การขายตัดราคาน้ำมันปาล์ม..เพื่อทำลายคู่แข่ง
การกล่าวอ้างว่ามีการขายตัดราคาน้ำมันปาล์มเพื่อทำลายคู่แข่งต้องมีข้อเท็จจริงประกอบจำนวนมาก ไม่สามารถกล่าวอ้างว่าผู้ประกอบธุรกิจทำผิดเพราะขายราคาถูกเท่านั้น
Cap & Corp Forum
การขายตัดราคาหรือการตั้งราคาเพื่อกำจัดคู่แข่งขันเป็นพฤติกรรมทางการค้ารูปแบบหนึ่งที่พระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 กำหนดให้เป็นความผิดตามกฎหมายและมีโทษทางอาญา แต่การขายตัดราคาดังกล่าวจะเป็นความผิดตามกฎหมายได้จะต้องประกอบด้วยเงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนดด้วย มิใช่เพียงแต่การจำหน่ายในราคาต่ำจะมีผลให้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายทันที โดยมาตรา 50(1) แห่งพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 กำหนดห้ามมิให้ผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาดกำหนดหรือรักษาระดับราคาซื้อหรือขายสินค้าหรือค่าบริการอย่างไม่เป็นธรรม การกระทำความผิดตามมาตรานี้เป็นการกระทำในลักษณะที่เรียกว่า unilateral conduct กล่าวคือ เป็นการกระทำความผิดที่ผู้ประกอบธุรกิจรายเดียวก็อาจกระทำความผิดได้ โดยอาจจำแนกโครงสร้างความรับผิดตามมาตรานี้ ได้ 3 องค์ประกอบ กล่าวคือ
- องค์ประกอบที่ 1 ต้องเป็นผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาด
- องค์ประกอบที่ 2 มีการกระทำที่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนด และ
- องค์ประกอบที่ 3 ไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด
องค์ประกอบที่ 1 ใครบ้างเป็นผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาด
ผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาดเป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากของการบังคับใช้กฎหมายการแข่งขันทางการค้าเนื่องจากกฎหมายพิจารณาเห็นว่าผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาดสามารถสร้างหรือทำลายการแข่งขันได้อย่างมีนัยสำคัญ ด้วยเหตุนี้ ระบบกฎหมายการแข่งขันทางการค้า จึงให้ความสำคัญและกำหนดเกณฑ์การกำกับดูแลที่เข้มงวดต่อพฤติกรรมทางการค้าของผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าว โดยประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เรื่อง หลักเกณฑ์การเป็นผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาด พ.ศ. 2561 กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจที่มีส่วนแบ่งตลาดและยอดเงินขายดังต่อไปนี้เป็นผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาด
(1) ผู้ประกอบธุรกิจรายใดรายหนึ่งในตลาดสินค้าใดสินค้าหนึ่ง หรือบริการใดบริการหนึ่ง ที่มีส่วนแบ่งตลาดในปีที่ผ่านมาตั้งแต่ร้อยละห้าสิบขึ้นไป และมียอดเงินขายในปีที่ผ่านมาตั้งแต่หนึ่งพันล้านบาท ขึ้นไป หรือ
(2) ผู้ประกอบธุรกิจสามรายแรก (concentration ratio, CR3) ในตลาดสินค้าใดสินค้าหนึ่ง หรือบริการใดบริการหนึ่งที่มีส่วนแบ่งตลาดในปีที่ผ่านมารวมกันตั้งแต่ร้อยละเจ็ดสิบห้าขึ้นไป และมียอดเงินขายในปีที่ผ่านมาแต่ละรายตั้งแต่หนึ่งพันล้านบาทขึ้นไป แต่ไม่ให้ใช้บังคับกับผู้ประกอบธุรกิจรายใดรายหนึ่งที่มีส่วนแบ่งตลาดในปีที่ผ่านมาต่ำกว่าร้อยละสิบ
โดยการนับส่วนแบ่งตลาดและยอดเงินขายของผู้ประกอบธุรกิจรายหนึ่งซึ่งมีอำนาจเหนือตลาด ให้นับรวมส่วนแบ่งตลาดและยอดเงินขายในตลาดสินค้าใดสินค้าหนึ่งหรือบริการใดบริการหนึ่งของบรรดาผู้ประกอบธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กันทางนโยบายหรืออำนาจสั่งการตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการประกาศกำหนดด้วย และให้ถือว่าบรรดาผู้ประกอบธุรกิจที่มีส่วนแบ่งตลาดดังกล่าวเป็นผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาด กล่าวคือ ส่วนแบ่งตลาดให้นับรวมของบริษัทแม่-บริษัทลูกหรือบริษัทในเครืออีกด้วย หากโครงสร้างดังกล่าวทำให้สามารถควบคุมทางนโยบายได้ เป็นต้น ซึ่งถ้าพิจารณาตามแผนภาพ A, B และ C ทุกรายเป็นผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาด
