หุ้นเล็กมาแรง

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*อาการกวัดแกว่งไปมาของดัชนีตลอดทั้งวันทำให้รู้ว่า ผู้เล่นแกนหลักยังไม่กล้าเล่นสุดตัว และทำได้แค่การเคาะเปาะ ๆ แปะ ๆ ฆ่าเวลาไปพลาง ๆ ก่อนจะโหมลุยแบบสุดซอยอีกครั้งนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นสถานการณ์ที่สร้างความอึดอัดใจให้กับผู้เล่นเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้นักเล่นบางส่วนหนีไปลงทุนในหุ้นขนาดกลาง ขนาดเล็กกันเป็นจำนวนมากในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมาไงละคะ

*ประกอบกับในช่วงหลัง ๆ ไม่มีปัจจัยบวกจากภายนอกเข้ามาเร้าอารมณ์ ทำให้ตลาดหุ้นไทยตกอยู่ภายใต้อิทธิพลต่างประเทศอย่างเต็มตัวอีกครั้ง “โมนิก้า” ถึงไม่รู้สึกกังวลใจอะไรอีกต่อไป เพราะเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องยอมรับให้ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ว่า ได้เวลาที่หุ้นใหญ่ต้องพักเอาแรง เพื่อเตรียมตัวเดินทางรอบใหม่ จึงไม่มีความจำเป็นที่จะเร่งรัดให้สถานการณ์สุกงอมเร็วกว่ากำหนด

*วันนี้ถึงต้องตีความการแกว่งตัวของดัชนี ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 1,731.03 จุด ลบไป 0.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.73 หมื่นล้านบาท มีประเด็นอะไรที่ต้องคิดมากอีกหรือไม่ ? เพราะเป็นจุดที่ทำให้นักเล่นได้ตัดสินใจว่า ถึงเวลากระโจนใส่หุ้นเล็กอย่างเต็มตัวหรือยัง ? “โมนิก้า” จึงขอฝากประเด็นนี้ไปเป็นการบ้านให้นักเล่นลองไปคิดทบทวนดูสักหน่อย เพื่อจะได้มีเวลาเตรียมตัวบู๊เพิ่มขึ้นอีกนิดหนึ่งนะจ๊ะ

*ส่วนที่เปิดฉากลุยกันแหลกอย่างหุ้น PPPM กลายเป็นช็อตที่ทำให้นักเล่นตกตะลึงกันยกใหญ่ เพราะไม่มีใครคาดคิดว่า หุ้นจะทะยานขึ้นมาปิดที่ 2.90 บาท บวกไป 0.52 บาท หรือขึ้นไป 21.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 145 ล้านบาท แถมเป็นการขึ้นแท่นเบอร์ 1 ในกระดาน most gainer แบบไร้คู่แข่ง “โมนิก้า” ถึงมองการไล่ราคาคงไม่จบเพียงเท่านี้แน่ ๆ หลังเจ้ามือยังไม่ยอมปริปากถึงข่าวดีที่ทำให้หุ้นขึ้นแรงน่ะซี

*คล้ายกับกรณีของหุ้นเดินเรือ PRM พุ่งขึ้นพรวดพราดขึ้นมาปิดที่ระดับ 8.10 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 11% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 360 ล้านบาท “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นเรื่องที่ไม่ปกติอย่างแน่นอน เพราะข่าวลือที่คนวงในแอบซุบซิบนินทาให้ได้ยินเป็นระยะ เขาเม้าท์กันสนั่นลั่นทุ่งว่า ตอนนี้มีปัญหาหง่อง ๆ แหง่ง ๆ ทางธุรกิจกับกลุ่ม ปตท. ไม่ใช่เหรอ ! เดี๊ยนเลยสงสัยว่าหุ้นจะไปต่อยาว ๆ ได้จริงอ๊ะป่าว..

*ผิดกับในรายของหุ้นทวงหนี้ JMT มีสตอรี่ให้หุ้นวิ่งระเบิดเถิดเทิงยาวถึงสิ้นปี แถมได้ตัวเลขกำไรเป็นแบ็กอัพให้ทุกไตรมาส “โมนิก้า” ถึงไม่เคยตะขิดตะขวงใจการวิ่งขึ้นในแต่ละวัน รวมทั้งวานนี้ที่หุ้นขึ้นมาปิดบริเวณ 18.40 บาท บวกไป 1.20 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 260 ล้านบาท ก็ยังมีแก๊ปให้หุ้นวิ่งอีกบานตะไท เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นลองไปคำนวณเล่น ๆ กันว่า หุ้นที่โตทุกไตรมาส แวลูควรอยู่ที่เท่าไหร่เจ้าค่ะ

*อีกหนึ่งรายที่น่าจับตามองมากสุดในยามนี้ “โมนิก้า” ขอหันไปดูดาวเด่นธุรกิจโลจิสติกส์อย่าง JWD สักนิดหนึ่ง (เดี๋ยวจะหาว่ามีดีแล้วไม่บอก) และขอแสดงความยินดีกับนักเล่นที่มางานสัมมนาของหนังสือพิมพ์ “ข่าวหุ้น” ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนก่อน เพราะสาเหตุที่ทำให้หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 9.75 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 4.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 225 ล้านบาท มันมาจากข้อมูลที่สื่อสารให้นักเล่นได้รู้ว่า ธุรกิจกำลังไปได้สวยไงละคะ

*เช่นเดียวกับในรายของหุ้น DOD มีสตอรี่เกี่ยวกับกำไรในครึ่งปีหลังโตอย่างมีนัยสำคัญ แถมเป็นตัวเต็งในการผลิตน้ำมันกัญชาบริสุทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย (เครื่องมือทันสมัยสุด) “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับหันมาพิจารณาเป็นข้อมูลที่นำมาเล่าให้ฟังในครั้งนี้ว่า มันใช่มูลเหตุที่ทำให้หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 13.90 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 6.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 307 ล้านบาทหรือเปล่า ? หากคำตอบคือ “ใช่”..ราคาหุ้นไม่หยุดแค่นี้หรอกค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวสอดคล้องกับการทะยานขึ้นต่อเนื่องของหุ้น PLANB จนล่าสุดขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 8.20 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 3.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 408 ล้านบาท ล้วนมาจากพลังผนึกมากกว่าประเด็นไหน ๆ เพราะของมันเห็นกันอยู่แล้วว่า การได้เจ้าพ่อสื่อโฆษณาอย่าง “คีรี” เข้ามาร่วมถือหุ้น มันเป็นการอัพแวลูของธุรกิจไปในตัว หุ้นถึงมีโอกาสไปต่อยาว ๆ นะจะบอกให้

*คิดดูแล้วกัน!..ขนาดหุ้น JKN ภายใต้การกุมบังเหียนของ “เจ๊แอน” ยังพุ่งกระฉูดขึ้นมาปิดที่ระดับ 9.65 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 6.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 292 ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้เพิ่งขายหุ้นส่วนตัว พร้อมกับรับทรัพย์ก้อนโตเข้ากระเป๋า ราคาหุ้นกลับเหินทะยานเหมือนไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตเสี่ยงตายของเหล่านักเล่นที่ต้องตามไปวัดดวงกันเอง…อิอิอิ