1,700 จุดเด้ง!

*การทรุดตัวลงอย่างรวดเร็วของตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมา ทำให้รู้ว่าดัชนียังไม่พร้อมที่จะเดินหน้าขึ้นไปอย่างแข็งแกร่ง ถึงมีอาการอ่อนตัวยวบยาบให้เห็นเป็นประจำเมื่อแตะระดับ 1,750 จุด และหากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าอาการดังกล่าวเกิดขึ้นมาเป็นเวลาเดือนครึ่ง ซึ่งเป็นการย้ำหัวหมุดอีกครั้งว่า ตลาดหุ้นไทยซึมซับรับข่าวดีเข้าไปเยอะแล้ว ที่เหลือมีแค่รอให้ความคาดหวังดังกล่าวเป็นจริงเสียทีเจ้าค่ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*การทรุดตัวลงอย่างรวดเร็วของตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมา ทำให้รู้ว่าดัชนียังไม่พร้อมที่จะเดินหน้าขึ้นไปอย่างแข็งแกร่ง ถึงมีอาการอ่อนตัวยวบยาบให้เห็นเป็นประจำเมื่อแตะระดับ 1,750 จุด และหากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าอาการดังกล่าวเกิดขึ้นมาเป็นเวลาเดือนครึ่ง ซึ่งเป็นการย้ำหัวหมุดอีกครั้งว่า ตลาดหุ้นไทยซึมซับรับข่าวดีเข้าไปเยอะแล้ว ที่เหลือมีแค่รอให้ความคาดหวังดังกล่าวเป็นจริงเสียทีเจ้าค่ะ

*โดยเฉพาะประเด็นผลประกอบการที่ทุกคนกำลังเฝ้ารอ “โมนิก้า” เฝ้าภาวนาให้ทุกบริษัททำผลงานได้ยอดเยี่ยมกระเทียมดอง เพื่อป้องกันไม่ให้ตลาดหุ้นไทยเผชิญกับอาการ hard landing ถี่ขึ้นเรื่อย ๆ และถ้ามองจากเหตุการณ์เก่า ๆ ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้จะเห็นว่า ดัชนีมีอาการทรุดตัวลงหนัก 2-3 รอบด้วยกัน ซึ่งแต่ละรอบมีจุดเด้งที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิงนะจะบอกให้

*สำหรับรอบแรกเกิดขึ้นได้เดือนกว่า ๆ ซึ่งเป็นจังหวะที่ดัชนีกำลังเทกตัวจากระดับ 1,680 จุด ขึ้นไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 1,730 จุด ต่อจากนั้นม้วนตัวลงมาแถว 1,705 จุด อย่างรวดเร็ว แต่ถัดมาอีกวันก็เด้งกลับขึ้นไปใหม่อีกรอบ และรอบนี้เกือบได้เห็นดัชนีขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,750 จุด เสียด้วย สุดท้ายก็กลับลงมายืนแกว่งตัวที่บริเวณ 1,715 จุด อีกพักใหญ่ ๆ และขึ้น ๆ ลง ๆ บริเวณนี้ค่อนข้างนานนะคะ

*สิ่งที่น่าสนใจมากที่สุดสำหรับการเล่นเที่ยวนี้กลับอยู่ที่ท่าทีของนักเล่นกลุ่มฝรั่งตาน้ำข้าว ซึ่งเริ่มมีการขายหุ้นหนักออกมาให้เห็นเป็นระยะ ขณะที่กองทุนตัวจี๊ดเริ่มแสดงอาการสงวนท่าทีการเข้าซื้อหุ้นมากกว่าเดิม “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับลองประเมินโอกาสเด้งกลับบริเวณ 1,700 จุด มีมากขนาดไหน ? หลังดัชนีทรุดตัวลงมาปิดที่ 1,706.49 จุด ลบไป 11.48 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.55 หมื่นล้านบาทแล้วน่ะซี

*เม้าท์ถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงต้องมองไปที่หุ้น ROBINS เพื่อทำความเข้าใจสักนิดหนึ่งว่า การขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 62.50 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 3.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.12 พันล้านบาท ล้วนมาจากปัจจัยทางเทคนิคล้วน ๆ เพราะเรื่องทำเทนเดอร์ฯ ในราคาหุ้น 66.50 บาท มันเป็นเกมดึงออกไปแต่งตัวใหม่ เพื่อไม่ให้ทับไลน์การทำธุรกิจในกลุ่มเซ็นทรัล แถมยังเป็นการอัพค่าตัวไปในคราวเดียวกันด้วยพะยะค่ะ

