1,680 เป้าถัดไป

*ดูเหมือนอาการระริกระรี้เหมือนปลากระดี่ได้น้ำจะแผ่ซ่านไปทุกห้องค้า พร้อมกับมีการวาดฝันเป้าแรกของการวิ่งขึ้นเที่ยวนี้น่าจะอยู่ที่ระดับ 1,680 จุด “โมนิก้า” มองเป็นผลสืบเนื่องจากบรรยากาศการลงทุนทำให้นักเล่นเคลิบเคลิ้มอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จึงมองเหตุการณ์ในภายภาคหน้าสวยหรูไปหมดทุกอย่าง บวกกับในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นซึมซับรับข่าวร้ายไปอย่างเต็มที่ เลยไม่มีความกังวลว่าจะเกิดรายการ hard landing นะจะบอกให้


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ดูเหมือนอาการระริกระรีเหมือนปลากระดี่ได้น้ำจะแผ่ซ่านไปทุกห้องค้า พร้อมกับมีการวาดฝันเป้าแรกของการวิ่งขึ้นเที่ยวนี้น่าจะอยู่ที่ระดับ 1,680 จุด “โมนิก้า” มองเป็นผลสืบเนื่องจากบรรยากาศการลงทุนทำให้นักเล่นเคลิบเคลิ้มอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จึงมองเหตุการณ์ในภายภาคหน้าสวยหรูไปหมดทุกอย่าง บวกกับในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นซึมซับรับข่าวร้ายไปอย่างเต็มที่ เลยไม่มีความกังวลว่าจะเกิดรายการ hard landing นะจะบอกให้

*ผสานกับวานนี้ตลาดหุ้นต่างประเทศเปิดเขียวปี๋กันหมด จึงสร้างแรงฮึกเหิมให้กับนักเล่นได้เป็นอย่างดี “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักลงทุนมองสเต็ปการเล่นหุ้นเที่ยวนี้ไปทีละขั้น เพราะการขึ้นของตลาดหุ้นไทยจะยั่งยืนต้องตั้งอยู่บนปัจจัยพื้นฐาน ไม่ใช่มานั่งมโนว่าจะเป็นอย่างนั้น..เป็นอย่างนี้ เดี๊ยนถึงชอบหยิบตัวเลขขึ้นมาคำนวณเป็นประจำ เพราะมันทำให้รู้ว่า ดัชนียังมีแก๊ปให้เล่นอีกหรือเปล่านะซี

*เหมือนกับการสมมุติฐานของกูรูตลาดหุ้นไทยที่ทำนายกำไรต่อหุ้นของบริษัททั้งหมดในตลาดหุ้นจะอยู่ที่ระดับ 112 บาท ต่อจากนั้นนำมาเทียบเคียงกับค่า P/E 15 เท่า ก็จะได้ราคาเป้าหมายของดัชนีอยู่ที่บริเวณ 1,680 จุด เท่ากับเป็นการบอกใบ้ให้นักเล่นได้รู้ว่า การขึ้นมาปิดของดัชนีที่ระดับ 1,664.73 จุด บวกไป 11.23 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.75 หมื่นล้านบาท ยังเหลือแก๊ปให้เล่นกันอีกนิดหน่อยนะจะบอกให้

*เช่นเดียวกับแรงซื้อที่เข้ามาไล่ราคาหุ้น PTTEP จนขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 128 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 2.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.41 พันล้านบาท ถือเป็นช็อตที่คาดหวังว่า หุ้นจะวิ่งกลับขึ้นไปหายอดเดิมแถว 135 บาทอีกครั้ง มันเป็นเรื่องที่นักเล่นคิดกันแบบนั้น แต่เรื่องจริง ๆ จะทำได้เหมือนกับที่มองกันไว้หรือเปล่า ? อันนี้เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันดูต่อไปเรื่อย ๆ นะคะ

*คล้ายกับกรณีของ PTTGC มองในมุมไหน ด้านไหน แวลูของหุ้นก็อยู่สูงกว่าราคาปิดวานนี้ที่ระดับ 63 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.97 พันล้านบาทค่อนข้างเยอะ เดี๊ยนถึงรู้สึกดีใจทุกครั้งที่เห็นหุ้นเริ่มผงกหัวขึ้นได้อีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่สถิติเก่าตั้งแต่ต้นปีฟ้องว่า ขึ้นแล้วลงเป็นประจำ ! จึงต้องติดตามดูว่าแรงซื้อเที่ยวนี้จะมีเข้ามาต่อเนื่องขนาดไหนพะยะค่ะ

