ที่ซุกหัวใหม่นักปั่นหุ้น ?

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ในช่วงที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปั่นป่วนอย่างหนักด้วยพฤติกรรมงอแงของประเทศบ้าอำนาจ..อุ๊ย..มหาอำนาจ มันเป็นปัจจัยที่บั่นทอนกำลังใจของผู้เล่นอย่างหนัก แถมตอนนี้กำลังถูกเอาคืนด้วยมาตรการ “เกลือจิ้มเกลือ” ส่งผลให้สถานการณ์หลายอย่างเลวร้ายลงกว่าที่เป็นอยู่ “โมนิก้า” ถึงพยายามให้แฟนคลับเข้าใจสาเหตุที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยดูไม่ดีลงไปทุกขณะไงล่ะคะ

*งานนี้ถึงไม่มีความจำเป็นต้องไปพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือต้องให้เกจิอาจารย์ดังเป่ากระหม่อม เพราะแค่ตัวนักลงทุนมองไปที่เรื่อง “สงครามการค้า” กับ “ผลประกอบการ” เพียงเท่านี้ก็ทำให้นักเล่นไม่กล้าเคาะขวาอีกพักใหญ่ ๆ แถมได้ยินข่าวว่า บรรดาขาใหญ่ต่างพากันทิ้งกระดานหุ้น พร้อมกับขอหลบไปพักผ่อนหย่อนใจกันเป็นแถว บรรยากาศการลงทุนถึงเริ่มวังเวงวิเวกโหวเหวนะจะบอกให้

*วันนี้ถึงไม่ต้องถามว่า เหตุใดดัชนีถึงลงมายืนปิดที่ระดับ 1,621.27 จุด ลบไป 12.57 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.98 หมื่นล้านบาท เพราะคำตอบที่ได้รับจะมีแต่เรื่องที่ทำให้รู้สึกหดหู่ใจอย่างแรง เหมือนกับข่าวลือลับ ๆ ล่อ ๆ ที่ทีมงานของ “โมนิก้า” แอบไปได้ยินจิ้งจกแถวถนนสาทรคุยกันดังไป 3 บ้าน 8 บ้านว่า แก๊งปั่นหุ้นได้เข้าไปยึดบ้าน (หุ้น) หลังใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้วนะตัวเอง

*โดยไฮไลต์ของเรื่องดังกล่าวมันเป็นผลสืบเนื่องตั้งแต่สมัยก่อนเปลี่ยนชื่อหุ้นเป็น NPPG ก็มีแก๊งหนึ่งที่มีหัวโจกตัวแสบชื่อว่า เสี่ย ป. เข้ามายุ่มย่ามกับการซื้อ ๆ ขาย ๆ ธุรกิจของบริษัทนี้ และมีอยู่ดีลหนึ่งได้ทำการซื้อธุรกิจร้านอาหารของคนทำสื่อสำเนียงทองแดงแบบเสียมิได้ ซึ่งสร้างความคลางแคลงใจให้กับนักลงทุนเป็นอย่างมาก เพราะมองไม่เห็นว่า มันต่อยอดกันได้อย่างไร และสุดท้ายเรื่องก็เงียบไปเหมือนคลื่นกระทบฝั่งพะยะค่ะ

*อีกช็อตที่สร้างความฮือฮาในหมู่แมงลือสุด ๆ คงเป็นช่วงของการเปลี่ยนถ่ายกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ และผู้บริหารชุดใหม่ก็มีการประโคมข่าวแบบสุดลิ่มทิ่มประตูจาก เสี่ย ป. คนดังกล่าวอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าเสี่ยคนดังกล่าวจะปั่นกระแสไม่ขึ้น เพราะเที่ยวก่อนมีคนโดนหลอกไปรับของเสี่ยเป็นจำนวนมาก จึงไม่มีใครคิดจะแห่ตามแบบสุดซอยเหมือนครั้งก่อน หุ้นถึงขึ้นแป๊บเดียวแล้วไหลลงมาเรื่อย ๆ ไงล่ะคะ

