RJH แนวโน้มสดใสต่อเนื่อง

คุณค่าบริษัท

มีการวิเคราะห์กันว่า บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ RJH อาจสามารถทำกำไรสุทธิงวดไตรมาส 2 ปี 2562 เติบโต 7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะกำไรปกติเติบโต 36% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยคาดรายได้ธุรกิจโรงพยาบาลลดลง 5% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากผลกระทบของวันหยุดยาวในงวดไตรมาส 2 ปี 2562 ที่มากกว่าปกติ

ถึงอย่างไรยังเติบโต 10.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ทั้งรายได้ผู้ป่วยเงินสด และรายได้ประกันสังคมเติบโตในระดับใกล้เคียงกัน จากจุดเด่นของศูนย์หัวใจ และการผ่าตัดแผลเล็กด้วยกล้องเป็นจุดขาย ช่วยเพิ่มจำนวนผู้ป่วยเงินสด และจำนวนเคสผู้ประกันตนที่เข้ารับการรักษามากขึ้น และการควบคุมรายจ่ายอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยได้ปรับลดจำนวนพนักงานไปแล้วกว่า 100 คน  เพื่อให้เหมาะสมกับปริมาณงาน ส่งผลให้คาดกำไรปกติอยู่ที่  71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

อย่างไรก็ตามงวดไตรมาส 2/2562 จะมีรายจ่ายพิเศษ 2 รายการรวม 30 ล้านบาท หักภาษีจะอยู่ที่ 24 ล้านบาท คือ 1) กลับรายการรายได้ประกันสังคม ที่ สปสช. จ่ายจริง ตามค่ารักษาผู้ป่วยในที่มีค่าความรุนแรงของโรค หรือ Adjsuted RW มากกว่า 2 ของ พ.ย.และ ธ.ค. 62 เพียง RW ละ 8.1 พันบาท ต่ำกว่ายอดที่กำหนดไว้ที่ 1.28 หมื่นบาท เป็นจำนวนทั้งสิ้น 20 ล้านบาท และ 2) ตั้งสำรองรายจ่ายพนักงาน ตามพ.ร.บ.แรงงานใหม่อีก 10 ล้านบาท ขณะไตรมาส 2 ปี 2561 มีรายจ่ายพิเศษ กลับรายการรายได้ประกันสังคมหลังหักภาษีอยู่ที่ 8 ล้านบาท ส่งผลให้คาดกำไรสุทธิงวดไตรมาส 2 ปี 2562 อยู่ที่ 47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

นอกจากนี้เพิ่มกำลังการให้บริการตั้งแต่ต้นงวดไตรมาส 3 ปี 2562 รองรับการเติบโตช่วง high season  เดือน ก.ค. เปิดห้องวอร์ด 6B เพิ่มเตียงผู้ป่วยในอีก 18 เตียง และจะเปิดศูนย์ฟอกไตเทียมระดับพรีเมียม ซึ่งทำร่วมกับพันธมิตรแยกจากศูนย์เดิม โดยมีเตียงฟอกไตแบบทันสมัยอีก 16 เตียง รวมทั้งจะพยายามเพิ่มห้องผ่าตัดจากเดิม 2 ห้อง เป็น  5 ห้อง อีกทั้งจะมีการ Renovate ห้องวอร์ด 7A เพื่อย้ายเตียงผู้ป่วยในจากห้องวอร์ด 3A ไปอยู่ห้องวอร์ด 7A และปรับปรุงห้องวอร์ด 3A เป็นห้องผู้ป่วย ICU 16 เตียง ด้วยผลดังกล่าวจึงเชื่อว่ากำไรปกติปี 2562 มีโอกาสเติบโตมากกว่า 14% ตามประมาณการ และกำไรสุทธิปี 2562 มีโอกาสเติบโตเกิน  48.5% ขณะกำไรปกติปี 2563 จะเติบโตต่อเนื่องอีก 13%

