จริงหรือหลอก ?
*ดูเหมือนเสียงก่นด่าในการทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตลาดหุ้นจะดังระงมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะในตลาดหุ้นเกิดข่าวลือมากมายหลายเรื่อง แถมคำตอบที่ได้รับก็ออกลูกแทงกั๊กเป็นส่วนใหญ่ “โมนิก้า” ถึงมีอาการงง ๆ กับสถานการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นในเวลานี้ จนต้องให้ผู้รู้บางท่านช่วยขยายความอีกทีหนึ่งนั้น มันทำให้โลกของการลงทุนเที่ยวนี้อยู่ยากขึ้นเรื่อย ๆ นะจะบอกให้
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ดูเหมือนเสียงก่นด่าในการทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตลาดหุ้นจะดังระงมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะในตลาดหุ้นเกิดข่าวลือมากมายหลายเรื่อง แถมคำตอบที่ได้รับก็ออกลูกแทงกั๊กเป็นส่วนใหญ่ “โมนิก้า” ถึงมีอาการงง ๆ กับสถานการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นในเวลานี้ จนต้องให้ผู้รู้บางท่านช่วยขยายความอีกทีหนึ่งนั้น มันทำให้โลกของการลงทุนเที่ยวนี้อยู่ยากขึ้นเรื่อย ๆ นะจะบอกให้
*สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นน่าจะมาจากบรรดาผู้มีอำนาจชอบเล่นลิ้นเป็นประจำ (สงครามการค้าคือตัวอย่างที่ดี) จนทำให้นักเล่นมีอาการชักเข้าชักออกตลอดเวลา เพราะไม่แน่ใจว่าเรื่องไหนคือเรื่องจริง ? และเรื่องไหนเป็นการโยนหินถามทาง ? “จริงหรือหลอก” ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตีความของผู้เล่นแต่ละกลุ่มจะออกมาเป็นแบบไหน ? เดี๊ยนถึงไม่ค่อยวอร์รี่กับเรื่องที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้สักเท่าไหร่นะจ๊ะ
*เนื่องจากเห็นกันอยู่แล้วว่า ดัชนีต้องผ่านการย่ำฐานสักระยะหนึ่งเสียก่อน ต่อจากนั้นถึงจะเดินหน้าได้อย่างสบายใจเฉิบ ผนวกกับดัชนียังคงวนเวียนอยู่ในกรอบเดิม “โมนิก้า” ถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 1,725.44 จุด บวกไป 0.57 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.28 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นการรอจังหวะเทกตัวขึ้นแบบสวย ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องเรียนรู้เกมชักเย่อระหว่างนักเล่นกลุ่มต่าง ๆ ไงล่ะคะ
*เหมือนกับในรายของ JASIF โดนถล่มเทขายไม่หยุดหย่อน จนสุดท้ายลงมายืนปิดที่ 10.90 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 3.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 851 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมขายบนเพื่อย้อนกลับมารับล่าง เพราะของมันแบเบอร์กันมาตั้งแต่ต้น ว่าหุ้นวิ่งรับข่าวแล้วเลิก ! ยิ่งมองในมุมของการปันผลร้อยละ 7 ก็ไม่มีเหตุที่จะทำให้หุ้นไหลลงไปต่ำกว่า 10 บาทอย่างแน่นอน (ผู้รู้เขาว่าอย่างนั้น) เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นไปตรองดูว่า จริงปะ !
