S ฤดูเก็บเกี่ยว..!
ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S วิ่งต่อเนื่อง…ปรับตัวขึ้นไปแล้ว 12.88%
สำนักข่าวรัชดา
ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S วิ่งต่อเนื่อง…ปรับตัวขึ้นไปแล้ว 12.88%
ท่ามกลางความสงสัยว่า มีปัจจัยหนุนอะไร ??
ที่จริง S จัดเป็นหุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง…
หลัง “กลุ่มสิงห์ พร็อพเพอร์ตี้” เข้าตลาดหุ้นทางอ้อม ผ่านการ Backdoor Listing บริษัท รสา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ RASA และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S เมื่อปลายปี 2557 พร้อมผ่องถ่ายสินทรัพย์จาก “สิงห์ พร็อพเพอร์ตี้” เข้ามา
จะเห็นพัฒนาการทั้งรายได้และกำไรของ S เติบโตอย่างก้าวกระโดด
จากปี 2558 ขาดทุนสุทธิ 260.84 ล้านบาท จากรายได้รวม 2,316.18 ล้านบาท ปี 2559 พลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 170.23 ล้านบาท จากรายได้รวม 3,657.62 ล้านบาท ปี 2560 มีกำไรสุทธิ 571.88 ล้านบาท จากรายได้รวม 6,220.62 ล้านบาท และปี 2561 กำไรสุทธิพุ่งแตะ 1,286.71 ล้านบาท จากรายได้รวม 8,935.94 ล้านบาท
ล่าสุดไตรมาส 1/62 ฟาดกำไรสุทธิไปแล้ว 293 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 259 ล้านบาท และมีรายได้รวม 3,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 167% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,123 ล้านบาท
S ใช้เวลาไม่กี่ปี ก็ขึ้นทำเนียบหุ้นอสังหาฯ ที่ทำผลงานโดดเด่น
แต่…น่าเสียดาย ราคาหุ้น S ช่วงที่ผ่านมากลับไม่ตอบสนองกับผลประกอบการที่เติบโตเอาซะเลย…
ราคาป้วนเปี้ยวแถวระดับ 3 บาทต้น ๆ มาเป็นแรมปี
นี่อาจเป็นความหวังครั้งใหม่ที่จะได้เห็นราคาหุ้น S ไต่ระดับทะลุ 4 บาท ได้ซะที…
เพราะไม่ว่าจะมองจากมุมไหน จะเห็นว่า S มีปัจจัยบวกรองรับมากมาย
ปัจจัยทางตรง มีโครงการใหญ่ ๆ ที่จะรับรู้รายได้เข้ามาต่อเนื่อง
โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม The EssseAsoke, โครงการ The Esse at Singha Complex และโครงการบ้านเดี่ยว Santiburi
ส่วนปัจจัยทางอ้อมจะรับรู้รายได้จากการถือหุ้น 20% ในกองทรัสต์ SPRIME ที่มีสินทรัพย์เข้ากองต่อเนื่อง
รวมทั้งรายได้ประจำจากค่าเช่าจากโครงการ Singha Complex และ Lighthouse
ทำให้ปี 2562 นี้คาดว่า เป็นปีแห่งการเริ่มต้นเก็บเกี่ยวดอกผลจากการลงทุนช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
ไม่นับรวมที่ช่วงปลายปีนี้ S เตรียมส่งบริษัทลูก คือ บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR ซึ่งทำธุรกิจโรงแรมในเครือที่คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีโรงแรมภายใต้การบริหาร 39 แห่ง รวม 4,647 ห้องใน 5 ประเทศ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
โดยจะขาย IPO ไม่เกิน 1,437 ล้านหุ้น คาด S จะได้เงินทุนหมุนเวียนเข้ามาประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท
คาดจะหนุนให้ S มีฐานะการเงินที่ดีขึ้น และทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้น (D/E) ลดลงจากปี 2561 อยู่ที่ 2.24 เท่า มาอยู่ที่ 1.60 เท่าในปีนี้
S ตั้งงบลงทุนในปี 2562 ไว้ที่ 8,000-10,000 ล้านบาท เพื่อสร้างรายได้ให้ถึง 20,000 ล้านบาท ภายในปี 2563 และก้าวสู่การเป็น “โกลบอล โฮลดิ้ง คัมปานี” (Global Holding Company) อย่างสมบูรณ์แบบ
นี่แว่วๆ มาว่า ล่าสุด มีนักธุรกิจเหมืองหยกและทับทิมจากเมียนมา สนใจอยากร่วมทุนกับ S พัฒนาโครงการทั้งในประเทศไทย และที่เมียนมาด้วยนะ
แหม๊…เนื้อหอมจริง ๆ
นักวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” หุ้น S ให้ราคาเป้าหมายของ 12 เดือนที่ 4.20 บาท
ก็ยังมีอัพไซด์ให้เล่นอีกเพียบ…
จึงเป็นจังหวะดี หากช่วงนี้ใครจะเก็บหุ้น S ติดพอร์ตไว้
อืม…หรือใครเห็นต่างมองว่ายังไม่เข้าตา ก็ไม่ว่ากัน…
…อิ อิ อิ…