GRAMMY หุ้นที่โลกลืม
หุ้นกลุ่มทีวีดิจิทัลน่าจะกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง และเที่ยวนี้มีการพุ่งเป้าไปยังหุ้น GRAMMY มากเป็นพิเศษ เพราะค้างค่าใบอนุญาตสูงถึง 1,955 ล้านบาท
ตีแผ่บจ.ดัง
คุณกิจพล จากท่าพระ กรุงเทพฯ พูดถึงความเคลื่อนไหวของหุ้นทีวีดิจิทัลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีแต่หุ้นที่มีปัญหาเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไรทั้งนั้น และหนึ่งในหุ้นที่นักวิเคราะห์ไม่เคยพูดถึงอีกเลยก็คือ GRAMMY หรือ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) จึงอยากให้อาจารย์ช่วยคอมเมนต์ถึงการได้รับเงินเยียวยาจากกสทช. จะช่วยให้หุ้นตัวนี้กลับมาอยู่บนลู่ทางที่สดใสอีกครั้งไหมครับ
สาเหตุที่อาจารย์อยากตอบคำถามของคุณ “กิจพล” มาจากแนวความคิดที่เห็นแตกต่างจากคนอื่น หลังเชื่อว่าราคาหุ้นมีโอกาสเด้งกลับในระยะสั้น ๆ หากหน่วยงานกสทช.เข้ามาเยียวยาผลกระทบที่เกิดกับผู้ประกอบการอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ผู้คนมากมายให้ความสนใจอยู่พอดี
นั่นหมายความว่า หุ้นกลุ่มทีวีดิจิทัลน่าจะกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง และเที่ยวนี้มีการพุ่งเป้าไปยังหุ้น GRAMMY มากเป็นพิเศษ เพราะค้างค่าใบอนุญาตสูงถึง 1,955 ล้านบาท และถ้าได้รับการเยียวยาอย่างเต็มที่ จะทำให้บริษัทกลับมาแสดงผลกำไรอย่างโดดเด่น
ทั้งนี้และทั้งนั้น อย่าลืมว่าข่าวดีดังกล่าวส่งผลแค่ระยะสั้น ๆ เพราะเมื่อมองดูการแข่งขันในอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัล ต้องยอมรับกันโดยดีว่า เม็ดเงินโฆษณาโดนเฉลี่ยไปช่องต่าง ๆ มากมาย ส่งผลให้รายได้ที่เข้ามาไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น และอาจทำให้บริษัทเข้าสู่วงจรขาดทุนเรื้อรังอีกครั้งนะครับ
ข้อมูลตรงนี้ถูกยืนยันได้จากยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปมาก ซึ่งเห็นได้จากที่ “ผู้ชม” มีทางเลือกหลากหลายในการรับชม ไม่ได้มีเพียงแค่การชมผ่าน “จอแก้ว” (ทีวี) แต่ยังมีอีกหลายช่องทางที่อยู่ในรูปแบบ “จอดิจิทัล” ให้เลือกรับชมกันได้ตลอดเวลา และประเด็นที่น่าสนใจมากที่สุดในตอนนี้คือ การเปลี่ยนแปลงของ “เทคโนโลยี” ที่รวดเร็ว ทำให้ “อุตสาหกรรมทีวี” ถูกกระทบอย่างหนัก
ประเด็นดังกล่าวยังถูกกดดันเพิ่มเติมจากเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวดี ฉุดให้เม็ดเงินโฆษณาไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งมีการรายงานว่าในปี 2561 มีเม็ดเงินโฆษณาผ่านทีวีอยู่ในระดับ 67,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากเม็ดเงินโฆษณารวมที่ 105,455 ล้านบาท โดยเม็ดเงินโฆษณาถูกแบ่งย่อย ๆ จากจำนวนช่องที่เพิ่มขึ้น ไม่นับเม็ดเงินโฆษณาที่ไหลไปยังสื่อในแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ต ในปี 2561 มีการใช้เม็ดเงินโฆษณา 1,600 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 68%
อาจารย์ถึงอยากให้นักลงทุนมองดูงบการเงินด้านล่างของ GRAMMY เพื่อวิเคราะห์ถึงโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืนมีความเป็นไปได้แค่ไหน ?
หากมองดูแล้วพบว่าการเยียวยาไม่ใช่จุดเปลี่ยนที่ทำให้หุ้น GRAMMY น่าสนใจในระยะยาว ก็ควรปรับรูปแบบการเล่นหุ้นตัวนี้เป็นการเล่นสั้น ๆ เพื่อความคล่องตัวในการลงทุน พร้อมกันนี้ ต้องไม่ลืมว่าในตลาดยังมีหุ้นที่มีราคาพอกันกับหุ้นตัวนี้อยู่แยอะ แต่มีพื้นฐานที่ดีกว่าหลายตัวด้วยกัน จึงไม่ควรทุ่มทุนไปกับหุ้นตัวนี้แบบสุดตัวนะครับ
เนื่องจากวันนี้ GRAMMY ไม่ใช่ “หุ้นดาวรุ่ง” เหมือนเมื่อ 10-15 ปีก่อนอีกแล้ว เพราะภาพที่อาจารย์เห็นในตอนนี้กลายเป็น “หุ้นที่โลกลืม” นั่นเอง
ข้อมูลดังกล่าวจริงเท็จประการใด ขอให้นักลงทุนใช้วิจารณญาณส่วนตัวตัดสินกันอีกทีหนึ่งนะครับ
สภาแมงเม่า : ดร.สมชาย
…