*ล่าสุดได้ยินข่าวว่า เสี่ย ป. คนดังกล่าวไปปรากฏชื่อถือ PIMO-W1 แบบตะลึงมึนงงกันทั้งบาง พร้อมกับมีคำอธิบายจากปากผู้รู้และไม่รู้ดังออกมาเป็นระยะว่า เมื่อใดที่เห็นหัวโจกรายนี้ปรากฏชื่อในหุ้นตัวใดก็ตาม รับรองหุ้นตัวนั้นพังราบเป็นหน้ากองแน่ ๆ เพราะการมาของเขาผู้นี้ ไม่ได้มาคนเดียวแน่ ๆ แต่ยกโขยงมาเป็นแบบแก๊ง เด็กเวร..อุ๊ย..เด็กแว๊น เดี๊ยนเลยถึงบางอ้อ พร้อมกับเข้าใจสาเหตุที่ทำให้หุ้นแม่พังยับเยินเจ้าค่ะ

*งานนี้จริงเท็จแค่ไหน ไม่อาจรู้ได้ แต่ที่รู้คือ ในแวดวงมือทำหุ้นพูดกันว่า ตอนที่หุ้นตัว PIMO โดนทิ้งลงมาจากบริเวณ 5 บาท จนลงมายืนอยู่ที่บริเวณ 3 บาทต้น ๆ ก่อนจะไล่ราคากลับขึ้นไปถึงบริเวณ 4 บาทอีกครั้ง ต่อจากนั้นทุบเปรี้ยงเดียวลง 2 ฟลอร์  ส่งผลให้หุ้นลงมายืนปิดโลว์ของวันที่ 1.88 บาท และปล่อยให้หุ้นไหลลงมาเรื่อย ๆ จนวานนี้หุ้นยืนอยู่แค่ระดับ 1.54 บาท เหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดให้รู้ว่า เจ้าของโดนให้แล้วนะจ๊ะ

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ผู้คนมากมายคิดกันต่อไปว่า พวกลูกหลานที่ทำกิจการมอเตอร์ไปสุงสิงกับก๊วนของ เสี่ย ป.  ทำไม ? เพราะมันรู้กันอยู่แล้วว่า แก๊งขาปั่นน่องเหล็กเข้าหุ้นตัวไหน ? มักมีวัตถุประสงค์แอบแฝงเป็นประจำ เพียงแต่เที่ยวนี้ยังไม่มีใครปริปากพูดเรื่องใต้โต๊ะออกมาสู่ภายนอก จึงกลายเป็นปริศนาที่ต้องติดตามดูกันต่อไปให้ดีสำหรับบรรดาขาเผือกทั้งหลายแหล่ !

*ส่วนรายที่ไม่มีความลับอีกต่อไป “โมนิก้า” ขอพอยต์ไปที่หุ้นโรงเรียนของหนู SISB โดนทุบแบบโหดสลัดรัสเซียกันต่อหน้าต่อตา เลยมีผู้หวังดีเปิดหน้าสู้ด้วยการชี้เป้าไปยังผู้ถือหุ้นใหญ่ “เฮีย น.” เป็นคนสาดหุ้นออกมาแบบไม่คิดจะมองหน้ากันอีกต่อไป หุ้นถึงไหลลงจาก 7.60 บาท ลงไปทำจุดต่ำสุดที่บริเวณ 6 บาท ก่อนจะเด้งกลับขึ้นมายืน 6.50 บาท ขณะที่วานนี้ทำได้ดีสุดด้วยการประคองตัวปิดที่ 6.55 บาท บวกไป 0.05 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 100 ล้านบาท มันตีความได้แค่ว่า เฮียคนดังกล่าวกำลังจะย้ายบ้านใหม่ กับ เฮียต้องการทุบเพื่อเก็บของถูกนะตัวเอง

*เรื่องดังกล่าวยังถูกจับโยงไปถึง DOD แบบไม่มีข้อโต้เถียง เพราะนี่เป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่ เฮีย น. เข้ามาพัวพันมาระยะหนึ่ง แถมแมงลือต่างล็อกเป้าไปที่ชายคนนี้เป็นคนเปิดเกมทิ้งหุ้นแบบไม่มีเยื่อใยอย่างพร้อมเพรียง “โมนิก้า” ถึงต้องออกมาเม้าท์มอยสักนิดหนึ่งว่า เรื่องนี้คงเป็นหนังเรื่องยาวที่ต้องติดตามดูเช่นกัน แถมชื่อของนักเล่นรายนี้ถูกพาดพิงไปยังหุ้นร้อนอีกหลายตัว จึงกลายเป็นช็อตที่ทำให้พวกล่าแม่มดกัดไม่ปล่อยอย่างแน่นอน..พูดแล้วขนลุกซู่เลยค่ะ