ขงเบ้งนั่งตีขิม
เดือนพฤษภาคมนี้ราคาหุ้น บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เพิ่งขึ้นสวนทางตลาดมากถึง 50% ทำนิวไฮรอบ 10 เดือน ถือว่าร้อนแรงผิดสังเกตอย่างมากตามประสาหุ้นที่คาดเดาทิศทางราคาค่อนข้างยาก
พลวัตปี 2019 : วิษณุ โชลิตกุล
เดือนพฤษภาคมนี้ราคาหุ้น บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เพิ่งขึ้นสวนทางตลาดมากถึง 50% ทำนิวไฮรอบ 10 เดือน ถือว่าร้อนแรงผิดสังเกตอย่างมากตามประสาหุ้นที่คาดเดาทิศทางราคาค่อนข้างยาก
คำอธิบายของผู้บริหารนักวิเคราะห์และสื่อทั่วไปเป็นไปในทิศทางเดียวกันคือเน้นเรื่องอนาคตของผลประกอบการที่เป็นขาขึ้นทั้งที่ขาขึ้นของบริษัทในเรื่องการเติบโตของยอดขายและรายได้ในช่วงก่อนหน้าก็เป็นไปตามปกติมีเพียงกำไรเท่านั้นที่ต่ำเตี้ยต่อไปเพราะอัตรากำไรสุทธิหุ้นตัวนี้ในระยะ 4 ปี ไม่เคยมากกว่า 1.6% มาตลอด
เหตุผลที่ใช้อธิบายการวิ่งแรงของราคา PTG ถูกระบุว่าเกิดจาก
– คาดว่าปริมาณขายน้ำมันพุ่งหนุนรายได้ไตรมาส 2/62 โต 20% เพราะจะมีการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นจะเติบโต 16-20% และคาดว่ากำไรก่อนหักดอกเบี้ยภาษีและค่าเสื่อม (EBITDA) จะเติบโต 40-50% จากปี 2561 ประกอบกับค่าการตลาดยังมีแนวโน้มที่จะอยู่ในระดับที่เหมาะสมอีกด้วย
– บริษัทวางแผนการขยายสถานีบริการใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 2,000 สาขาจากปี 2561 ที่มีสถานีบริการอยู่ที่ 1,883 สาขาและบริษัทได้มีการปรับรูปแบบสถานีบริการในรูปโฉมใหม่ให้มากขึ้นทั้งในกรุงเทพ ฯ และปริมณฑล เพื่อเพิ่มการรับรู้แบรนด์สำหรับลูกค้าให้มากขึ้นรวมทั้งยังจะเน้นการขยายสาขาในทำเลที่สามารถรองรับการให้บริการ non-oil อื่น ๆ
– การให้บริการน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 ในสถานีบริการน้ำมันสำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่และรถขนส่งเชิงพาณิชย์มีการเติบโตอย่างรวดเร็วจากสิ้นเดือนมีนาคม 2562 ที่มีขายในสถานีบริการน้ำมันอยู่ 1 สาขา แต่ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2562 จะมีการจำหน่ายมากกว่า 200 สาขา
– บริษัทตั้งเป้างบลงทุนรวมอยู่ที่ 3,500 ล้านบาท เพื่อใช้ในการลงทุนในธุรกิจน้ำมันและธุรกิจที่เกี่ยวข้องอยู่ที่ 2,500 ล้านบาท, ธุรกิจ non-oil อยู่ที่ 500 ล้านบาท และธุรกิจใหม่อยู่ที่ 500 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการเติบโตในอนาคต
คำอธิบายดังกล่าวไม่เพียงพอที่จะดันราคาหุ้นได้เพราะในแง่การทำกำไรจาก “ภายในการดำเนินงาน” เป็นเพียงการเติบโตเชิงปริมาณมิใช่คุณภาพ
เบื้องหลังการวิ่งของราคา PTG ชนิดทำลายแนวหน้าครั้งแล้วครั้งเล่าใน 1 เดือน นี้น่าจะเกิดจากข่าวลือวงในของบรรดา “ขาใหญ่” ว่ามีการเจรจาถึงความเป็นไปได้ที่ทางด้านกลุ่มซีพี โดยบริษัท ซีพีออลล์ หรือ CPALL จะเข้ามาถือหุ้นที่มีนัยสำคัญทั้งในสัดส่วนแค่เป็นพันธมิตรธุรกิจหรือเทกโอเวอร์กิจการไปเลย
