สัญญาณลดอัตราดอกเบี้ย
จากรายงานการประชุมนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ เนื้อหาระบุว่า การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) วันที่ 18-19 มิ.ย.62 ที่ผ่านมา เฟดมีมติคงกรอบอัตราดอกเบี้ยนโยบายระดับ 2.25-2.50% แต่มีการส่งสัญญาณการผ่อนคลายนโยบายการเงินชัดเจน บ่งชี้ว่าการลดอัตราดอกเบี้ย มีความจำเป็นระยะอันใกล้
พลวัตปี 2019 : สุภชัย ปกป้อง
จากรายงานการประชุมนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ เนื้อหาระบุว่า การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) วันที่ 18-19 มิ.ย.62 ที่ผ่านมา เฟดมีมติคงกรอบอัตราดอกเบี้ยนโยบายระดับ 2.25-2.50% แต่มีการส่งสัญญาณการผ่อนคลายนโยบายการเงินชัดเจน บ่งชี้ว่าการลดอัตราดอกเบี้ย มีความจำเป็นระยะอันใกล้
มุมมองแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ คณะกรรมการประเมินว่า การบริโภคมีแนวโน้มขยายตัวดี และภาคการจ้างงานยังแข็งแกร่ง แต่ที่ประชุมแสดงความกังวลต่อการชะลอลงของการลงทุนภาคธุรกิจอย่างมาก เป็นผลมาจากผู้ประกอบการมองว่าความไม่แน่นอนของแนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังยืดเยื้อต่อไป
ที่สำคัญกรรมการเฟดหลายคน เห็นสัญญาณการหยุดใช้จ่ายการลงทุนและชะลอการจ้างงานเพิ่มเติมจากผลของนโยบายการค้าที่จะกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน
ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อ กรรมการเฟด ประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อทรงตัวอยู่ระดับต่ำ จากทั้งความเสี่ยง ที่ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ในประเทศและจากแรงกดดันด้านราคาที่ลดลงทั่วโลก เจ้าหน้าที่เฟดแสดงความกังวลว่า การคาดการณ์เงินเฟ้ออาจปรับลดลงต่อเนื่อง ทำให้การดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน เพื่อสนับสนุนให้เงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย 2% ทำได้ยากขึ้น
ส่วนการตัดสินนโยบายการเงิน กรรมการเฟดหลายคนประเมินว่า การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากระดับปัจจุบันมีความจำเป็นมากขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มรับผลกระทบมาจากความเสี่ยงเศรษฐกิจโลก
ประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อยังต่ำกว่าเป้าหมายระดับ 2% แต่มีกรรมการบางรายที่สนับสนุนให้รอประเมินการชะลอลงของเศรษฐกิจก่อน
ขณะที่ถ้อยแถลงของ “เจอโรม พาวเวลล์” ประธานเฟดต่อสภาคองเกรส เมื่อวันที่ 10 ก.ค.62 สอดรับกับรายงานการประชุมที่แสดงสัญญาณชัดเจนต่อแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จากความเสี่ยงจากปัจจัยต่างประเทศสูงขึ้น บ่งชี้ว่า ภาคอุตสาหกรรม การค้าและการลงทุนอ่อนแอลงทั่วโลก
“พาวเวลล์” ระบุว่า “การจ้างงานที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดนั้นถือเป็นข่าวดี แต่ไม่มากพอที่จะรักษาสมดุลของเศรษฐกิจได้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อไม่สามารถเร่งขึ้นได้เร็วพอ”
“เจมส์ บูลลาร์ด” ประธานธนาคารกลางสหรัฐ สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยวอชิงตัน โดยเรียกร้องให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยเฟด ควรจะกังวลถึงอัตราเงินเฟ้อ ที่คงอยู่ระดับต่ำกว่าเป้าหมาย 2% และเฟดจำเป็นต้องผลักดันให้การคาดการณ์เงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้น
ความไม่แน่นอนด้านการค้ากำลังส่งผลให้การเติบโตเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯด้วย สิ่งที่เฟดควรทำคือการดำเนินการบางอย่าง เพื่อรับมือกับเศรษฐกิจที่อาจซบเซามากกว่าที่คาดการณ์ไว้
จากมติคณะกรรมการเฟดล่าสุด 9 ต่อ 1 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ย โดย “บูลลาร์ด” เป็นกรรมการเฟดเพียงคนเดียวที่ลงมติให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
การประชุมวันที่ 31 ก.ค.62 มีแนวโน้มคณะกรรมการเฟดมีมติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างแน่นอนและประเมินความเป็นไปได้ว่าปีนี้ เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2-3 ครั้ง