*ผิดกับในรายของ GULF ต่อให้โดนเทขายหนักขนาดไหน ? หุ้นลงลึกขนาดไหน ? สุดท้ายก็มีแรงซื้อเข้ามาไล่ราคาหุ้นเป็นประจำ ส่งผลให้ราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาทำจุดสูงสุดใหม่เป็นระยะ ล่าสุด “โมนิก้า” เห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 107.50 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 2.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 660 ล้านบาท มันทำให้เชื่อว่า หุ้นมีโอกาสทำ all time high ให้เห็นอีกครั้ง (เที่ยวก่อนทำไว้ที่ 107 บาท) ไงล่ะค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวคล้ายกับกรณีของ BEM เดินหน้าขึ้นแบบช้า ๆ แต่มั่นคงเหลือหลาย “โมนิก้า” ถึงไม่มีข้อสงสัยในการขึ้นแต่ละรอบ เพราะเมื่อมองถึงการเปิดใช้ส่วนต่อขยายเพิ่มเติม มันทำให้เห็นตัวเลขกำไรลอยมาแต่ไกลเลยทีเดียว ! เดี๊ยนถึงมองราคาปิดที่ 11.90 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 1.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 610 ล้านบาท พร้อมกับทำ all time high มันคือจังหวะของการไหลตามน้ำนะตัวเอง

*อีกรายที่มาแบบเนิบ ๆ แต่พอมีจังหวะงาม ๆ กระชากขึ้นแรงทุกที “โมนิก้า” คงให้ความสำคัญกับหุ้น CKP ก่อนใครเพื่อนอีกเช่นกัน ประกอบกับคุณลักษณะเป็นหุ้นต่ำสิบ เหมาะต่อนักเล่นทุกสถาบันในการเข้าลุย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หุ้นกระชากขึ้นมาทำ all time high ด้วยการปิดที่ระดับ 6.60 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 1.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 338 ล้านบาทนะจ๊ะ

*สำหรับอีกรายที่น่าลุ้นสุด ๆ “โมนิก้า” คงเบนเข็มไปที่ GUNKUL หลังเห็นหุ้นกำลังใช้ความพยายามในการเปลี่ยนฐานใหม่ให้สูงขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งเห็นแรงซื้อไหลเข้ามาเรื่อย ๆ จึงเป็นจังหวะของการไหลตามน้ำแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะแค่มองดูราคาปิดที่ 3.04 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 134 ล้านบาท โดยทุกคนเห็นฐานเก่าของหุ้นอยู่ที่บริเวณ 3.50 บาท ก็คุ้มที่จะเสี่ยงเข้าเล่นแล้วนะคะ

*เหมือนกับในรายของ DOD มีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่องหลังจากโดนเทขายหนักเป็นเวลานาน จนราคาหุ้นไต่ระดับจากบริเวณ 7 บาทขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 10.10 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 8.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 62 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่นักเล่นมองข้ามช็อตไปยังกำไรในไตรมาส 3 ต่อเนื่องถึงไตรมาส 4 ซึ่งเขาเม้าท์กันให้แซ่ดว่า กำไรน่าจะโตแบบมีนัยสำคัญ ถึงมีแฟนคลับเข้ามาไล่เก็บหุ้นอีกรอบเจ้าค่ะ

*ส่วนรายที่เทิร์นอะราวด์แบบหวือหวา “โมนิก้า” คงต้องมองไปที่หุ้น AIE หลังกลับเข้ามาเทรดวันแรกก็โดนจัดหนักตั้งแต่เริ่มการซื้อขาย จนราคาหุ้นเปิดได้ที่แค่ระดับ 0.40 บาท ต่อจากนั้นมีคนเข้ามาไล่ราคาขึ้นแบบช้า ๆ จนราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ราคาสูงสุดของวันที่ระดับ 0.68 บาท บวกไป 0.01 บาทเมื่อเทียบกับราคาปิดครั้งล่าสุดด้วยมูลค่าการซื้อขาย 623 ล้านบาท เดี๊ยนมองเป็นเกมที่นักเล่นต้องมองให้ออกว่า น้ำมันปาล์มขาขึ้น วิศวกรรมทางการเงินจะถูกนำมาใช้ ราคาหุ้นควรจะไปถึงระดับไหนนะจ๊ะ

Back to top button