จุดสร้างฐาน

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ช่วงนี้อารมณ์ของนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ ค่อนข้างเบิกบานแจ่มใสกันอย่างถ้วนหน้า เพราะตัวแปรที่เป็นอุปสรรคสำหรับการทำธุรกิจในหลากหลายมิติได้ถูกทำลายลงไปอย่างราบคาบ และเหลือทิ้งไว้เพียงแค่ “ฟ้าหลังฝน” ซึ่งเต็มไปด้วยท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพระยิบระยับ (ฟังแล้วคลาสสิกดีไหม ?) “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่ผู้เล่นหลักพากันตบเกียร์ห้า เดินหน้าซื้อหุ้นแบบสุดซอยกันไปเลยพะยะค่ะ

*ในเมื่อคนทำธุรกิจเริ่มมองเห็นโอกาส และกูรูตลาดหุ้นก็เห็นโอกาส เดี๊ยนถึงอยากให้แมงเม่ามองเห็นโอกาสดังกล่าวเหมือนกัน เพราะตลาดหุ้นไทยกำลังถูกขับเคลื่อนด้วยอิทธิพลตลาดหุ้นต่างประเทศ และเงินทุนไหลเข้าอย่างต่อเนื่องเป็นหลัก จึงไม่มีเวลามาสนใจเรื่องแวลู ณ ปัจจุบันควรเป็นเท่าไหร่ ? เพราะทุกคนมองข้างหน้าไปแล้วไม่ต่ำกว่า 6 เดือน จึงเหลือแก๊ปให้วิ่งกันอีกบานตะไทนะจะบอกให้

*ก่อนจะไปถึงตรงนั้น “โมนิก้า” ขอแตะเบรกเบา ๆ เพื่อทำให้นักเล่นเข้าใจโมเมนตัมของตลาดหุ้นไทยสักนิดหนึ่งว่า ดัชนีจำเป็นต้องพลิกแนวต้านบริเวณ 1,750 จุดให้กลายเป็นแนวรับอันแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นการสร้างฐานสำหรับการทะยานขึ้นไปหายอดด้านบนที่เขาเม้าท์กันหนาหูเหลือเกินว่า เป้าหมายเหมาะสมของการเล่นเที่ยวนี้อยู่ที่บริเวณ 1,850 จุดนั่นไงล่ะค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวทำให้การยืนปิดที่ระดับ 1,740.91 จุด บวกไป 10.57 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.85 หมื่นล้านบาท กลายเป็นระดับที่นักเล่นสามารถเข้าเล่นได้สบาย ๆ และโฟกัสของการเล่นเที่ยวนี้คงต้องมองไปที่หุ้นบลูชิพมากเป็นพิเศษ เพราะเริ่มมีการงัดไม้เด็ดออกมานำเสนอนักเล่นเรื่อย ๆ “โมนิก้า” ถึงมองข้อมูลข่าวสารที่ออกมาในช่วงหลัง มักเต็มไปด้วยการส่งสัญญาณตัวเลขกำไรในอนาคตจะเด็ดสะระตี่เจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของแบงก์ตราใบโพธิ์ SCB ประกาศดีลขาย SCBLIFE ให้กับกลุ่ม FWD พร้อมกับรับทรัพย์ก้อนโตกว่า 9.20 หมื่นล้านบาท ย่อมหมายถึงโอกาสของแมงเม่าในการรับปันผลพิเศษมากขึ้นกว่าเดิม บรรดานกรู้ถึงพากันเข้ามาไล่ราคาหุ้นอย่างคึกคัก จนราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 141 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.98 พันล้านบาท  บรรดาผู้รู้เขาตีแวลูไว้ที่บริเวณ 150 บาทแบบนี้..คงรู้นะว่า ควรทำตัวอย่างไร ?

*เช่นเดียวกับในรายของ GULF มีสตอรี่ที่จะทำให้กำไรโตอีกบานตะไท บวกกับบรรดากองทุนให้ความสนใจอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่หุ้นเดินหน้าทำ all time high ทุกครั้งที่มีโอกาส และมองการขึ้นมายืนปิดที่ 127.50 บาท บวกไป 4.50 บาท หรือขึ้นไป 3.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.10 พันล้านบาท น่าจะเป็นเพียงฐานบันไดอีกขั้นที่จะหนุนให้หุ้นขึ้นอย่างมั่นคงนะจะบอกให้

*เม้าท์ถึงตรงนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอหันไปดูหุ้น IRPC เพื่อบอกเล่าทิศทางของหุ้นให้นักเล่นได้รับรู้อีกนิดหนึ่งว่า การทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 5.20 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.05 พันล้านบาท ยังคงเป็นช็อตที่นักเล่นต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะการขึ้นเที่ยวนี้มาพร้อมกับสัญญาณบวกหลายอย่างด้วยกัน จึงต้องไปต่อโดยไม่มีเงื่อนไขอะไรทั้งสิ้น หากไม่เป็นเหมือนที่เม้าท์ไว้..ก็ตัวใครตัวมันแล้วกันนะจ๊ะ

*อีกหนึ่งรายที่น่าสนใจสุด ๆ คงต้องยกให้น้องมิ้น MINT กระชากขึ้นพรวดเดียวตั้งแต่เช้าจรดเย็น ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 42.25 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 904 ล้านบาท “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นจังหวะของการ follow buy แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะของมันเห็นกันทนโทว่า การขึ้นเที่ยวนี้มีสตอรี่เรื่องกำไรเป็นตัวแบ็กอัพ จึงเชื่อกันว่า ยอดเก่าบริเวณราคา 45 บาทคงไม่ใช่เรื่องยากเจ้าค่ะ

*ส่วนรายที่เผลอทีไร แอบขึ้นแรงทุกที “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปยัง SINGER เพื่อทำให้เห็นว่า การวิ่งขึ้นมาปิดที่ 8.20 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 10.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 164 ล้านบาท ไม่ได้มาเล่น ๆ แถมเป็นน้องเล็กในกลุ่มของ JMART ที่ขึ้นแรงเป็นตัวสุดท้าย พรายกระซิบถึงกล้าแนะนำบรรดาขาลุยให้กระโจนใส่แบบสุดลิ่มทิ่มประตู เพราะมันไม่มีอะไรต้องวิตกกังวลเหมือนในอดีต แถมปีนี้ได้เห็นกำไรแบบสวย ๆ ด้วยแล้ว..ลุยโลดเลยนะตัวเอง !

*สำหรับหุ้นอีกกลุ่มที่อยากให้นักเล่นหันมามอง “โมนิก้า” คงให้ความสำคัญกับหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เพราะทันทีที่สงครามการค้าเริ่มผ่อนคลาย บรรดาผู้รู้ก็มองเห็นอานิสงส์ที่มีเข้ามาเยอะแยะไปหมด แถมดาวเด่นเที่ยวนี้มองไป HANA มากกว่าใครเพื่อน เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับลองประเมินการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 27.25 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 5.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 225 ล้านบาท มันใช่การกลับทิศเหมือนที่เขาร่ำลือกันจริงหรือเปล่า ? ฝากไปเป็นการบ้านให้คิดก่อนนอนด้วยนะจ๊ะ