ก่อนที่จะกำหนดได้ว่าใครบ้างเป็นผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาด จะต้องพิจารณา “กำหนดขอบเขตตลาด” (market defination) เสียก่อนตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เรื่อง แนวทางปฏิบัติในการพิจารณากำหนดขอบเขตตลาดและส่วนแบ่งตลาด พ.ศ. 2562 กล่าวคือ ทำการวิเคราะห์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสินค้าที่ใช้ทดแทนกันได้ โดยพิจารณาตลาดสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวเนื่องและตลาดภูมิศาสตร์ที่เกี่ยวเนื่องเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อสรุปของขอบเขตตลาดในการบังคับใช้กฎหมายการแข่งขันทางการค้า โดยในการพิจารณากำหนดขอบเขตตลาดจะต้องพิจารณาทั้งในด้านการทดแทนกันด้านอุปสงค์ การทดแทนกันด้านอุปทาน และการแข่งขันที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต ฯลฯ ซึ่งต้องใช้ข้อมูลทางสถิติและหลักการทางเศรษฐมิติ (econometrics) ในการวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน มิใช่เพียงแต่เห็นจากปรากฏการณ์ในตลาดก็จะสามารถสรุปได้ทันทีว่า “ตลาดสินค้า” หรือ “ตลาดภูมิศาสตร์” ที่เกี่ยวข้องคืออะไร
องค์ประกอบที่ 2 กระทำการที่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย
มาตรา 50(1) ประกอบประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เรื่อง แนวทางปฏิบัติในการพิจารณาการกระทำต้องห้ามของผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาด พ.ศ. 2562 กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการตั้งราคาเพื่อกำจัดคู่แข่งขัน ไว้ดังนี้
การตั้งราคาเพื่อกำจัดคู่แข่งขัน (predatory pricing) ได้แก่ การตั้งราคาสินค้าหรือบริการ ในระดับต่ำมากโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจที่เป็นคู่แข่งขันต้องออกจากตลาดไป ทั้งนี้ให้สันนิษฐานว่าการตั้งราคาสินค้าหรือบริการต่ำกว่าต้นทุนแปรผันเฉลี่ย (average variable cost : AVC) เป็นการตั้งราคาเพื่อกำจัดคู่แข่งขันและผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาดที่กำหนดราคาดังกล่าว จะต้องชี้แจงเหตุผลอันสมควรหรือความเป็นธรรมในการตั้งราคาดังกล่าว เช่น การลดราคาสินค้าชนิดหนึ่ง เพื่อเพิ่มการขายสินค้าอีกชนิดหนึ่ง (loss leading) การสนับสนุนการขายสินค้าในระยะสั้น (short-run promotions) เช่น การแนะนำสินค้าชนิดใหม่เพื่อเข้าสู่ตลาด หรือการลดราคาลงเพื่อให้สามารถอยู่รอดได้ในตลาดกรณีที่ความต้องการของตลาด (demand) ลดลงอย่างไม่สามารถคาดการณ์ได้
องค์ประกอบที่ 3 ไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด
การบังคับใช้มาตรา 50 นั้น อยู่ภายใต้หลักการให้เหตุผล (rule of reason) นั่นหมายความว่าหากผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาดมีพฤติกรรมทางการค้าดังกล่าวก็อาจจะไม่ถือว่าเป็นการกระทำความผิดเสมอไปหากมีเหตุผลในทางธุรกิจ ทางเศรษฐศาสตร์ หรืออื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด
การฝ่าฝืนมาตรา 50 กฎหมายกำหนดโทษทางอาญาไว้ว่าอาจต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินร้อยละสิบของรายได้ในปีที่กระทำความผิด หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือในกรณีที่เป็นการกระทำความผิดในปีแรกของการประกอบธุรกิจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรรมการหรือผู้แทนของนิติบุคคลก็อาจต้องร่วมรับผิดด้วยเช่นกัน
การที่จะกล่าวอ้างว่ามีขายตัดราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดเพื่อทำลายคู่แข่งจึงเป็นเรื่องที่ต้องมีข้อเท็จจริงประกอบจำนวนมาก ไม่สามารถกล่าวอ้างว่าผู้ประกอบธุรกิจกระทำผิดเพราะขายของราคาถูกเท่านั้น
…
ศุภวัชร์ มาลานนท์
คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์