อภินิหารอู่ตะเภา (แต่แพ้)

ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

การจัดตั้งรัฐบาลดูท่าจะราบรื่น พปชร. ปชป. ภท. จูบปากกันหวานชื่น แค่รอดูอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขานชื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ในที่ประชุมรัฐสภา

กระบวนการทั้งหมด ตั้งแต่โหวตนายกฯ  ตั้ง ครม. เข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ  แถลงนโยบาย ไม่น่าเกินหนึ่งเดือน ก็ได้รัฐบาลใหม่

ระหว่างนี้ ครม.ชุดปัจจุบัน ซึ่งเหลือประมาณครึ่งคณะ เพราะชิงลาออกไปเป็น ส.ส. ส.ว. ก็ไม่น่าจะพิจารณาเรื่องสำคัญ นอกจากงานรูทีน เพราะต่อให้ไม่คำนึงถึงมารยาททางการเมือง ยังไง ๆ  นายกฯ  ก็หน้าเดิม ป้อม ป๊อก สมคิด วิษณุ ก็หน้าเดิม

แต่ไม่รู้ทำไม จึงยัง “ทิ้งทวน” กันหน้าตาเฉย โดยเฉพาะอภิมหาโปรเจกต์ รถไฟ 3 สนามบิน ซึ่งเข้า ครม.เมื่อวันอังคาร อนุมัติให้การรถไฟฯ  ลงนามในสัญญากับเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง วันที่ 15 มิ.ย.

ก็รู้นะว่าอ้อยเข้าปากช้างไปแล้ว แต่รออีกซักเดือนให้มีแบรนด์ “รัฐบาลจากเลือกตั้ง” ก่อนไม่ได้หรือ หรือกลัวเป็นรัฐบาลที่ไม่มี ม.44 มีพรรคร่วม มีฝ่ายค้าน แล้วเรื่องจะบานปลาย

โครงการนี้ซึ่งพ่วงที่ดินมักกะสัน 150 ไร่ ให้เช่า 50 ปี 5 หมื่นล้าน ไม่ค่อยมีคนค้าน หรือมีก็ไร้พลัง เช่นสหภาพรถไฟไปยื่นหนังสือแค่ 100 กว่าคน เรียกร้องให้เปิดเผยสัญญาต่อสาธารณะ เพราะหลังซีพีชนะประมูล ก็ยังเสนอเงื่อนไขต่อรอง  12  ข้อ แม้ต่อมาถอนออกไป ก็ทำให้สหภาพสงสัยว่า สัญญาจะมีช่องโหว่ให้แก้ไข จนเกิด “ค่าโง่”

ช่างบังเอิญเสียกระไร บอร์ด กพอ. เมื่อวันจันทร์ ที่นายกฯ เป็นประธาน สั่งให้ตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองอุทธรณ์เรื่องร้องเรียน ของเอกชนที่เข้าร่วมประมูล 2 โครงการ คือสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก 290,000 ล้าน และท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 มูลค่า 84,360 ล้าน โดยสั่งให้พิจารณาภายใน  7  วัน ว่าจะรับอุทธรณ์หรือไม่

โครงการแรก ซึ่งกองทัพเรือเป็นเจ้าของโครงการ มีผู้เข้าประมูล 3 ราย รายที่เกิดปัญหาคือกลุ่มซีพีในนามธนโฮลดิ้งนั่นเอง คณะกรรมการคัดเลือกที่มี ผบ.ทร.เป็นประธาน ไม่รับข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ ข้อเสนอด้านราคา เนื่องจากส่งเอกสารช้ากว่ากำหนด  9  นาที

เรื่องนี้เคยเป็นดรามาในเน็ต บ้างก็ว่าแค่  9  นาที แต่กองทัพเรือเปิดรับซอง  9.00-15.00 น. ซีพีกลับส่งช้าโดยอ้างว่ารถติด โครงการสองแสนล้านเนี่ยนะ รถติด

ธนโฮลดิ้งฟ้องศาลปกครอง ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องเมื่อ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่ระหว่างคดีอยู่ในศาล บอร์ด กนอ.ก็มีมติตั้งอนุกรรมการพิจารณารับเรื่องอุทธรณ์ ตามข้อเสนอของมีชัย ฤชุพันธ์ ที่ปรึกษากฎหมาย

“นายกฯ สั่งการให้พิจารณาเรื่องอุทธรณ์ของเอกชนให้เสร็จใน 7 วัน เพื่อที่ กพอ. จะได้มีข้อมูลสำหรับตัดสินข้อขัดแย้งได้ เพราะศาลปกครองจะยังไม่ตัดสินเรื่องที่เอกชนไปฟ้องร้อง จนกว่าการอุทธรณ์กับภาครัฐจะสิ้นสุดลงก่อน” คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ EEC กล่าว ซึ่งคนพอรู้กฎหมายฟังแล้วงง ๆ  ศาลรับคดีไว้แล้ว ยังจะดึงเรื่องกลับมาได้อย่างไร

ปรากฏว่า เช้าวันอังคาร ศาลปกครองมีคำสั่งยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว ที่จะให้กองทัพเรือรับข้อเสนอของซีพีไว้ก่อน โดยศาลชี้ว่า คณะกรรมการมีหลักฐานภาพถ่ายส่งเอกสารเกินเวลาจริง ฝั่งซีพีก็ยอมรับ ว่าล่าช้าเพราะรถติดมาก “จึงฟังไม่ได้ว่าเป็นคำสั่งที่น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย”

เมื่อศาลสั่งเช่นนี้ ซีพีก็ต้องรอจนกว่าคดีจะสิ้นสุด ทำให้สงสัยว่า กพอ.จะรับเรื่องอุทธรณ์ไว้ได้อย่างไร หรือจะใช้อภินิหารทางกฎหมายแบบสูตรทศนิยม?