เวิลด์ เอ็กซ์โป มิลาโน 2015ขี่พายุ ทะลุฟ้า
5 ปีที่แล้ว จัดขึ้น ณ เซี่ยงไฮ้ อันตระการตา มาปีนี้ ย้ายเวทีมาจัดกันที่มิลาน อิตาลี ภายใต้กรอบแนวคิด “แหล่งผลิตอาหารเลี้ยงโลก และพลังงานเพื่อชีวิต”
5 ปีที่แล้ว จัดขึ้น ณ เซี่ยงไฮ้ อันตระการตา มาปีนี้ ย้ายเวทีมาจัดกันที่มิลาน อิตาลี ภายใต้กรอบแนวคิด “แหล่งผลิตอาหารเลี้ยงโลก และพลังงานเพื่อชีวิต”
5 ปี เจอกันครั้งหนึ่ง ระหว่างคอลัมนิสต์-นักนสพ.อาวุโสกับผู้บริหารกลุ่มปตท. เพื่อมาดูงานเวิลด์ เอ็กซ์โป ซึ่งเน้นหนักการเสนอแนวคิดในอนาคตของแต่ละประเทศ มากกว่าเน้นการเป็นงานซื้อขายสินค้า
โดยริเริ่มมาตั้งแต่ท่านผู้ว่าฯประเสริฐ บุญสัมพันธ์ สืบทอดมาจนถึงยุคท่านปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ และท่านไพรินทร์ ชูโชติถาวร
ช่วงต้นกรกฎาคมที่คณะเราไปกัน อิตาลีร้อนตับแลบ ยิ่งกว่ากรุงเทพฯเสียอีก แต่เที่ยวนี้ เจ้าภาพใช้พื้นที่จัดงานไม่กว้างขวางนัก แต่ละพาวิเลี่ยน อยู่ใกล้ชิดติดกันไปเลย จึงใช้เวลาเดินทางถึงกันไม่นานนัก
แม้จะฝ่าเปลวแดดและความร้อน แต่คณะเราก็สามารถจะทำสถิติ 2 วัน เข้าดูชมได้ถึง 10 พาวิเลี่ยน ล้วนแต่เป็นพาวิเลี่ยนดัง ที่ติดอันดับยอดนิยมทั้งนั้น
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี ซึ่งจะเป็นเจ้าภาพเวิลด์ เอ็กซ์โปคราวหน้า ก็เลย “จัดเต็ม” ซะคราวนี้ โดยทุ่มทุนนำสถาปนิกระดับโลก นอร์แมน ฟอสเตอร์มาออกแบบพาวิเลี่ยน
ขนาดทะเลทราย ยังดูสวย
ธีมหลักของพาวิเลี่ยนยูเออี คือ การเติมสีเขียวและแหล่งน้ำให้แก่ประเทศ ขนาดต้นปาล์มต้นเดียว ยังใช้เฮลิคอปเตอร์เคลื่อนย้ายซะทั่วเมืองไปปลูก
เป็นการนำเสนอโดยดาราเด็กชื่อดังของยูเออี ผ่านระบบมัลติมีเดีย 4 มิติที่น่าตื่นตาตื่นใจยิ่ง
พาวิเลี่ยน เยอรมนี ไม่ให้เสียชื่อผู้นำเทคโนโลยีทุกทางของโลก โดยใช้แผงตกแต่งพาวิเลี่ยนเป็นโซลาร์เซลล์ เลยกลายเป็นพาวิเลี่ยนเดียวที่ไม่ใช้ไฟฟ้าจากส่วนกลาง แต่ใช้กระแสไฟฟ้าที่ผลิตโดยตัวเอง
พาวิเลี่ยนญี่ปุ่น อลังการในแบบฉบับของตัวเอง ที่เทคโนโลยีกับศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิม ขับเคลื่อนความเป็นประเทศไปด้วยกัน อาหารญี่ปุ่นตัวจริงก็เป็นที่เลื่องลือมากอยู่แล้ว ยังมีอาหารในอนาคต ที่สามารถเนรมิตมาได้จากหน้าจอคอมพิวเตอร์อีก
พาวิเลี่ยนคาซัคสถาน “ประเทศที่กว้างใหญ่ แต่มีคนรู้จักเพียงน้อยนิด” นี่สิ สร้างความตื่นตาตื่นใจได้อย่างนึกไม่ถึง
