ตามหาอาณาจักรน่านเจ้า
ผมหายไปเที่ยวต้าหลี่(น่านเจ้า)-ลี่เจียง-แชงกรีล่ากับเพื่อนเก่า นักศึกษารัฐศาสตร์มช.มาสี่ซ้าห้าวันครับ กลับมาถึงกทม.เมื่อเย็นวันพุธ ก็มาเจอกับเรื่อง “แอนนิมอล ฟาร์ม” ซึ่งก็ดูจะจริงของนายกฯ ตู่ เพราะขณะนี้มี “งูเห่า” เลื้อยกันยั้วเยี้ยเต็มไปหมด...อนาถ!
ขี่พายุทะลุฟ้า : ชาญชัย สงวนวงศ์
ผมหายไปเที่ยวต้าหลี่(น่านเจ้า)-ลี่เจียง-แชงกรีล่ากับเพื่อนเก่า นักศึกษารัฐศาสตร์มช.มาสี่ซ้าห้าวันครับ กลับมาถึงกทม.เมื่อเย็นวันพุธ ก็มาเจอกับเรื่อง “แอนนิมอล ฟาร์ม” ซึ่งก็ดูจะจริงของนายกฯ ตู่ เพราะขณะนี้มี “งูเห่า” เลื้อยกันยั้วเยี้ยเต็มไปหมด…อนาถ!
อาณาจักรน่านเจ้าที่หมายถึง ก็คือเมืองต้าหลี่ มณฑลยูนนาน มีระยะทางห่างจากสนามบินนานาชาติคุนหมิง (สร้างใหม่) ประมาณ 380 กม. คดเคี้ยวไปตามป่าเขา ว่าไปแล้ว ต้าหลี่ก็ยังไม่มีสถานที่สวยงามให้ดูชมมากนัก แต่เป็นแหล่งที่มีหินอ่อนขึ้นชื่อของจีนและยังเป็นสินค้าส่งออกด้วย
ไม่พบร่องรอยคนไทยจะอยู่สืบสานอาณาจักรน่านเจ้าเหมือนอย่างชนชาติเขมรในแผ่นดินปัจจุบันแต่ประการใด
แต่จากเมืองต้าหลี่ขึ้นเหนือไปเรื่อย ๆ จะมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอันน่าตื่นตาตื่นใจมากอันมีโค้งแรกแม่น้ำแยงซีเกียง, ช่องแคบเสือกระโจน, แชงกรีล่า ดินแดนแห่งความฝันที่คนทั่วโลกถามหา ตั้งอยู่บริเวณตะเข็บรอยต่อของมณฑลยูนนานและทิเบต
ที่นี่มีภูเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน สูงกว่าระดับน้ำทะเล 4,500 เมตร ถึงเดือนนี้ก็ยังมีหิมะแผ่ปกคลุมเป็นลานกว้างใหญ่สุดสายตา ภายใต้ท้องฟ้าสีคราม งดงามดังภาพวาด
จากแชงกรีล่าหรือเมืองจงเตี้ยนเก่า วกกลับลงใต้ไปทางทิศตะวันออกในราว 170 กม. ก็จะถึงเมืองสวยงามอันพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง นั่นก็คือลี่เจียง สาวแสนสวยในหุบเขา ขึ้นกระเช้าไปชมความงามของภูเขาหิมะมังกรหยก
ชมโรงละครกลางแจ้งอันตระการตา ที่ใช้ฉากหลังเป็นภูเขาหิมะมังกรหยก ออกแบบและกำกับโดยผู้กำกับชื่อก้องโลกจาง อี้ โหม่ว นอกจากนั้นยังมีเมืองโบราณลี่เจียง อันได้รับการยกย่องเป็นเมืองมรดกโลก ร้านรวงเก๋ไก๋มีลำคลองน้ำใสแจ๋วผ่ากลาง มีร้านออกแนวฮิปมีดนตรีเล่นให้ไปนั่งกินนั่งดื่มมากมาย
ความเป็นเมืองโบราณผสมผสานกับความเป็นเมืองสมัยใหม่ได้อย่างกลมกลืน
ขากลับจากลี่เจียงใช้รถไฟความเร็วสูงเข้าสู่นครคุนหมิงครับ ระยะทางประมาณ 600 กิโลเมตร รถไฟใช้ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 200 กม./ช.ม. เป็นรถไฟใหม่เอี่ยม เปิดเดินรถได้ไม่ถึงปี ใช้เวลาเดินทางแค่ 3 ชั่วโมงครึ่ง
