ไซด์เวย์ร่วมเดือน

*วานนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ได้เห็นคำอธิบายการขึ้นลงของดัชนีดาวน์โจนส์ที่เริ่มออกอาการตื้อ ๆ ตัน ๆ ล้วนเป็นผลมาจากผลงานไม่เป็นเหมือนที่ประเมินไว้ ส่งผลให้ผู้เล่นสำนักต่าง ๆ พากันเทขายหุ้นเพื่อปิดความเสี่ยง ผนวกกับตัวเลขเศรษฐกิจก็ไม่ดีเหมือนที่พยายามประโคมข่าว ทำให้โอกาสที่ดัชนีจะไต่เพดานสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ กลายเป็นเรื่องที่ยากพอ ๆ กับการ “เข็นครกขึ้นภูเขา” นะตัวเอง


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*วานนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ได้เห็นคำอธิบายการขึ้นลงของดัชนีดาวน์โจนส์ที่เริ่มออกอาการตื้อ ๆ ตัน ๆ ล้วนเป็นผลมาจากผลงานไม่เป็นเหมือนที่ประเมินไว้ ส่งผลให้ผู้เล่นสำนักต่าง ๆ พากันเทขายหุ้นเพื่อปิดความเสี่ยง ผนวกกับตัวเลขเศรษฐกิจก็ไม่ดีเหมือนที่พยายามประโคมข่าว ทำให้โอกาสที่ดัชนีจะไต่เพดานสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ กลายเป็นเรื่องที่ยากพอ ๆ กับการ “เข็นครกขึ้นภูเขา” นะตัวเอง

*ประเด็นดังกล่าวเชื่อมโยงกับการแกว่งตัวของตลาดหุ้นไทยแบบเต็ม ๆ เพราะหลังจากประกาศงบแบงก์ออกมาอย่างเป็นทางการ กลับไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่สักเท่าไหร่ ! “โมนิก้า” ถึงมองโอกาสที่ดัชนีจะวิ่งขึ้นไปสร้างฐานแนวรับเหนือบริเวณ 1,750 จุด น่าจะเต็มไปด้วยความลำบาก แถมแนวต้านย่อยของแต่ละวันจะซอยถี่ขึ้นทุกระดับแบบนี้ บอกได้ทันทีว่าเหนื่อยแน่นอนเจ้าค่ะ

*ข้อมูลดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” จำเป็นต้องยิงคำถามกับแฟนคลับว่า การแกว่งตัวไปมาในกรอบ 1,700-1,750 จุด เป็นเวลานานร่วมเดือน ล้วนมาจากประเด็นที่เดี๊ยนได้เกริ่นนำไว้ตั้งแต่ทีแรกหรือเปล่า ? และเมื่อหันมามองการเคลื่อนตัวไปมาของดัชนีตลอดทั้งวัน ก่อนจะมาปิดที่บริเวณ 1,730.90 จุด บวกไป 5.46 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.89 หมื่นล้านบาท ย่อมทำให้เชื่อว่า การเคาะหุ้นต่อจากนี้คงไม่ง่ายเหมือนเดิมนะจ๊ะ

*ส่วนรายที่แกว่งตัวออกด้านข้างสักพัก ต่อจากนั้นขยับขึ้นเป็นทางการอย่าง GULF ถือเป็นช็อตที่ทำให้นักเล่นเกิดอาการตื่นตัวอีกหนแบบนี้ “โมนิก้า” คงแนะนำได้เพียงแค่การบอกให้รู้ว่า follow buy น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสุดในเวลานี้ เพราะเมื่อดูจากองค์ประกอบต่าง ๆ แวลูของหุ้นจะสูงขึ้นกว่านี้เรื่อย ๆ และการที่หุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 130.00 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 2.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.79 พันล้านบาท มันหมายความว่า ได้เวลาขึ้นรอบใหม่นะจ๊ะ

*อีกรายที่มีทรงคล้ายกันเหลือเกิน และทุกครั้งที่เห็นรายแรกขยับขึ้นแรง มักเห็นหุ้น GPSC มีลักษณะไล่ตามก้นมาเป็นประจำ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่นักโหนกระแสไม่ควรมองข้าม และถ้ามองจากการกระชากขึ้นแรงเป็นวันแรก “โมนิก้า” ย่อมถือเป็นช็อตของการไหลตามน้ำแบบมัน ๆ จึงอยากให้พวกขาลุยประเมินราคาปิดที่ 70.75 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 2.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.80 พันล้านบาท ใช่ช็อตเด็ดของการเคาะขวาหรือเปล่า ?