ใครจะรู้ล่ะว่า ประเทศในเครืออดีตสหภาพโซเวียตประเทศนี้ มีดินแดนใหญ่เป็นที่ 2 รองจากรัสเซียและเหนือกว่ายูเครน
ถึงแม้จะไม่มีทางออกทะเล แต่ก็เป็นประเทศที่มีทรัพยากรมากมายมหาศาลทั้งทางด้านอาหารและพลังงาน
ส่วนของอาหารก็มีทั้งข้าวสาลี นมเนย และแอปเปิ้ล และส่วนของพลังงานก็มีทั้งก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน เป็นปริมาณสำรองที่ยังสูงอยู่มาก
แค่ดูภาพวาดกราฟฟิกจากฝีมือของสาวงามคาซัคฯ แสดงถึงการพลิกผืนดินทะเลทรายมาปลูกพืชผลต่างๆ ก็น่าตื่นตาตื่นใจแล้ว
ยังมีรายการพาชมสวนส้ม ท่องไปในทะเลทรายและผืนดินต่างๆ ราวกับนั่งฮ.ไปชมในระบบมัลติมีเดีย 4 มิติเข้าให้อีก เล่นเอาคนดูหลบกันวูบวาบ เพราะกลัวจะทะลุจอไปทำลายต้นส้มและหอคอย
ประเทศใหญ่ แต่มีคนรู้จักเพียงน้อยนิด สร้างความเซอร์ไพรส์ได้อย่างน่าทึ่งจริงๆ
ในปี 2017 ก็จะเป็นเจ้าภาพจัดงานเอ็กซ์โประดับย่อม ภายใต้ธีม “พลังงานในอนาคต” นับเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ไปเยือนดินแดนแห่งความมหัศจรรย์แห่งนี้
พาวิเลี่ยนออสเตรีย แสดงรูปแบบการอยู่อาศัยภายใต้สิ่งแวดล้อมของป่าในเมือง ที่มีทั้งความเย็นและเขียวขจีได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
พาวิเลี่ยนอิสราเอลนี่ ทั้งแสดงกึ๋นระดับสูง ฝีมือการนำเสนอในระดับสูง และ“ตีกิน” ระดับโลกได้แบบเนียนๆเลยทีเดียว
เหยียบย่างเข้าไปบนพื้นที่ด้านหน้าพาวิเลี่ยน ก็มีเดวิส คอปเปอร์ฟิลด์ (ตัวปลอม) เข้ามาเล่นกลเป็นการเชิญชวนให้เข้าไปดูแล้ว เป็นการนำเสนอในรูปของมัลติมีเดียชนิดเสกคนให้เดินจูงมือกันแล้วหายวับเข้าไปในงานได้เลย
เข้าไปดูการสร้างเนื้อสร้างตัวของอิสราเอล ดูพรีเซนเทชั่นที่ใช้เวลาแค่ 10 นาที ก็เข้าใจในความเป็นอิสราเอลได้หมดตั้งแต่การพลิกผืนทะเลทรายร้าง สร้างระบบน้ำหยด การสร้างแหล่งน้ำ ยันระบบการบริหารจัดการน้ำแบบพอเพียง
ตบท้ายพรีเซนเทชั่นที่คมคาย แต่ก็ไม่รู้สึกว่าน่าเกลียด นั่นก็คือ “อิสราเอลมีประชากร 8 ล้านคน แต่สามารถผลิตอาหารเลี้ยงดูพลเมืองโลกได้ถึง 7 พันล้านคน”
เจ็บปวด แต่ก็ดูน่ารักไปอีกแบบ
สำหรับพาวิเลี่ยนประเทศไทย ถือเป็นหน้าที่ว่าไปแล้ว ก็ต้องดู!
เป็นพาวิเลี่ยนที่เน้นการนำเสนอในรูปแบบของข้อเท็จจริง สิ่งละอันพันละน้อยที่เน้นสนุก โดยไม่เน้นการสื่อสารในเชิงแนวคิดใดๆ ทั้งสิ้น