บริษัทใหญ่ผู้ถือหุ้นเล็ก
นักลงทุนที่ถือหุ้นที่เติบโตในอัตราเร่งอย่าง บริษัท วี จี ไอ โกลบอลมีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI คงต้องจำทนกันความย้อนแย้งของข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับบริษัทนี้ไปอีกนานหลายปี
พลวัตปี 2019 : วิษณุ โชลิตกุล
นักลงทุนที่ถือหุ้นที่เติบโตในอัตราเร่งอย่าง บริษัท วี จี ไอ โกลบอลมีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI คงต้องจำทนกันความย้อนแย้งของข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับบริษัทนี้ไปอีกนานหลายปี
ขณะที่แผนธุรกิจของบริษัทตั้งเป้าเติบโตไปข้างหน้าเรื่อยจนกลายเป็นบริษัทผลิตสื่อโฆษณานอกบ้านอันดับหนึ่งของไทยแต่ผู้ถือหุ้นจำต้องรับสภาพการจ่ายปันผลต่ำและการเพิ่มทุนต่อเนื่องจนราคาหุ้นยากจะขยับขึ้นได้
ล่าสุดปีนี้ผู้บริหารของ VGI แจ้งแผนการดำเนินงานในปี 2562/2563 (เม.ย. 62 – มี.ค. 63) โดยวางเป้าหมายรายได้รวมอยู่ที่ 6,000-6,200 ล้านบาท เติบโตประมาณ 20% อัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยภาษีค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin) และอัตรากำไรสุทธิอยู่ในช่วง 40-45% และ 20-25% ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและผลักดันให้การเติบโตเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้มีดังต่อไปนี้
– ธุรกิจสื่อโฆษณาจะได้รับประโยชน์จากการขยายเส้นสายของรถไฟฟ้าบีทีเอสที่จะมีขบวนรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีก 10 ขบวนนอกจากนี้ยังเล็งเห็นโอกาสการสร้างรายได้จากการดำเนินกลยุทธ์ปรับเปลี่ยนไปสู่การโฆษณาแบบดิจิทัลโดยเฉพาะการเปิดตัวผลิตภัณฑ์โฆษณาดิจิทัลรูปแบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีเช่น Visual Recognition (VR) เพื่อให้ VGI สามารถนำเสนอรูปแบบการโฆษณาได้อย่างสร้างสรรค์และสามารถวัดผลได้ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้เพิ่มอีก 3 สถานีได้แก่อโศก พร้อมพงษ์ และ ศาลาแดง ภายในไตรมาส 2 ปี 2562/2563
– หน่วยธุรกิจใหม่ขึ้นภายใต้ชื่อ “Digital Lab” เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจากสื่อโฆษณาออนไลน์ที่มีการเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาและยังมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ synergies จากการร่วมมือกับ บมจ.แพลนบีมีเดีย (PLANB) ที่ VGI เข้าถือหุ้นเพื่อสร้างหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์จำนวน 18.6% ผ่านการรวมเครือข่ายของสื่อโฆษณานอกบ้านที่ปัจจุบันกินส่วนแบ่งการตลาดรวมกันมากกว่า 70% ไม่นับส่วนที่ขยายไปต่างประเทศ
– ธุรกิจบริการชำระเงินยังคงขยายจำนวนบัตรแรบบิทและผู้ใช้ Rabbit LinePay อย่างต่อเนื่องรวมไปถึงการสร้างประสบการณ์การใช้จ่ายอย่างไร้รอยต่อให้แก่ผู้ใช้บริการโดยในปีนี้คาดว่า จำนวนบัตรแรบบิทจะเพิ่มขึ้น 36% จากงวดปีก่อนจาก 11 ล้านใบ เป็น 15 ล้านใบ ในขณะที่จำนวนผู้ใช้งาน Rabbit LinePay จะเพิ่มขึ้น 45% จากงวดปีก่อนจาก 5.5 ล้านรายเป็น 8.0 ล้านราย