*กรณีดังกล่าวคล้ายคลึงกับหุ้น GPSC มากเหลือเกิน เพราะทันทีที่ประกาศขายหุ้นเพิ่มทุนในราคาหุ้นละ 56 บาท แรงซื้อก็แปรเปลี่ยนเป็นแรงขายอย่างรวดเร็ว บรรดาแมงลือเลยมั่นใจการขึ้นของหุ้นก่อนหน้านี้มาจากการดันหุ้นล่อ จึงกลายเป็นจังหวะของการรอซื้อเมื่ออ่อนตัวมากกว่า และคนที่คิดจะซื้อหุ้นต้องมองอะไรยาว ๆ สักนิดหนึ่ง เพราะราคาปิดที่ 67 บาท ลบไป 3.75 บาท หรือลงไป 5.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.22 พันล้านบาท มันสูงเกินไปหน่อยจ้า!

*ส่วนรายที่สูงเกินไปแน่ ๆ และมองมุมไหนก็มีความเสี่ยงเต็มไปหมดอย่าง SCC กลายเป็นหุ้นที่ “โมนิก้า” ต้องแนะนำให้นักเล่นถอยฉากออกมาทุกกรณี เพราะของมันเห็นกันอยู่แล้วว่า แนวโน้มกำไรปี 2562 น่าจะลดลง 8% ซึ่งเป็นช็อตที่บังคับให้กองทุนต้องขายหุ้นออกมาก่อน ทำให้การทรุดตัวลงมาปิดที่ 434 บาท ลบไป 6 บาท หรือลงไป 1.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.17 พันล้านบาท ยังไม่ใช่จุดต่ำสุดของเที่ยวนี้น่ะซี

*เหมือนกับในรายของ IVL ที่ราคาไหลลงมาเรื่อย ๆ จนมองไม่เห็นจุดเด้ง แถมยังมีประเด็นที่นักวิเคราะห์ลดน้ำหนักหุ้นกลุ่มปิโตรเคมีหลอกหลอนทุกวัน “โมนิก้า” ถึงไม่เข้าใจเหตุผลการสวนภาวะตลาดหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 40.50 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 3.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.14 พันล้านบาท เพราะมองในมุมต่าง ๆ ไม่เห็นมีน้ำหนักที่จะทำให้หุ้นขึ้นได้เลยพับผ่าสิ !

*อีกรายที่น่ากลัวจริง ๆ ต้องยกให้ WORK ภายใต้การบริหารจัดการของ “เสี่ยตา” มีเรื่องราวลึกลับซับซ้อนให้ติดตามได้ตลอดเวลา แต่เอาเข้าจริงกลับบ่มิไก๊ แถมทรงหุ้นกำลังตั้งลำมาดี ๆ และมีแรงซื้ออัดเข้ามาเป็นระยะ ก็แปรเปลี่ยนเป็นแรงขายแบบเต็มสูบ เดี๊ยนถึงมองการลงมาปิดที่ 27 บาท ลบไป 2.50 บาท หรือลงไป 8.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 230 ล้านบาท น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการลงรอบใหม่น่ะซี

*ส่วนรายที่ “เทรดไป เทรดมา” ดันลงไปใหม่อย่าง DOD ถือเป็นช็อตที่ทำให้แมงเม่าชี้เป้าไปยัง “หญิงหลุยส์” แอนด์เดอะแก๊งอย่างพร้อมเพรียง “โมนิก้า” มองเป็นโมเมนต์ของการเล่นเกมหุ้นมากเกินไปหน่อย พร้อมกับขอชี้แนะบรรดานักเล่นให้มองไปยังงบไตรมาส 2 ทรงตัวหรือเปล่า ? เพราะทุกคนรู้ดีว่า หากกำไรในงวดดังกล่าวออกมาเหมือนที่มองไว้ ก็จะทำให้ผลงานปี 2562 ออกมาดี เพราะทุกคนรับรู้ว่า ตัวเลขไตรมาส 3-4 จะแจ่มสุด ๆ เดี๊ยนถึงให้แฟนคลับมองราคาปิดที่ 11.80 บาท ลบไป 1.30 บาท หรือลงไป 9.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 206 ล้านบาท น่าเล่นจริงไหม ?

Back to top button