พอร์ตพินัยกรรม เจริญ สิริวัฒนภักดี

สำนักข่าวรัชดา

จากพอร์ตสินทรัพย์ “เจริญ สิริวัฒนภักดี” และ “คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี” ที่มีกว่า 1 ล้านล้านบาท ถูกจับตาว่าสินทรัพย์เหล่านี้จะถูกแบ่งสันปันส่วนให้เป็น “พอร์ตพินัยกรรม” เพื่อทายาททั้ง 5 คนอย่างไร.! ยิ่งช่วงนี้เกิดการเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจ “กลุ่มเสี่ยเจริญ” ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่า..นี่คือการปรับ “พอร์ตพินัยกรรม” นั่นเอง..!!

เริ่มจากลูกสาวคนโต “อาทินันท์ พีชานนท์” ดูแลกลุ่มธุรกิจประกันและการเงิน มูลค่าสินทรัพย์รวมประมาณ 87,000 ล้านบาท ภายใต้ “กลุ่มเครือไทยโฮลดิ้งส์” ที่มีทั้งบริษัท อาคเนย์ประกันชีวิต จำกัด, บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด, บริษัท อาคเนย์แคปปิตอล จำกัด เป็นต้น

ส่วนลูกสาวคนที่ 2 “วัลลภา  ไตรโสรัส” ดูแลกลุ่มโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ มูลค่าสินทรัพย์รวมประมาณ 92,000 ล้านบาท ภายใต้ “กลุ่มแอสเสท เวิรด์” ในนามบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC สินทรัพย์ส่วนใหญ่ เป็นธุรกิจโรงแรม อสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ ศูนย์การค้าต่าง ๆ ที่อยู่ระหว่างการเสนอขายหุ้นไอพีโอ 6,957 ล้านหุ้น และเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เร็ว ๆ นี้

ขณะที่ลูกชายคนแรก “ฐาปน สิริวัฒนภักดี” ดูแลกลุ่มเครื่องดื่มครบวงจร มูลค่าสินทรัพย์รวมประมาณ 400,000 ล้านบาท ในนามบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) มีธุรกิจเครื่องดื่มครบวงจรทั้งแอลกอฮอล์และนอนแอลกอฮอล์ ถือเป็นกลุ่มที่มีมูลค่าสินทรัพย์มากสุดของ “เจ้าสัวเจริญ” เลยทีเดียว

ส่วนลูกสาวคนที่ 3 “ฐาปณี เตชะเจริญวิกุล” ดูแลกลุ่มธุรกิจค้าปลีก-สินค้า มูลค่าสินทรัพย์รวมประมาณ 32,000 ล้านบาท ในนามบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC ที่ถือเป็นยักษ์ใหญ่สินค้าอุปโภคบริโภคแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ รวมถึงธุรกิจค้าปลีกอย่างบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) อีกด้วย

ปิดท้ายลูกชายคนสุดท้อง “ปณต สิริวัฒนภักดี” ดูแลกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มูลค่าสินทรัพย์รวมประมาณ 47,000 ล้านบาท ในนามบริษัท เฟรเซอร์ส พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ FPT มีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสานครบวงจร ทั้งอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เพื่อการพาณิชย์และอยู่อาศัย

หนึ่งในนั้นคือบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ GOLD ที่อยู่ระหว่างการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์และถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ต่อไป

นี่ถือเป็นการจัดวาง “พินัยกรรมทางสินทรัพย์” ไว้อย่างค่อนข้างลงตัว แม้ตัวเลขมูลค่าสินทรัพย์อาจไม่เท่ากันทุกคนเลยซะทีเดียว..แต่นี่อาจเป็น “กุศโลบาย” การสร้างโจทย์ให้ทายาททั้ง 5 ต้องไขว่คว้าหาโอกาสสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยตัวเองก็เป็นได้..!!!

…อิ อิ อิ…