจะบอกให้

*เช่นเดียวกับในรายของหุ้นถ่านหิน BANPU ตั้งแต่หมดมนต์ขลังเรื่องกำไรโต ราคาหุ้นก็ไม่รู้จักคำว่า “ขึ้น” เป็นอย่างไร ? รวมทั้งบรรดาเกจิอาจารย์ดังไม่ปลื้มหุ้นตัวนี้อีกต่อไป สถานการณ์ของหุ้นถึงอยู่ในลักษณะแกว่งตัวลงเป็นหลัก เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นลองไปคิดดูว่า การอ่อนตัวลงมาปิดที่ 15.80 บาท ลบไป 0.10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 322 ล้านบาท เป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า หุ้นจะลงไปทดสอบโลว์เดิมบริเวณ 14.50 บาทหรือเปล่า ?

*อีกรายในเที่ยวนี้คือ KTB เห็นกันชัด ๆ ว่ายังเคลื่อนไหวในกรอบเดิมบริเวณ 17-21 บาทเป็นเวลาปีกว่า ๆ “โมนิก้า” ย่อมตะขิดตะขวงใจเมื่อเห็นหุ้นยืนปิดที่ระดับ 18.90 บาท บวกไป 0.10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 377 ล้านบาท เพราะมันตีความได้อย่างเดียวว่า ไม่พร้อมขึ้น ! เนื่องจากผลงานหลังจากนี้ไม่รู้จะออกลูกผีลูกคน จึงไม่ควรคาดหวังกับหุ้นการเมืองตัวนี้มากเกินไปนะจะบอกให้

*คล้ายกับกรณีของหุ้นปูนใหญ่ SCC ยืนตระหง่านปิดที่ระดับ 458 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 525 ล้านบาท เพราะแก้เกมด้วยการอัดปันผลล่อใจบรรดากองทุน ราคาหุ้นถึงยืนหยัดในราคาสูงได้อย่างยอดเยี่ยม แต่เมื่อย้อนดูกำไรลดลงต่อเนื่อง 2 ปีติด กลับกลายเป็นประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” เลือกเม้าท์ถึงหุ้นตัวอื่นมากกว่าหุ้นยักษ์ใหญ่รายนี้ เพราะไม่รู้จะเอามุมไหนมาพูดปลุกใจนักเล่นให้ฮึกเหิมเจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของ COM7 ทุกคนรู้ดีว่ากำไรในปี 2562 น่าจะโตได้อีก เพียงแต่การเติบโตของกำไรอาจวิ่งไม่ทันราคาหุ้นในกระดาน ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ราคาหุ้นโค้งตัวลงอีกรอบ เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นมองการยืนปิดที่ 19.10 บาท ลบไป 0.30 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 178 ล้านบาท ท่ามกลางการเทรดบนค่า P/E 26 เท่า มันใช่จุดของการเข้าไปช้อนหุ้นจริงหรือเปล่า ? ลองไปคิดกันดูนะจ๊ะ

*ส่วนรายที่มีผลงานออกทะเลไปไกลอย่าง KCE กลายเป็นช็อตที่มีความเสี่ยงเต็มประตูหน้าต่าง เพราะวันนี้ยังดูไม่ออกว่า อะไรจะเป็นตัวแปรที่ทำให้กำไรกลับมาโตระเบิดระเบ้อ ! คิดดูแล้วกัน..จากบริษัทที่เคยทำกำไรได้ปีละ 3 พันล้านบาท ต่อมาลดลงเหลือ 2.50 พันล้านบาท และล่าสุดเหลือแค่ระดับ 2 พันล้านบาท และในปี 2562 กำไรจะเหลือเท่าไหร่ ? เดี๊ยนถึงอยากให้มองราคาปิดที่ 24.10 บาท ลบไป 0.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 92 ล้านบาท น่าเล่นไหม ?

*เช่นเดียวกับอาการทรุดตัวลงของ STA ตั้งแต่ปลายเดือน ก.พ. ต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้ “โมนิก้า” ตีความได้อย่างเดียวว่า ผลงานปีนี้ไม่เวิร์กอย่างแน่นอน จึงมีแต่คนทิ้งหุ้นลงมาเพื่อไปรับที่ราคาต่ำกว่า ซึ่งเป็นแท็กติกการเล่นหุ้นขาลงที่เห็นได้เป็นประจำในยามขาดข่าวดีเข้ามาประคอง วานนี้ถึงเห็นหุ้นยืนปิดที่ 12.40 บาท ลบไป 0.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 69,691 ล้านบาทแบบเซ็งในอารมณ์ (หุ้นอาจลงเพราะ XD แต่วันนี้ต้องเด้ง เพื่อทำให้ทุกอย่างดีขึ้น) นะจะบอกให้