ที่สำคัญเตรียมสร้างโรงพยาบาลใหม่ติดโรงพยาบาลเดิม แทนสร้างส่วนต่อขยาย   โดยใช้งบลงทุนสร้างโรงพยาบาลใหม่ราว 700 ล้านบาท (สูงกว่าแผนสร้างส่วนต่อขยายเดิม 50 ล้านบาท) แหล่งเงินลงทุนจะมาจากเงินที่เหลือจากขายหุ้น IPO ราว 300 ล้านบาท และมีกระแสเงินสดจากการขายที่ดิน 200 ล้านบาท ที่เหลือจะมาจากการดำเนินงานและการก่อหนี้เพิ่มโรงพยาบาลใหม่มีขนาด 120 เตียง ตอนนี้อยู่ในช่วงการออกแบบ และคาดจะได้รับการอนุมัติ EIA ส.ค. 62 และใช้เวลาก่อสร้าง 1.5 ปี มีแผนเปิดให้บริการกลางปี 2564 โดยการสร้างโรงพยาบาลใหม่แทนสร้างส่วนต่อขยายเดิม คือ ขั้นตอนการอนุมัติ EIA เร็วขึ้น และขอโควตาประกันสังคมได้เลย หนุนการเติบโตทั้งรายได้ผู้ป่วยเงินสด และโครงการประกันสังคมในระยะยาว

อีกทั้งมีแผนเชิงรุกขยายการลงทุน และขยายฐานลูกค้าในจังหวัดอื่นแถบภาคกลาง   ผู้บริหารยังเล็งเห็นช่องทางการเติบโตจากฐานลูกค้าจังหวัดอื่นในภาคกลาง โดยเฉพาะจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งยังขาดศูนย์หัวใจ ซึ่งขณะนี้มีการติดต่อและรับเคสสวนหัวใจจากลูกค้าในจังหวัดสุพรรณบุรีมาบ้างแล้ว แต่ยังมีช่องทางที่จะรุกนำผู้ป่วยเคสสวนหัวใจมารักษาที่ RJH อีกมาก นอกจากนี้อาจมีแผนเปิดโรงพยาบาล หรือศูนย์หัวใจในจังหวัดสุพรรณบุรี ในเวลาที่เหมาะสม นอกจากนี้ RJH ยังเล็งเห็นช่องทางหารายได้จากผู้ป่วยต่างชาติ ซึ่งขณะนี้ได้จ้างทีมงานจาก BH มาช่วยปรับเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ

ในขณะที่นักวิเคราะห์ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์  แนะนำ “ซื้อ” จากจุดเด่น เป็นหุ้นในกลุ่มที่มี PER ถูกสุดและกำไรปี 2562 เติบโตโดดเด่นสุดในกลุ่ม บวกกับราคาเป้าหมาย 33 บาท  Upside 23.4%  ขณะคาด Dividend Yield ทั้งปี 2562 สูงถึง 2.8%

…

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1. นายสุรินทร์ ประสิทธิ์หิรัญ 39,861,805 หุ้น 13.29%
2. บริษัท โรงพยาบาลวิภาราม จำกัด 23,815,039 หุ้น 7.94%
3. บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) 21,220,745 หุ้น 7.07%
4. กองทุนเปิด บัวหลวงหุ้นระยะยาว 10,297,300 หุ้น 3.43%
5. น.ส.พิชญ์ระพี ประสิทธิ์หิรัญ 9,587,800 หุ้น 3.20%

รายชื่อกรรมการ

1. นายเอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์ ประธานกรรมการบริษัท
2. นายสุรินทร์ ประสิทธิ์หิรัญ ประธานกรรมการบริหาร, กรรมการผู้จัดการ, กรรมการ
3. นายวชิระ วุฒิกุลประพันธ์ กรรมการ
4. นางพรทิพย์ วุฒิกุลประพันธ์ กรรมการ
5. นางสมร ประสิทธิ์หิรัญ กรรมการ