คำอธิบายคือ PTG มีเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันในรูปสาขาไม่แพ้สถานีบริการของ PTT เลยทำให้สามารถรองรับเครือข่ายค้าปลีกของร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในสถานีบริการทดแทนในกรณีที่ร้านค้าปลีกดังกล่าวไม่สามารถใช้พื้นที่ในสถานี้บริการน้ำมันที่เป็นดีลเลอร์ของปตท.ในอีก 4 ปีข้างหน้า
ถึงแม้ว่าทั้งปตท.และ CPALL จะยังคงไม่เอ่ยถึงหลังจากสัญญาเดิมหมดอายุแต่ที่ผ่านมา
นายสุชาติ ระมาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดขายปลีก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
เปิดเผยว่าปตท. ยืนยันเดินหน้าธุรกิจค้าปลีกในประเทศด้วยการจับมือกับ เซเว่น อีเลฟเว่น
ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความสัมพันธ์อันดีกันมายาวนานโดยปัจจุบันมีร้านเซเว่น ฯ
แล้วกว่า 1,400 แห่งทั่วประเทศและยังคงมีแผนงานที่จะร่วมกันขยายให้มีจำนวนรวมกว่า 1,700 แห่ง ในอีก 4-5 ปีนี้แต่ก็ไม่มีการันตีว่าจะมีการต่ออายุแค่ไหนหรือไม่
ดังนั้นในกรณีที่ PTTOR ที่จะแยกเป็นบริษัทอิสระหากต้องการยกเลิกแล้วนำเอาร้านค้าปลีกเดิมอย่างร้าน JIFFY มาทำแทนหากสัญญากับร้านเซเว่น อีเลฟเว่น หมดอายุลงในอีก 4 ปีข้างหน้าการหาสถานที่ทดแทนที่ใกล้เคียงกันย่อมเป็นสิ่งจำเป็น
ในเชิงกลยุทธ์ธุรกิจในอดีตก่อนหน้าเมื่อร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เริ่มทยอยเปิดสาขาในสถานีบริการของปตท. ถือว่าฝ่ายแรกมีอำนาจต่อรองเหนือกว่าแต่ในปัจจุบันและอนาคตทางฝ่ายแรกมีอำนาจต่อรองต่ำลงโดยเฉพาะหาก PTTOR เข้าตลาด ฯ ได้
ตัวอย่างล่าสุดร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในสถานีบริการปตท. ไม่สามารถนำเอา All Cafe ไปจำหน่ายได้เพราะทับซ้อนกับร้านกาแฟอะเมซอน
นักลงทุนที่เข้ามาร่วมกันดันราคา PTG ยามนี้มีคำอธิบายน่าสนใจว่าความเป็นไปได้ที่จะทำให้ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เข้าไปในสถานีของ PTG ได้ทางด้าน CPALL หรือเครือข่ายกลุ่มซีพีจะต้องเข้าไปถือหุ้นที่มีนัยสำคัญทั้งในรูปถือหุ้นเพิ่มทุน PTG บางส่วนซื้อหุ้นต่อจากกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มตระกูลรัชกิจประการบางส่วนทั้งในรูปถือหุ้นเชิงกลยุทธ์ร่วมทุนหรือครอบงำกิจการหรือแลกเปลี่ยนหุ้นไขว้กัน
ภายใต้ความเป็นไปได้นี้ราคาที่ซื้อขายในแบบ PP ไม่น่าจะต่ำกว่าราคาตลาดแต่จะต้องเป็นราคาที่ทำให้ฝั่ง PTG ได้รับประโยชน์เต็มที่
แม้ว่าในปัจจุบัน PTG จะมีอัตรากำไรสุทธิบางมากแต่ก็ยังเติบโตได้เรื่อย ๆ แม้ว่าธุรกิจนอน-ออยล์ จะยังทำกำไรได้น้อยและเติบโตช้าแต่การที่บริษัท PTG มีสภาพคล่องยังดีและมีรายได้มากกว่า 1.3 แสนล้านบาท การเข้าซื้อกิจการเชิงกลยุทธ์จึงไม่น่าจะเป็นการ “ได้ของถูก”
ปรากฏการณ์เช่นนี้ทำให้ PTG อยู่ในสภาพ “ขงเบ้งนั่งตีขิมบนกำแพงเมือง”
คำอธิบายที่น่าตื่นเต้นนี้ยังไม่เกิดขึ้นและเป็นแค่การคาดเดาตามความเป็นไปได้เชิงตรรกะแม้จะทำให้ราคาหุ้น PTG วิ่งแรงต่อไปได้แต่ก็อาจจะเป็นแค่มายาภาพหรือเกมล่อแมงเม่าก็ย่อมได้
ใครคิดจะไล่ตามการคาดเดาคงต้องเตือนสติตัวเองให้ดีว่า สามารถรับความเสี่ยงได้มากเพียงใด