เข้าเขตซื้อมากเกินไป

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ในช่วงสัปดาห์กว่า ๆ ที่เดี๊ยนเขียนเรื่องลับ ๆ ล่อ ๆ ของกลุ่มสายดาร์ก พร้อมกับมีการแตะผิว ๆ หน่วยงานทางการ (ก.ล.ต.) ที่กำลังประโคมข่าวพีอาร์อย่างสุดฤทธิ์ ก็มีผู้หวังดีบางแห่งส่งสารเรื่องเก้าอี้ดนตรีของหน่วยงาน ตลท. เข้ามาอีกระลอก พร้อมกับมีการสาธยายความกินแหนงแคลงใจภายในองค์กรแต่ละภาคส่วนให้เห็นแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติมาก ๆ และทำให้แผนพัฒนาตลาดหุ้นสะดุดอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ

*เมื่อสถานการณ์ออกมาในลักษณะ “สวยแต่รูป จูบไม่หอม” เดี๊ยนเลยไม่มีความจำเป็นต้องเข้าไปเร่งสถานการณ์ต่าง ๆ ให้สุกงอมก่อนเวลาอันควร จึงขอพักประเด็นดังกล่าวไว้เพียงเท่านี้ (ทำให้อยากแล้วจากไป) และขอนำแฟนคลับเข้าไปดูอาการตื้อ ๆ ตัน ๆ ของดัชนีเมื่อขึ้นมาใกล้บริเวณ 1,680 จุด มันมีเหตุผลมาใช้อธิบายไม่กี่เรื่อง จึงขอตบประเด็นดังกล่าวให้เข้ารูปเข้ารอยสักหน่อยนะจ๊ะ

*สำหรับเหตุผลที่ “โมนิก้า” ขอใช้อธิบายอาการดังกล่าวในเที่ยวนี้ คงพุ่งเป้าไปยังเรื่อง overbought มากกว่าเรื่องอื่น เพราะเมื่อลำดับแรงซื้อที่ไหลเข้ามาไม่หยุดหย่อน มันทำให้เชื่อว่า ตลาดหุ้นไทยถึงจังหวะทดสอบแรงขายอย่างเต็มตัว และตราบใดที่ดัชนียังประคองตัวยืนเหนือแนวรับสำคัญ 1,650 จุดได้อย่างเหนียวแน่น ย่อมทำให้เดี๊ยนเชื่อว่า ดัชนีมีโอกาสถีบตัวขึ้นรอบใหม่นะจะบอกให้

*ฉะนั้นการที่ดัชนียืนปิดที่ระดับ 1,671.11 จุด บวกไป 0.70 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.42 หมื่นล้านบาท จึงไม่มีอะไรต้องกังวลมากนัก เพราะยังอยู่ในลู่ทางที่ควรจะเป็นพอสมควร แต่ในระหว่างนี้ต้องติดตามกระแสข่าวลือต่าง ๆ ที่เริ่มผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด หลังอิทธิพลทางการเมืองเริ่มส่งผลกระทบกับหุ้นบางตัว จึงต้องมองเรื่องราคาพื้นฐานควบคู่กับสถานการณ์ของหุ้นตัวนั้น ๆ เป็นอย่างไรพะยะค่ะ

*เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ BEM โดนเทขายหนักตั้งแต่เปิดตลาด พร้อมกับมีกระแสดราม่าเกิดขึ้นในทันทีว่า รมว.คมนาคม คนใหม่ถอดด้ามจะไม่ต่อสัญญาสัมปทาน รวมทั้งกระแสข่าวเกี่ยวกับสหภาพแรงงานก็วุ่นวายหนักขึ้น บรรดานกรู้เลยชิงจังหวะขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยง ส่งผลให้ราคาหุ้นลงมานอนกองอยู่ที่ 11.40 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 5% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.94 พันล้านบาทไงล่ะค่ะ

*ส่วนหุ้นที่มาแรงและไปดีสุด ๆ “โมนิก้า” คงโฟกัสไปยัง STEC ภายใต้การกุมบังเหียนทางอ้อมของ “เสี่ยหนู” ไต่เพดานบินสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนวานนี้มาปิดที่ระดับ 26.25 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 1.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 868 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่นักเล่นไม่ต้องหวั่นเกรงอะไรอีกต่อไป เพราะของมันแบเบอร์มาตั้งแต่หัววันแล้วว่า สิ่งดี ๆ จะเกิดขึ้นกับหุ้นรับเหมาก่อสร้างตัวนี้อีกมากมายเจ้าค่ะ

*ไหน ๆ เม้าท์ถึงหุ้นการเมืองขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงต้องเหลือบไปมองน้องดูดี DOD ไปพร้อมกันในทีเดียว เพราะของมันเห็นกันทนโท่ว่า สตอรี่การเติบโตธุรกิจเกี่ยวโยงนโยบายของรัฐบาล “บิ๊กตู่” ผนวกกับปัจจุบันผู้คนมากมายหันสนใจเรื่องสมุนไพรพื้นบ้านกันมากขึ้น หรือแม้กระทั่งผลงานในครึ่งปีหลังจะแจ่มสุด ๆ ล้วนเป็นตัวแปรที่ทำให้ราคาหุ้นไต่ระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นปิดที่ระดับ 10.20 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 2.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 20 ล้านบาท..งานนี้บอกได้คำเดียวว่า จิ๋วแต่แจ๋ว ! นะคะ

*อีกรายที่ลุ้นระทึกว่าจะได้ “ทำหวย” ต่อไปหรือไม่ ? เดี๊ยนคงมองย้อนไปยังหุ้น LOXLEY หลังมีเสียงเม้าท์มอยถึงโอกาสไปต่อน่าจะเปิดกว้างมากขึ้น บวกกับเสียงของคนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการเอาของ “ใต้ดิน” ขึ้นมาอยู่ “บนดิน” ส่งผลให้นักเล่นหวนกลับเข้ามาไล่ราคากันอีกครั้ง หุ้นถึงพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.08 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 28 ล้านบาทแบบชิว ๆ นะจะบอกให้

*ส่วนรายที่มาด้วยความหวังเทิร์นอะราวด์อย่างชัดเจน และต้องลุ้นให้ผลงานไตรมาส 2 กลับมาทำกำไรเสียก่อน “โมนิก้า” คงต้องเปิดพื้นที่ให้กับ FN เพื่อสะท้อนความคิดของนักเล่นที่เข้ามาไล่ราคากันอย่างดุเดือด จนหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.66 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 7.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 48 ล้านบาท มันเป็นจังหวะที่ต้องไหลตามน้ำสำหรับพวกกล้าลุยนะจ๊ะ

*เม้าท์ถึงตรงนี้ทำให้ “โมนิก้า” จับจ้องมองไปที่ AIE ภายใต้การกุมเหียนของ “เฮียณรงค์” มากเป็นพิเศษ เพราะการรีซูมเทรดเที่ยวนี้มาพร้อมคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับผู้ถือหุ้นว่า ต่อจากนี้บริษัทจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง หลังโครงสร้างของธุรกิจลงตัวในทุกส่วน วานนี้ถึงเห็นนักลงทุนเข้ามาไล่ราคากันอีกยก จนราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ 0.73 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 5.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 262 ล้านบาท กลายเป็นช็อตที่เล่นยาว ๆ ได้สบายบรื๋อ !..อิอิอิ