ไม่หลุด 1,700 จุด

ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดตลาดร่วงลง 1 วัน และขึ้น 1 วัน สลับกันไปแบบนี้มาตลอด 7 วันทำการที่ผ่านมา


ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดตลาดร่วงลง 1 วัน และขึ้น 1 วัน สลับกันไปแบบนี้มาตลอด 7 วันทำการที่ผ่านมา

เมื่อวานนี้ช่วงเปิดตลาดภาคบ่ายที่ดัชนีขึ้นมาเริงร่าในแดนบวก (สวนทิศทางตลาดหุ้นเอเชีย) ก็พาลคาดคิดไปว่า จะต้องปิดบวกแน่ ๆ ไม่สลับขึ้น-ลงแล้วล่ะ

แต่พอปิดตลาดกลับปรับลงเล็กน้อย 0.20 จุด มาที่ 1,731.03 จุด มูลค่าการซื้อขาย 57,308 ล้านบาท

ถือว่าเป็นอีกวันที่วอลุ่มซื้อขายหนาแน่นพอสมควร

และหากดูจากกราฟหุ้น จะพบว่าดัชนีเคลื่อนไหว sideway ถึง sideway down

ทว่า นักวิเคราะห์ต่างยังคงเชื่อมั่นว่า ในช่วงนี้จะยังคงไม่เห็นหุ้นไทย “ปรับฐาน” แบบแรง ๆ

แม้ว่าจะมีปัจจัยลบเข้ามากระทบเล็กน้อย

โดยเฉพาะประเด็นเรื่องธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด อาจไม่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามการวิเคราะห์ของบรรดานักคาดการณ์ในแวดวงตลาดเงิน ตลาดทุน

ล่าสุด ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ออกมาค่อนข้างดี

แน่นอนว่าอาจจะกระทบกับการตัดสินใจของนักลงทุนต่างชาติหรือฟันด์โฟลว์บ้าง

แต่ก็ไม่น่าจะมากมายอะไร

ส่วนที่นักวิเคราะห์มองว่าไม่น่าจะปรับฐาน (แบบรุนแรง) ไม่ใช่ว่าจะไม่มีการปรับฐาน

คือ มันอาจจะเกิดขึ้นได้ หลังจากดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นมาร้อนแรงจากหุ้นขนาดใหญ่หลาย ๆ ตัวทั้งกลุ่มสื่อสาร ไฟฟ้า ปิโตรเคมี พลังงาน และธนาคาร

มีการเชื่อหรือมั่นใจว่า หุ้นเหล่านั้น น่าจะยังไม่ถูกขายทำกำไรออกมามากนัก

ขณะเดียวกัน อาจมีแรงเก็งกำไรเข้ามาด้วยในหุ้นขนาดกลาง และเล็ก ที่ยังปรับขึ้นมาไม่มากนัก

ส่วนหุ้นที่มีแนวโน้มว่าผลประกอบการไตรมาส 2/2562 จะออกมาดี

หุ้นเหล่านี้ต่างอยู่ในเป้าหมายการเก็งกำไรด้วย

เหตุผลเหล่านี้ ทำให้หุ้นไทยถูกมองว่า ไม่น่าจะเกิดการปรับฐานแบบรุนแรง

นั่นเพราะหากมีหุ้นที่อยู่ในเป้าหมาย และถูกสาด หรือขายทำกำไรออกมา ก็จะมีแรงเข้ามาช้อนซื้อทันที ซึ่งน่าจะช่วยประคองดัชนีตลาดหุ้นได้บ้างล่ะ

มีคำถาม เป็นเชิงความกังวลเกี่ยวกับหุ้น กลุ่มธนาคารพาณิชย์

เพราะหากดูจากกราฟกลุ่มแบงก์จะพบว่านับจากเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ดัชนีกลุ่มแบงก์ปรับลงมาตลอด

หรือเป็นแบบ sideway down แหละ

แม้ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน จะมีแรงเข้ามาซื้อเก็งกำไรจนดันดัชนีกลุ่มฯ ขึ้นมาได้บ้าง

แต่พอเข้าเดือนกรกฎาคม กลับมีแรงขายออกมา ท่ามกลางข่าว หรือข้อมูลของนักวิเคราะห์ที่เริ่มเปิดเผยออกมาว่า “กำไรไม่สวย” หรือภาพรวมอาจจะเติบโตติดลบเล็กน้อย 3-4%

ประเด็นนี้เชื่อว่า จะไม่เป็นเหตุให้หุ้นถูกขายจนกดดัชนีเช่นกัน

เพราะนักลงทุนต่างพอจะรับทราบกันมาตั้งแต่ช่วงแจ้งงบไตรมาส 1/2562 ออกมาแล้วว่า ไตรมาส 2 ยังคงไม่ดี

ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3 และ 4 อาจจะปรับตัวดีขึ้น และก็เชื่อว่า หากมีการขายหุ้นกลุ่มแบงก์ออกมา ก็น่าจะมีแรงซื้อเข้ามาหนุนไว้ โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ

เมื่อวานนี้ดัชนีที่ปิดเหนือ 1,730 จุด ได้ถือเป็นสัญญาณที่ดีของวันนี้ที่อาจพลิกเป็นบวกได้

แต่หากดัชนีปรับลงต่อจากวานนี้

ต่างเชื่อว่าดัชนีไม่น่าจะหลุด 1,700 จุด

Back to top button