แต่หากเดินทางโดยรถยนต์ก็ต้องใช้เวลาถึง 12 ชั่วโมง
โค้งแรกแม่น้ำแยงซี ฯ ระหว่างทางต้าหลี่ไปแชงกรีล่า แท้จริงแล้วน่าจะเรียกเป็นยูเทิร์นแยงซี ฯ มากกว่า เพราะแม่น้ำจินซาเจียงแทนจะไหลลงใต้ไปสู่แม่น้ำโขงและสาละวิน กลับไหลขึ้นเหนือเป็นแม่น้ำแยงซีเกียงที่ผ่านฉงชิ่ง เฉินตู ไปออกทะเลที่เซี่ยงไฮ้
ภูเขาหิมะมังกรหยก ยอดเขาสูงสุดอยู่ที่ 5,600 เมตร จากระดับน้ำทะเล มีกระเช้าขนาดใหญ่ 8 คนนั่งผ่านยอดเขา 13 ลูกไปถึงอุทยานธารน้ำเข็งจุดชมวิว ซึ่งอยู่สูงระดับ 4,500 เมตร สูงกว่ายอดเขาสูงสุดอินทนนท์ของไทย 2,500 เมตร
การเดินทางไปเที่ยวชมเมืองมรดกโลกบนยอดเขาสูงซึ่งมีอากาศเบาบางเช่นนี้ ก็ต้องเตรียมตัวเป็นพิเศษในการรับประทานยาขยายหลอดเลือดตั้งแต่ลงสนามบินที่คุนหมิงและเตรียมออกซิเจนกระป๋องไว้ดมยามรู้สึกเหนื่อยผิดปกติหรือมีอาการปวดหัว รับรองไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ไปเมืองจีนทีไร ผมก็มีความภูมิใจแทนเขาทุกทีไป คุนหมิงเมื่อก่อนเป็นเมืองที่มีกลิ่นถ่านหินคลุ้งทั่วเมือง เพราะประชาชนใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงหุงต้มกันทุกครัวเรือน แต่เดี๋ยวนี้กลิ่นถ่านหินหายไปแล้ว บ้านเรือนและร้านค้าโทรม ๆ ทรงจีนโบราณเมื่อก่อน ก็ถูกแทนที่ด้วยตึกสูงมากมาย ถนนหนทางสะอาดอย่างผิดหูผิดตา
ส่วนอาณาจักรน่านเจ้า ที่ผมจั่วหัวเป็นน้ำจิ้มเอาไว้ว่า ไม่เห็นร่องรอยคนไทยจะสืบเชื้อสายอะไรเลย คนจีนไม่มีใครพูดถึงราชอาณาจักรน่านเจ้าสืบเชื้อสายมาจากคนไทย มีแต่บอกว่าดินแดนต้าหลี่นี้ มีชนพื้นเมืองเป็นชนชาติไป๋และอี๋ และก็มีการปกครองโดยชาวฮั่นมาเป็นพันปี
ชื่อเรียกน่านเจ้าก็เพี้ยนมาจากภาษาจีนที่ชื่อว่า “หนานเจา” คำว่า “หนาน” แปลว่า “ใต้” คำว่า “เจา” แปลว่า “ราชวงศ์” รวมความแล้วคือราชวงศ์ใต้ ไม่มี “เจ้าสินุโล” ที่เป็นคนไทตามพงศาวดารอ้างแต่อย่างใด
ตำนานอาณาจักรน่านเจ้า ก็คงจะผูกร้อยมาจากคนไทยอพยพมาจากเทือกเขาอัลไต เดี๋ยวนี้ก็ประมาณคาซัคสถานโน่น อพยพลงใต้มาเรื่อย ๆ เพราะถูกจีนรุกรานแล้วมาตั้งอาณาจักรน่านเจ้า จากนั้นก็อพยพต่อมา 12 ปันนา แล้วก็แตกกระสานซ่านเซ็นมาเป็น ไทยน้อยซึ่งก็คือคนไทย-คนลาว ไทยใหญ่คือพม่า และไทยอาหม เป็นอินเดียไปโน่น
เป็นประวัติศาสตร์โคตรมั่ว ค่อนข้างจะขี้โกง สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือทางการเมือง สรุปไม่มีอาณาจักรน่านเจ้าของคนไทยครับ