*เช่นเดียวกับสถานการณ์ของพ่อดอกมะลิตัวดี JAS ถูกรินขายหุ้นออกมาตลอดเวลาจนโงหัวไม่ขึ้น ล้วนมาจากความไม่ชัดเจนเรื่อง “ขาย” หรือ “ไม่ขาย” กันแน่ ! เลยทำให้นักเล่นพากันขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงกันเป็นแถวนั้น “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่เข้าใจได้เป็นอย่างดี และไม่ต้องอธิบายการร่วงหล่นลงมาปิดที่ 6.25 บาท ลบไป 0.05 บาท หรือลงไป 0.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.57 พันล้านบาทให้เสียเวลานะตัวเอง
*คล้ายกับหุ้นร้อน GL มีอาการผลุบ ๆ โผล่ ๆ ก็มาจากโอกาสทางธุรกิจที่มืดแปดด้าน ครั้นจะขยับตัวทำอะไรสักอย่าง ก็ถูกสังคมตั้งคำถามเยอะแยะไปหมด “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่หุ้นขยับขึ้นไปไหนไม่ได้สักที ผนวกกับช่วงหลังหุ้นมีอาการ “ขึ้นแรง ลงเร็ว” เป็นประจำ วานนี้ถึงเห็นหุ้นลงมานอนกองอยู่ที่ระดับ 6.95 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 3.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 138 ล้านบาท แบบนี้ วิกฤตศรัทธาล้วน ๆ เจ้าค่ะ
*เม้าท์ถึงเรื่องความเชื่อมั่นขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงต้องมองไปที่หุ้น TKN เพื่อฉายให้เห็นภาพวงเวียนการเคลื่อนตัวในรูปแบบเดิม ๆ พร้อมกับเชื่อมโยงตัวเลขกำไรในครึ่งหลังปี 2562 จะออกมาปังสุด ๆ น่าจะเป็นเกมที่นักเล่นต้องเข้าใจนิดหนึ่งว่า 2 หนก่อนก็มาอีหรอบนี้ เดี๊ยนถึงไม่แน่ใจว่า การขึ้นมาปิดที่ 11.10 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 9.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 991 ล้านบาท เป็นของจริง ? เพราะครั้งก่อนก็จอดป้ายแถวบริเวณ 11.50 บาท นะนายจ๋า !
*ส่วนรายที่เผลอแป๊บเดียวกลับขึ้นมาอีกแล้วอย่าง CHG กลายเป็นหุ้นที่ต้องทำความเข้าใจมากเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของ P/E 40 เท่า และการเติบโตของกำไรทำได้จริงไหม ? หรือแม้กระทั่งวอลุ่มที่หนาแน่นผิดปกติ จนเป็นเหตุให้หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.32 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 1.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 155 ล้านบาท มันเป็นเรื่องที่เดี๊ยนไม่สามารถอธิบายได้เลยจริง ๆ งานนี้ถึงต้องรบกวนผู้รู้ออกมาเล่าให้ฟังหน่อยจ้า !
*ผิดกับในรายของ TIPCO มีผู้รู้มากมายหลายสำนักออกมาคอนเฟิร์มตัวเลขกำไรปังชัวร์ ราคาหุ้นถึงเปิดกระโดดตั้งแต่หัววัน พร้อมกับวิ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 12.80 บาท แต่หลังจากนั้นอ่อนตัวลงมาเรื่อย ๆ จนสุดท้ายยืนปิดที่ระดับ 12.10 บาท บวกไป 2.10 บาท หรือขึ้นไป 21% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 675 ล้านบาท “โมนิก้า” คงพูดได้แค่ว่า เกมนี้ต้องดูกันยาว ๆ อย่าเพิ่งด่วนสรุปอะไรทั้งสิ้น ยกเว้นพวกขาลุย..ช็อตนี้ต้องใส่กันต่อนะคะ
*เหมือนกับหุ้นเดินเรือ PRM เคาะขวากันอย่างสนุกสนาน จนหุ้นไต่เพดานบินขึ้นมานานนับสัปดาห์ ก่อนจะปิดราคาไปที่ 9.40 บาท บวกไป 0.55 บาท หรือขึ้นไป 6.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 368 ล้านบาท เท่ากับเป็นการสยบข่าวเม้าท์เสีย ๆ หาย ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจแบบนี้ มันเป็นสถานการณ์ที่ทำให้เชื่อว่า หุ้นจะวิ่งกลับขึ้นไปหาฐานเก่าบริเวณ 10 บาทอีกครั้ง ซึ่งเป็นป้อมปราการสำคัญในการพักตัวเพื่อไปต่อในอนาคตเจ้าค่ะ