ข่าวดีท่วมตลาด

ดัชนีตลาดหุ้นไทยทะยานขึ้นร้อนแรงอีกแล้ว


ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

ดัชนีตลาดหุ้นไทยทะยานขึ้นร้อนแรงอีกแล้ว

ปิดบวก 10.57 จุด (0.61%) มาที่ 1,740.91 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายกว่า 68,500 ล้านบาท

หุ้นไทยที่ขึ้นมา สอดคล้องกันตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย รับ sentiment เชิงบวกหลังการเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนออกมาในทิศทางที่ดีขึ้น

ทว่าเรื่องนี้ยังต้องติดตามกันต่อไป เพราะเทรดวอร์ยังไม่ได้จบแบบสะเด็ดน้ำ หรือเป็นการ “พักรบ” ชั่วคราว

ส่วนวันนี้ (2 ก.ค.) มีการประชุมของกลุ่มโอเปก

ประเด็นสำคัญคือการหารือเรื่องการจะปรับกำลังการผลิตน้ำมันหรือไม่

หากมีแนวทางที่ออกมาเป็นบวกต่อราคาน้ำมันดิบ ก็น่าจะส่งผลต่อหุ้นกลุ่มน้ำมันทะยานขึ้นต่อไปได้

และมาลุ้นกันว่า รอบนี้ “พี่ปอ” หรือ PTT ราคาจะผ่านแนวต้านสำคัญ 50.00 บาทได้หรือเปล่า

อีกข่าวที่ต้องติดตามคือ ในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ นี้ยังมีการประชุม FOMC หรือคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อีกครั้ง

ต้องมาลุ้นข่าวดีกันว่า เฟดจะเซอร์ไพรส์ลดดอกเบี้ยเลยหรือไม่

ส่วนนักวิเคราะห์ ได้ประเมินกันไว้ก่อนหน้านี้ว่า ยังไงปีนี้ เฟดจะต้องลดดอกเบี้ยแน่นอน

แต่จะลดจำนวนกี่ครั้งนั้น ยังมิทราบได้

กรณีของผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กับ “คิม จอง อึน” ผู้นำเกาหลีเหนือ พบปะกัน

นี่ก็เป็นอีกข่าวดีของตลาดหุ้นด้วยเช่นกัน

แม้ภาพรวม ตลาดหุ้นจะคึกคักรับข่าวบวกที่เข้ามาท่วมตลาดในขณะนี้

แต่ในประเทศยังต้องลุ้นเรื่องการเมืองว่า การจัดตั้งรัฐบาลจะล้ม หรือเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่

เพราะเหมือนยิ่งนับวัน ฝุ่นจะตลบมากขึ้นทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มต้นทำงานอะไรกันเลย

และก็ไม่รู้ว่าที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บอกว่า ทุกอย่างจะแล้วเสร็จภายในกลางเดือนกรกฎาคมนี้ จะเป็นไปตามที่ว่าไว้หรือเปล่า

ไม่ว่าจะอย่างไร

นักวิเคราะห์ต่างมองว่า หุ้นไทยยังจะสามารถวิ่งขึ้นต่อไปได้

อย่างในงานสัมมนาของ “ข่าวหุ้นธุรกิจ”  ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

นักวิเคราะห์ที่ได้รับเชิญมาในงาน ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า มีโอกาสที่ดัชนีตลาดหุ้นไทย วิ่งขึ้นไปถึง 1,800 จุดในปีนี้ค่อนข้างแน่นอน

บางรายมองไปถึง 1,850 จุด

แต่ในระยะสั้นดัชนีอาจจะไม่ได้ขึ้นมาร้อนแรงเหมือนช่วง 1 เดือนก่อนหน้านี้

เพราะหุ้นขนาดใหญ่หลาย ๆ ตัวราคาขึ้นมาเยอะแล้วล่ะ

ในช่วงนี้จึงน่าจะเป็นช่วงเวลาของหุ้นขนาดกลางและเล็กที่ราคายังแลกการ์ด หรือขึ้นมาน้อยกว่าตลาด

แต่อย่างว่าแหละ หุ้นเหล่านี้ต่างมีมาร์เก็ตแคปไม่มากนัก จึงดันดัชนีได้ไม่มากนัก

ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไตรมาส 2/2562 น่าจะออกมาแบบ “ทรงตัว” จากการประเมินของบรรดาเหล่านักวิเคราะห์จากโบรกฯ ต่าง ๆ

ส่วนกำไรของ บจ.ช่วงไตรมาส 3 และ 4 จะปรับตัวดีขึ้น

และน่าจะช่วยดันดัชนีให้ทะยานขึ้นไปได้อีกครั้ง โดยอาจมี “กลุ่มน้ำมัน” เป็นตัวหลักในการผลักดัน

ทิศทางของฟันด์โฟลว์ ยังจะเข้ามาต่อเนื่องเช่นกัน

เมื่อวานนี้ก็ซื้อสุทธิอีก 4,697 ล้านบาท ส่งผลนับจากต้นปี ต่างชาติซื้อไปแล้ว  45,347 ล้านบาท

มีการประเมินว่า หุ้นอาจจะพักฐานบ้าง แต่เป็นช่วงสั้น ๆ และไม่ได้ปรับลงอย่างหนักอะไร

ดูเหมือนจะมีข่าวดีเข้ามาค่อนข้างเยอะทีเดียว

สำหรับตลาดหุ้นไทย

Back to top button