3 วัน 50 จุด

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*วันนี้ “โมนิก้า” ขออนุญาตฮัมเพลงสมัยเด็ก ๆ “ไม่เชื่อก็อย่าเชื่อ ฉันมีเสื้อให้เธอใส่ ฉันมี..(ไอติม) ให้เธอดูด ฉันมี..(ยาหม่อง) ให้เธอดม” เพื่อทำให้บรรดาเพื่อนสนิท มิตรสหาย เกิดความสุนทรีย์ในอารมณ์มากขึ้นไปอีกนิด หลังบรรดาแมงเม่ารับทรัพย์ก้อนโตเข้ากระเป๋ากันเป็นว่าเล่น และเพลงดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวอะไรกับภาวะการลงทุนในยามนี้ แต่เผอิญมันแว่บขึ้นมาในหัวในช่วงกำลังจะปั่นต้นฉบับ เลยอยากร้องให้ฟังก็เท่านั้นแหละ…อิอิอิ

*ย้อนกลับมาดูบรรยากาศการลงทุนกันดีกว่า เพราะแรงซื้อจำนวนมากที่ไหลเข้ามาตั้งแต่เช้าจรดเย็น ทำให้ดัชนีทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,717.82 จุด บวกไป 11.84 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.50 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ยังมองเป็นช็อตของเงินไหลเข้าตลาดหุ้นอีกรอบ ถึงทำให้ดัชนีบวกต่อเนื่อง 3 วันติด และเมื่อรวมเบ็ดเสร็จดัชนีถีบตัวขึ้นมาถึง 50 จุด มันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะจะบอกให้

*งานนี้ไม่มีความจำเป็นต้องไปฟื้นฝอยหาตะเข็บให้ยุ่งยาก เพราะเพียงแค่มองภาพการเล่นเที่ยวนี้ให้แตกฉาน และคำนึงถึงเรื่องผลงานในไตรมาส 2 เป็นหลัก ต่อจากนั้นประเมินตัวเลขในไตรมาส 3 จะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญขนาดไหน ? เพียงเท่านี้แฟนคลับก็จะมองเห็นความเป็นไปได้ที่ดัชนีจะปรับตัวขึ้นต่อ “โมนิก้า” ถึงไม่กังวลใจกับแรงเทขายทำกำไรที่จะออกมาในเร็ว ๆ นี้ไงล่ะค่ะ

*เนื่องจากนักลงทุนแกนหลักยังโชว์ตัวเลขซื้อสุทธิเหมือนกับวันก่อน แถมได้เสียงเชียร์จากบรรดากูรูที่มั่นใจในทิศทางตลาดหุ้นมากขึ้น วานนี้ถึงเป็นอีกวันที่หุ้นบลูชิพโชว์ฟอร์มได้อย่างสวยสดงดงาม “โมนิก้า” เลยไม่อยากพูดถึงหุ้นตัวเดิม ๆ ในสภาวการณ์ลงทุนที่เขียวปี๋ เพราะยังมีหุ้นที่น่าเม้าท์แตกอีกหลายตัว จึงขอใช้พื้นที่ตรงนี้สำหรับการพูดถึงเหตุการณ์แปลกประหลาดที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้เจ้าค่ะ

*รายแรกที่ต้องเม้าท์ถึงคงโฟกัสไปที่หุ้น BEM หลังโดนเทขายท่ามกลางสภาวการณ์ลงทุนที่เอื้อสุด ๆ “โมนิก้า” มองเป็นสถานการณ์ที่ผิดปกติอย่างแน่นอน และเที่ยวนี้คงมีกลิ่นตุ ๆ ให้สายลับจับบ้านเล็กได้ตามดมกลิ่นอย่างแน่นอน และถ้ามองเรื่องราวที่ยังค้างคาถึงทุกวันนี้ ก็มีเพียงเรื่องฟ้องร้องจำนวนมหาศาลแลกกับการยืดสัมปทาน ซึ่งอาจไม่เป็นเหมือนกับที่คาดหวังหรือเปล่า ? หุ้นถึงทิ้งตัวลงมาปิดที่ 11.40 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 3.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.78 พันล้านบาทไงล่ะค่ะ

*ส่วนในรายของหุ้น WHA ภายใต้การบริหารจัดการของ “เจ๊จูน” อันนี้ไม่มีประเด็นทางธุรกิจเหมือนกับเจ้าแรก แต่อาจมีปัญหาตรงที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นเยอะเกิน วานนี้ถึงเห็นหุ้นถูกเทขายตลอดทั้งวัน จนราคาหุ้นลงมาปิดที่ 4.66 บาท ลบไป 0.06 บาทหรือลงไป 1.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 600 ล้านบาท แถมเป็นการปิดต่ำสุดของวันแบบนี้ มีโอกาสลงต่อค่อนข้างสูงนะจ๊ะ

*ผิดกับในรายของ IRPC อย่างสิ้นเชิง เพราะหุ้นตัวนี้ทะยานขึ้น 3 วันติด จนล่าสุดขึ้นมายืนปิดที่บริเวณ 5.15 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 765 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ชวนให้น่าติดตามเหลือเกิน เพราะหุ้นอยู่ในทิศทางขาลงเป็นเวลานาน แต่มาวันนี้กลับทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เดี๊ยนถึงมองเป็นเรื่องที่ต้องเม้าท์ถึงมากสักนิดหนึ่ง หลังนายใหม่ไม่ค่อยออกมาพบสื่อ เลยไม่รู้ว่า ทำอะไรอยู่จ้า !

*เช่นเดียวกับในรายของ AAV จู่ ๆ ทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 4.16 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 230 ล้านบาท มันไม่ได้ทำให้เดี๊ยนรู้สึกดีขึ้นสักเท่าไหร่ ! เพราะในอดีตหุ้นก็พุ่งแรงแบบไม่มีเหตุผล แต่ถัดมาอีกวันกลับโดนถล่มขายกลับไปที่เดิม ซึ่งเป็นภาพที่ติดตาของอีฉันมาจนถึงทุกวันนี้ จึงทำได้แค่เพียงภาวนาอย่าให้เป็นเช่นนั้นอีกเลย..โอมเพี้ยง !

*อีกรายที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันมากเหลือเกิน “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น TKN เป็นรายถัดไปในทันที เพราะการทะยานขึ้นมาปิดที่ 9.65 บาท บวกไป 0.55 บาท หรือขึ้นไป 6% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 442 ล้านบาท มันมองเป็นเรื่องที่เหนือคาดหมายมาก ๆ เพราะของมันเห็นกันเต็มสองลูกตาว่า ตัวเลขกำไรยังไม่มาตามนัด แต่ราคาหุ้นเริ่มออกสตาร์ต แสดงว่าต้องมีอะไรดีซ่อนไว้แหง ๆ เจ้าค่ะ