สังคมข่าวหุ้น
*ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่แนวต้าน 1,740 จุดพอดี มีนักวิเคราะห์เริ่มออกมาเตือนว่าตอนนี้พี/อี 18-19 เท่า ถือว่าสูงพอสมควร และยิ่งเมื่อไปเทียบกับคาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียน หรือ บจ. ในปีนี้ว่าจะเติบโต 7/8% ก็ยิ่งไปกันใหญ่ ทำให้นักวิเคราะห์แนะนำเลือกหุ้นเป็นรายตัว ราคายังแลกการ์ดจริง ๆ ไม่ใช่ไปไล่ตามหุ้นที่ราคาวิ่งขึ้นมาสูงแล้ว ไม่เช่นนั้น ค้างเติ่งอยู่บนดอยแน่นอน เดี๋ยวจะว่าไม่เตือน
คาเฟอีน
* ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่แนวต้าน 1,740 จุดพอดี มีนักวิเคราะห์เริ่มออกมาเตือนว่าตอนนี้พี/อี 18-19 เท่า ถือว่าสูงพอสมควร และยิ่งเมื่อไปเทียบกับคาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียน หรือ บจ. ในปีนี้ว่าจะเติบโต 7/8% ก็ยิ่งไปกันใหญ่ ทำให้นักวิเคราะห์แนะนำเลือกหุ้นเป็นรายตัว ราคายังแลกการ์ดจริง ๆ ไม่ใช่ไปไล่ตามหุ้นที่ราคาวิ่งขึ้นมาสูงแล้ว ไม่เช่นนั้น ค้างเติ่งอยู่บนดอยแน่นอน เดี๋ยวจะว่าไม่เตือน
* TRUE : บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ช่วง 2 วันทำการราคาหุ้นพุ่งขึ้นมา 10-11% เป็นผลจากข่าวการเซ็นสัญญากับกทม. โครงการท่อร้อยสายเคเบิลใต้ดิน แต่ต้องระวังกันด้วย เพราะประเด็นดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการเจรจา ส่วนในเชิงพื้นฐาน ทางบล.กสิกรไทย ยังแนะนำ “ซื้อ” TRUE ราคาเป้าหมาย 7.77 บาท จากการแข่งขันที่ลดลง และการยืดชำระค่าคลื่น 900 MHz ช่วยหนุนกระแสเงินสดเป็นบวก ส่วนราคาหุ้นวานนี้ปิด 6.15 บาท
* ทิสโก้ฯ TISCO แจ้งผลประกอบการไตรมาส 2/2562 ออกมาแล้ว มีกำไรสุทธิ 1.79 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาส 2/2561 ถือว่าเป็นไปตามคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ที่ต่างคาดกำไรไว้ระหว่าง 1.77-1.80 พันล้านบาท แต่ประเด็นที่น่าสนใจคือ อัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ที่ 23.4% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำ 11.0% ที่กำหนดโดยธปท. โดยมีอัตราเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 18.5% และ 5.0% ส่วน Coverage ratio อยู่ที่ 146.7% ส่วนเมื่อวานนี้ ราคาปิด 95.00 บาท และมี IAA Consensus Target Price เท่ากับ 98.00 บาท
*นักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิต่ออีก อย่างเมื่อวานนี้ซื้อเพิ่ม 1,293 ล้านบาท ส่วนสถาบันก็ซื้อเช่นกัน 2,651 ล้านบาท ส่งผลให้ต่างชาติซื้อหุ้นไทยนับจากต้นปีมาถึง 10 ก.ค. แล้วกว่า 56,561 ล้านบาท ขณะที่ บล.ทิสโก้ คาดว่า เมื่อถึงสิ้นปี ต่างชาติน่าจะซื้อสุทธิมากกว่า 1 แสนล้านบาท แต่มีปุจฉาว่า ต่างชาติเขาซื้อหุ้นตัวไหนกลุ่มไหนกันนะ ที่ดูแล้วราคายังน่าจะซื้อได้ ขณะที่นักวิเคราะห์หลายคนเริ่มออกมาบอกว่า หุ้นไทยแพงแล้ว พี/อีสูงปรี๊ด ดูแล้วสวนทางยังไงชอบกล
* TQM : บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) วันก่อนหน้านี้มีบิ๊กล็อตจากกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ให้กับกองทุนต่าง ๆ จำนวน 25 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 40.00 บาท ต่ำกว่าราคากระดาน แต่เมื่อวานนี้ราคาเปิดมา ร่วงลงทันทีมาที่ 44.25 บาท แต่มีแรงซื้อเข้ามาจำนวนมาก ทำให้ราคาดีดกลับได้ แต่ราคาปิดยังลดลงจากวันก่อนหน้า 1.00 บาท มาที่ 44.7 บาท สะท้อนให้เห็นว่า ความต้องการหุ้นตัวนี้ยังมีอยู่สูงมาก และส่วนใหญ่ซื้อไปถือไว้ ไม่ค่อยจะขายออกมามากนัก เพราะหวั่นว่าจะต้องไปไล่ซื้อกลับในราคาสูงกว่าที่เคยขาย
* เรื่องของหุ้น BEM ต้องลุ้นกันต่อไปว่าจะออกมาอย่างไร ระหว่างจ่ายเป็นเงินให้กับ BEM หรือจะให้ยืดสัมปทาน แต่ที่แน่ ๆ คือ รัฐบาลจะต้องดำเนินการตามคำสั่งศาล ในการชดใช้ค่าเสียหายให้กับ BEM ไม่ว่าจะเป็นรูปของตัวเงิน หรือวิธีการอันใด รัฐจะบิดพริ้ว อ้างโน่น นี่ นั่น ไม่ได้ ขณะที่หุ้น BEM วานนี้ ยังคงร่วงอีก 0.20 บาท ปิดที่ 11.00 บาท และหากราคาลงมาต่ำกว่า 11 บาทเมื่อไหร่ น่าจะเสียศูนย์พอสมควร หลังจากก่อนหน้านี้ เพิ่งจะขึ้นไปทำนิวไฮ 12.00 บาท
* ล่าสุดกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ออกรายงานภาวะตลาดน้ำมันประจำเดือน ก.ค. ระบุว่า อุปสงค์น้ำมันจะลดลงในปีหน้า ขณะที่สหรัฐฯ จะผลิตน้ำมันมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เกิดภาวะน้ำมันล้นตลาด แม้ว่าโอเปกและพันธมิตรปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันก็ตาม ฟังแบบนี้แล้ว ใครมีหุ้น “พี่ปอ” PTT ในพอร์ต คงมือไม้สั่นไปหมด โอกาสจะกลับขึ้นไปที่ 50.00 บาท ริบหรี่ลงไปอีก