*สำหรับหุ้นไฟฟ้าอีกตัวที่น่ามองสุด ๆ ในเที่ยวนี้ต้องยกให้ BCPG มีสตอรี่เกี่ยวกับการเติบโตอัดแน่นทุกอณู บวกกับแรงซื้อเริ่มไหลกลับเข้ามาใหม่ ผสานกับการเคาะขวารัว ๆ จนทำให้ค่า P/E ขึ้นมาอยู่ในระดับ 16 เท่า ก็ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับการเล่นเที่ยวนี้ เพราะของมันเคยเห็นกันมาแล้วว่า เวลาให้แวลูหุ้นที่มี growth เขาเทรดกันขึ้นไปในระดับ 20 เท่า เดี๊ยนถึงมองราคาปิดที่ 19.80 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 5.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 862 ล้านบาท ไม่ใช่ปัญหานะคะ

*ทางด้านคนที่ชอบหุ้นลักษณะ “ช้าแต่ชัวร์” ต้องหันมามอง BGRIM เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนระยะกลางถึงยาว แถมเมื่อมองดูจากโครงการในมือที่มีเป็นจำนวนมาก (ยังเปิดเผยไม่ได้) น่าจะเห็นกันว่า ราคาปิดที่ 36.25 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 2.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 415 ล้านบาท ยังมีแก๊ปให้หุ้นวิ่งขึ้นได้อีกเยอะพอสมควร งานนี้แฟนคลับจะ “ลุย” หรือ “ไม่ลุย” ก็อยู่ที่มือท่านแล้วนะจ๊ะ

*พักจากหุ้นไฟฟ้าสักนิดดีกว่า แล้วหันมาดูหุ้นบันเทิงเริงรำอย่าง WORK เพื่อเป็นการสลับอารมณ์สักเล็กน้อย หลังเห็นหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 30 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 5.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 352 ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทำท่าหงอย ๆ เหมือนไปไหนไม่เป็น จู่ ๆ กลับวิ่งพรวดพราดแบบนี้ คงต้องเคาะขวาเพื่อตามไปดูสักนิดหนึ่ง เพราะเที่ยวก่อนโดนน็อกแถวบริเวณ 32 บาท เที่ยวนี้จะแก้มือได้สำเร็จไหม ? โปรดติดตามกันให้ดีจ้า !

*เช่นเดียวกับในรายของหุ้นขายน้ำ TTW กระชากขึ้นมาปิดที่ระดับ 13.80 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 122 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตเก่าเอามาเล่นใหม่ เพราะเที่ยวก่อนเพิ่งดันหุ้นขึ้นไปถึง 14.50 บาท ต่อจากนั้นกดลงมากองแถว 13.20 บาท เดี๊ยนถึงไม่แน่ใจการทะยานขึ้นเที่ยวนี้มีอะไรเป็นตัวไดรฟ์ราคาหุ้น จึงต้องให้พวก “มือไว ใจกล้า” ลุยถั่วกันเอาเองเจ้าค่ะ

*เม้าท์ถึงตรงนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงต้องหันกลับไปมองหุ้นฟอร์มสดอย่าง TACC เพื่อทำให้ทุกคนเห็นการเคลื่อนตัว “ขึ้นแล้วพัก พักแล้วขึ้น” เป็นเวลานานถึง 5 เดือนเต็ม ๆ ย่อมมีความคาดหวังเรื่องงบไตรมาส 2 จะออกมาดีแฝงไว้ด้วยอย่างแน่นอน วันนี้ถึงไม่ต้องถามหาเหตุผลที่เห็นหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 5.15 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 5.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 147 ล้านบาท เพราะทุกคนรู้กันดีว่า สองสามเดือนที่ผ่านมาเป็นช่วงพีกของการขายน้ำนะจ๊ะ

Back to top button