ตู่ยังขู่ใครได้
งุนงงไม่หาย กับการออกสารนายกฯ ขอโทษประชาชน แทนพรรคพลังประชารัฐที่มีข่าวขัดแย้งแย่งรัฐมนตรี
ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง
งุนงงไม่หาย กับการออกสารนายกฯ ขอโทษประชาชน แทนพรรคพลังประชารัฐที่มีข่าวขัดแย้งแย่งรัฐมนตรี
งงตั้งแต่ต้น เพราะไม่เห็นมีความจำเป็นอะไร ที่ท่านต้องรับผิดชอบแทนพรรค เป็นเพียงบุคคลที่พรรคเสนอชื่อให้เป็นนายกฯ แต่กลับออกมาพูดราวกับเจ้าของพรรคตัวจริง
แม้อันที่จริง ที่ออกมาขอโทษนั้นถูกแล้ว เพราะความปั่นป่วนครั้งหลังสุด ไม่ได้มาจากพรรค แต่ข่าวว่ามาจากนายกฯ รื้อโผกลุ่มสามมิตร เตะสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ จาก รมว.พลังงานไปอุตสาหกรรม ถอดอนุชา นาคาศัย จาก รมช.คลัง แถมจะให้พรรคกำนันมานั่ง รมว.แรงงาน ทับโควตากลุ่มพลังชล
การออกมาขอโทษยิ่งน่าขัน เท่ากับยอมรับขัดแย้งกันจริง ซึ่งพรรคการเมืองปกติไม่ทำ บางพรรคกัดกัน แทบฉุดกระชากลากมวยผมจมธรณี ยังแถลงจูบปาก เคารพมติ มีวินัย
คาดว่าที่ร่อนสาร ก็เพราะต้องการแรงหนุน อ้างปฏิรูปการเมือง มาสยบกลุ่มสามมิตร ซึ่งก็แน่นอน เป็นนักการเมืองที่กองหนุนประยุทธ์มองว่า “ยี้” ภาพลักษณ์ไม่ดี เป็นอดีตไทยรักไทย เพื่อไทย หรือเสื้อแดง ที่โดนคดี พวกนี้ไม่ควรได้ตำแหน่งสำคัญ แม้นำ ส.ส.เข้ามา 30 กว่าคน
เออ แล้วไปดูดเขามาทำไม ทีแรกก็ตั้ง 4 คำถาม 6 คำถาม สมควรมีพรรคการเมืองใหม่ที่มีคุณภาพหรือไม่ ที่ไหนได้ พอตั้งพรรคก็ไปกวาดต้อนนักการเมืองเก่ามาล้นหลาม เกินครึ่งของ 8.4 ล้านเสียง ก็ได้จากคนเหล่านี้ทั้งนั้น ฐานเสียงคนดี มีสักเท่าไหร่กัน
แต่พอพวกนี้โหวตให้เป็นนายกฯ เสร็จสรรพ ก็กลับมาอ้างปฏิรูปการเมือง ไม่ยอมรับระบบโควตา แม้จำใจยอมพรรคร่วมรัฐบาล ก็กลับมากดกลุ่มสามมิตร เหนือ ใต้ กลาง อีสาน เอาทีมเดิมไว้ก่อน คนอื่นไว้ทีหลัง สามมิตรพลาดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า กระทั่งมีข่าวยัวะกลุ่ม กปปส.ได้ดีเกินโควตา
พอร่อนสารออกมา สามมิตรก็สวน ยืนกรานต้องได้ รมว.พลังงาน ต้องได้ รมช.คลัง แถมจะยื่นญัตติไล่ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ฐานเป็นภัยต่อความมั่นคงของพรรค จนสนธิรัตน์ออกมารับปาก ไม่ขอนั่ง รมว.พลังงาน
เอาน่า เชื่อลุงเหอะ ท้ายที่สุดสามมิตรคงต้องยอม แม้ต่อรองบ้าง แต่ใครจะกล้าหักรัฐบาล ใครจะกามิกาเซ่จนคว่ำ ใครจะอยากเลือกตั้งใหม่ กำก้อนดีกว่ากำลม เพียงต้องฮึดฮัด รักษาอำนาจต่อรอง
เอาไว้ยุบสภาค่อยว่าอีกครั้ง ระหว่างนี้ก็อยู่เหมือนพรรคร่วมรัฐบาลอีกก๊ก แต่เสียเปรียบกว่าใคร
นั่นคือความร้าวฉานที่ปฏิเสธไม่ได้ แม้คงไม่คว่ำ พ.ร.บ.งบประมาณ หรือโหวตไม่ไว้วางใจ แต่เมื่อไหร่รัฐบาลแย่ ก็ถีบเรือแป๊ะก่อน
นี่ไม่ต่างจากพรรคร่วมรัฐบาลอื่น ตอนนี้มีผลประโยชน์ร่วมกันก่อน เห็นท่าแย่เมื่อไหร่ก็ตัวใครตัวมัน ไม่มีใครกลัว และไม่มีใครยึดมั่นในตัวประยุทธ์ นอกจาก 250 ส.ว.
ตอนท้าย สารประยุทธ์ยังเข้าตัว เมื่อสำทับว่า อย่าให้การเมืองกลับไปเป็นปัญหาเช่นเดิม จนต้องเกิดการแก้ไขปัญหาแบบเดิม ๆ ที่ทุกคนไม่ต้องการขึ้นมาอีก ซึ่งฟังเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากขู่ว่าจะเกิดรัฐประหารอีก
รัฐประหารจากปัญหาในพรรคตัวเอง จากการจัดการของตัวเองนี่นะ ฝ่ายค้านดาหน้าถล่ม
คงเป็นไอเดียที่ผุดจาก DNA ย้อนยุคถนอมรัฐประหารตัวเอง แต่นี่โลกสมัยไหน อย่าว่าแต่ประยุทธ์รัฐประหารตัวเอง ไม่ว่าทหารคนไหนทำรัฐประหาร ก็พังเหมือนกัน
ไม่ใช่เพราะประชาชนต่อต้าน แต่เศรษฐกิจจะพังฉิบหายหมด เพราะมันสะท้อนภาวะอับจน รัฐประหาร 5 ปี กลับสู่เลือกตั้งไม่ได้ ต้องรัฐประหารใหม่ แสดงว่าประเทศนี้หมดหนทางไป