Libra กับแรงคลื่นโต้กลับ.!

พลวัตปี 2019 : สุภชัย ปกป้อง

จากกรณี Facebook ประกาศเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลใหม่ที่ชื่อ Libra (ลิบรา) ถือว่าสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อวงการการเงินโลก จนเกิดปรากฏการณ์โต้กลับหลากหลายแง่มุมทั้ง“เห็นด้วย-ท้วงติง-ปฏิเสธ”สกุลเงินใหม่นี้ ด้วยเหตุและผลที่แตกต่างกันไป เปรียบดั่งเหรียญ 2 ด้าน

ด้านแรกคือ“ด้านบวก”โดย Garrick Hileman หัวหน้าฝ่ายวิจัย Blockchain.com มองว่า เป็นจุดหมายสำคัญ เมื่อมีองค์กรขนาดใหญ่ที่มีผู้ใช้งานหลัก 1,000 คน ประกาศว่ากำลังจะใช้บล็อกเชนและคริปโตเคอร์เรนซี ถือเป็นเรื่องดีที่สถาบันหรือองค์กรขนาดใหญ่หลายองค์กร ให้ความสนใจและต้องการเข้าร่วมในการผลักดันเทคโนโลยีนี้ให้ก้าวไปข้างหน้า

เช่นเดียวกับหน่วยงานวิจัยเว็บเทรดชื่อดังอย่าง Binance Research ให้ความเห็นว่า Libra จะส่งผลทำให้ปริมาณการเทรดเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากผู้คนทั่วไป รวมถึงสถาบันต่างๆสามารถเข้าถึงคริปโตง่ายขึ้น

อีกด้านคือ“ด้านลบ”มีเสียงคัดค้านต่อต้านไม่เห็นด้วย จากอีกฝั่งที่อยู่ตรงข้ามเรื่องนี้ ที่หลายฝ่ายพร้อมใจกันถาโถมโยนเข้าใส่ Facebook และ ​Mark Zuckerberg อย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น Ran NeuNer พิธีกรรายการ Crypto Trader จากช่อง CNBC แสดงความเห็นว่า“โครงการนี้อาจเป็นภัยคุกคามที่น่ากลัวและเป็นอันตรายต่อโลก”และถึงกับเรียก CEO ของ Facebook ว่า“เป็นจอมเผด็จการ”

ส่วนผู้เชี่ยวชาญด้าน Bitcoin อย่าง Andreas Antonopoulos ผู้เขียนหนังสือ Mastering Bitcoin ที่ตั้งข้อสงสัยว่า “Blockchain ของ Libra จะมีความ real แค่ไหนกัน..?” 

ขณะที่ Nouriel Roubini นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังผู้สนใจในเทคโนโลยี Blockchain ออกมาแสดงความคิดเห็นที่ค่อนข้างตรงและรุนแรงว่า “โปรเจกต์นี้ไม่ได้มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Blockchain เลยแม้แต่น้อยเป็นเพียงการนำเอาชื่อเทคโนโลยี Blockchain ไปใช้และเป็นแค่การขายฝันเท่านั้น”

Mark Carney ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ ได้เรียกร้องให้มีการตรวจสอบและจับตากิจกรรมที่ Facebook จะดำเนินการต่อจากนี้อย่างใกล้ชิด รวมถึงส่งสัญญาณไปที่หน่วยงานด้านการเงินต่าง ๆ อย่าง G7, BIS, FSB และ IMF ให้ศึกษาโครงการนี้อย่างละเอียดรอบคอบ

Bruno Le Maire รัฐมนตรีเศรษฐกิจของฝรั่งเศส ออกเตือนว่า Libra ยังไม่มีทางได้เป็นสกุลเงินของประเทศ ตราบใดที่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ ตรวจสอบจากทางภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างรัดกุมเสียก่อน

ส่วน“วิรไท สันติประภพ”ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ระบุว่า มีความกังวลเกี่ยวกับกับ Libra หลาย ๆ เรื่อง เช่นการพิสูจน์ตัวตน เรื่องการฟอกเงิน การแยก Wallet ของผู้ใช้งาน ออกจากเงินของบริษัทเอง รวมถึงความไว้ใจ เพราะเกี่ยวข้องกับเงินประชาชน ต้องติดตามใกล้ชิด เพราะหลายๆ อย่างไม่ชัดเจน

ส่วนเรื่องที่ว่าสกุลเงิน Libra จะเข้ามาทดแทนสกุลเงินท้องถิ่นหรือไม่นั้น หากสกุลเงินท้องถิ่นประชาชนไม่ให้ความไว้ใจแล้ว เช่น สกุลเงินนั้นมีความผันผวนสูงมาก สกุลเงินดิจิทัล Libra ย่อมได้รับความนิยมมากกว่า แต่หากเป็นสกุลเงินท้องถิ่นนั้นๆที่ประชาชนไว้ใจอยู่แล้ว Libra ไม่สามารถทดแทนได้

นี่อาจเป็นเพียงส่วนหนึ่งของ“แรงคลื่นโต้กลับ”สกุลเงิน Libra เท่านั้น..แต่สะท้อนให้เห็นว่า Libra ต้องเผชิญความท้าทายจากการตรวจสอบที่เข้มงวดจากภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั่วโลก ส่วน Libra จะข้ามผ่านไปสู่ฝั่งฝันได้หรือไม่..ต้องรอวันพิสูจน์กันต่อไป..!!??