– ธุรกิจโลจิสติกส์ Kerry จะมุ่งมั่นขยายครือข่ายการขนส่งสินค้าเพื่อให้สอดคล้องกับการเติบโตของตลาด e-Commerce โดยปัจจุบัน Kerry ได้เปิดร้านให้บริการรับส่งพัสดุบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสแล้วจำนวน 2 สถานี ได้แก่สถานีพร้อมพงษ์ และทองหล่อ ทั้งนี้ Kerry มีแผนจะเปิดให้บริการร้านรับส่งพัสดุดังกล่าว ให้ครอบคลุมทั้งเครือข่ายของรถไฟฟ้าบีทีเอส นอกจากนี้บริษัทคาดว่า จะสามารถรับรู้ synergies จากความร่วมมือกับ Kerry ได้มากยิ่งขึ้นจากการขยายการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อาทิ สินค้าทดลอง (Smart Sampling) และสื่อโฆษณาบนรถบรรทุกของ Kerry
มองจากมุมผลการดำเนินงานของ VGI ปี 2561/2562 (เม.ย.61 – มี.ค.62) ถือว่าทำรายได้เติบโตเหนือความคาดหมายด้วยรายได้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 31.0% เป็น 5,158 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิสูงกว่า1,101 ล้านบาท โตขึ้น 30.1% จากปีก่อนซึ่งความสำเร็จนี้มาจากการผสมผสานกลยุทธ์ O2O Solutions ที่นำจุดแข็งของแต่ละแพลตฟอร์มมาสร้างสรรค์และต่อยอดทางธุรกิจ สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบของธุรกิจจากเดิมที่เป็นผู้ให้บริการด้านสื่อโฆษณานอกบ้านเพียงอย่างเดียวไปสู่กลยุทธ์ทางการตลาดแบบ O2O Solutions ผสานการทำงานร่วมกันบนทุกแพลตฟอร์มในเครือข่ายเพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการแบบไร้ขีดจำกัดไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสื่อโฆษณาธุรกิจบริการชำระเงินและธุรกิจโลจิสติกส์ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทมีรายได้เติบโตแบบทะลุเป้าและทำรายได้สูงสุดนับตั้งแต่เปิดดำเนินการ
ที่น่าสนใจคือแม้จะเติบโตเร็วมากแต่การรักษาอัตรากำไรสุทธิยังทำได้ดีที่ระดับมากกว่าระดับ 20%
บนการเติบโตที่น่าตื่นตานี้สิ่งที่เป็นจุดด้อยของ VGI อยู่ที่ 2 จุด นั่นคือกำไรสุทธิต่อหุ้นที่ทรงตัวแถมทำท่าจะลดลงเพราะจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มทุนแล้วส่งผลให้อัตราการจ่ายเงินปันผลยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 1.5% ต่อไป
ล่าสุดการเพิ่มทุนเพื่อเติบใหญ่ต่อไปยังคงเกิดขึ้นกับ VGI ในการเข้าลงทุนซื้อกิจการเป้าหมายเพิ่มเติมเช่นกรณีล่าสุด VGI เข้าถือหุ้น 25.01% ในบริษัท แอดซ์เจ้าพระยา จำกัด (ACP) ผู้ให้บริการสื่อโฆษณาในเรือโดยสารคิดเป็นมูลค่าลงทุนรวมทั้งสิ้น 100 ล้านบาท แต่ไม่ได้ใช้เงินสดโดยการออกหุ้นเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้น ACP จำนวน 4,485,609 หุ้นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาทกำหนดราคาเสนอขายหุ้นละ 9.48 บาท
การเพิ่มทุนดังกล่าวแม้จะไม่มากนักและช่วยประหยัดเงินสดในกิจการงบแต่มันก็ส่งผลต่อจำนวนและราคาหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ
บนการเติบโตแบบ “ปลาหมึกยักษ์” ของ VGI ที่ผู้ถือหุ้นต้องการความอดทนเป็นพิเศษเช่นนี้อาจจะเหมาะที่ทำให้หุ้นแบบนี้ไม่เหมาะกับการทำกำไรระยะสั้นแต่เหมาะกับการถือยาวมากกว่า
เป็นไปตามสูตรลางเนื้อชอบลางยา