กินรวบไม่กระดากปาก

ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

แทบไม่มีอะไรจะพูด เมื่อเห็นรายชื่อ 250 ส.ว. แทบไม่ต้องวิพากษ์วิจารณ์ เพราะอารมณ์สังคมประดังออกมาท่วมท้นทางสื่อออนไลน์ ประชาชนที่มีสำนึกผิดชอบชั่วดี มีหิริโอตตัปปะ รู้ดีว่าใครหน้าด้านหน้าทน

เหลือแต่จะตั้งชื่อสภานี้ว่าอะไร คนตั้งฉายาหลากหลาย สภานายพล สภาอุปถัมภ์ สภาเกาหลัง สภาฝนตก ฯลฯ ฟังแล้วยังไม่สะใจสักชื่อ แต่ก็มีบางคนตั้งคำถาม วุฒิสภาในอดีตเราเรียกว่าสภาสูง ตอนนี้ควรจะเรียกสภาสูงหรือสภาต่ำ

เกือบจะทั้ง 250 คนล้วนพวกเดียวกัน หัวหน้า คสช.ตั้งผู้ใกล้ชิดทั้งนั้น รัฐมนตรีที่เพิ่งลาออก 15 คน นายพล 101 คน เพื่อนร่วมรุ่นตัวเอง 28 คน น้องชายนายกฯ น้องชายรองนายกฯ มาทั้งจันทร์โอชา เครืองาม วงษ์สุวรรณ พี่ชายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ไปกระทั่งน้องโหรวารินทร์

ขณะที่ฝั่งพลเรือน อดีต สนช. สปช. สปท. ก็ล้วนองครักษ์พิทักษ์รัฐประหารทั้ง 2 ครั้ง บางคนเป็น สนช.ตั้งแต่ปี 49 เป็น สว.สรรหา เป็น สนช. กลับมาเป็น สว. ก้นไม่เคยว่างจากการแต่งตั้ง

บางคนก็เป็นทนายแก้ต่างให้กฎหมายวิบัติ ลอยหน้าลอยตารับใช้อำนาจ แล้วยังภาคภูมิใจ

ตั้งพวกผิดตรงไหน ก็รัฐธรรมนูญให้หัวหน้า คสช.ตั้ง จะให้ตั้งศัตรูหรือไง กองหนุนถาม

แต่นี่มันเห็นกันชัดๆ ว่า ไม่ได้ตั้งด้วยกระบวนการสรรหาผู้มีความรู้ความสามารถ ตั้งจากคนรู้จัก ตั้งจากคอนเนคชั่น ใครเป็นประธานสรรหา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งเคยบอกว่าจำชื่อใครไม่ได้สักคน ใครเป็นกรรมการสรรหา ก็รองหัวหน้า คสช. 3 คน ซึ่งสรรหาตัวเองเข้ามานั่ง

อดีตปลัดกระทรวงแรงงานให้สัมภาษณ์สื่อ นายกฯ ทาบทามด้วยตัวเองเมื่อวันที่ 1 พ.ค.นี้เอง สรรหาอะไรกัน

ตั้งพวกตั้งพ้องมาเลือกตัวเอง วิษณุยังตีความ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ผลประโยชน์ทับซ้อน นี่พูดอย่างคนมีหิริโอตตัปปะ?

ใน 250 ส.ว. ยังมี 50 คนที่มาจากการเลือกกันเอง “การเลือกตั้งที่เงียบที่สุดในโลก” ใช้งบ 1,300 ล้าน เลือกกันเหลือ 200 คนแล้วให้ท่านผู้นำจิ้ม ผลปรากฏว่าได้ทั้งอดีตประธาน กกต. อดีตแม่ทัพภาค อดีตผู้ว่าฯ อดีต สปช. แถมญาติพี่น้องของ ส.ส. หรือผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐอีกหลายคน

ไม่รู้จะเปลืองงบประมาณไปทำไม วัยรุ่นถามในทวีตเตอร์ ท่านส่งไลน์ตั้งกันเองไม่ดีกว่าหรือ

ด้วย 250 ส.ว.ดังนี้ ด้วย 11 พรรคจิ๋วที่ประกาศหนุน (หลังได้เก้าอี้มาโดย กกต.ใช้สูตรคณิตศาสตร์) ท่านผู้นำก็คงเป็นนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐตามคาด เหลือแต่กวาดต้อนพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย ซึ่งจะไปไหนเสีย ไม่มีขั้วที่ 3 จับมือกันอย่างไรก็ไม่มีทางได้ถึง 376 เสียง

แต่ทิศทางข้างหน้าเป็นอย่างไร รายชื่อ ส.ว.พอบอกได้ เพราะมันสะท้อนความคิดรวบอำนาจ แบบกินรวบ ไม่เกรงใจ ไม่เห็นหัวผู้รักประชาธิปไตย ไม่คิดจะผ่อนคลายอำนาจ หรือประนีประนอม มีแต่จะหักหาญ เพราะคิดว่าเครือข่ายอำนาจอนุรักษนิยมเป็นปึกแผ่น ใครก็ต้านไม่ได้

นั่นทั้งๆ  ที่ไม่มีความชอบธรรม ไม่สามารถอ้างหิริโอตตัปปะ ก็ยังหวังจะบดขยี้ผู้เห็นต่าง

รัฐบาลที่จะตั้งขึ้น ไม่ได้นำประเทศไปสู่ความสงบแน่นอน เมื่อเริ่มต้นก็หักหาญด้วยอำนาจ ข่มขืนฝืนใจคน บีบให้จำยอมรับ ประชาชนจำเป็นต้องทำมาหากิน ไม่มีใครอยากต่อต้าน ไม่มีใครอยากตายฟรี เป็นวีรชนประชาธิปไตยที่ทุกวันนี้ถูกลืมสนิท

แต่การได้คืบเอาศอก กินรวบ รุกไล่ แถมไร้ยางอาย มันจะทำให้คนเหลืออด