แรงน้อย..ถอยจม

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ดูเหมือนตลาดหุ้นไทยจะพยายามประคองตัวสุดชีวิต เพื่อรักษาโมเมนตัมไม่ให้เสียศูนย์มากกว่าที่เป็นอยู่นั้น “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ ในมุมของการเล่นแบบเดย์เทรด แต่สำหรับมุมของคนที่เล่นระยะกลางถึงระยะยาว สถานการณ์ดังกล่าวย่อมไม่สู้ดีสักเท่าไหร่ เพราะการขึ้นแบบติด ๆ ขัด ๆ เหมือนเป็นการสะท้อนแรงเทขายยังไม่สะเด็ดน้ำ แถมวอลุ่มซื้อไม่เติมเข้ามาแบบถี่ ๆ แบบนี้..ไม่ดีเลยนะคะ

*ประเด็นดังกล่าวทำให้การขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 1,711.97 จุด บวกไป 5.48 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.08 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นเพียงการประวิงเวลาไม่ให้ทุกอย่างดูเลวร้ายกว่าที่เป็นอยู่ เพราะเมื่อมองดูจากข่าวสารต่าง ๆ ที่ถาโถมเข้ามาในตลาดหุ้นไม่หยุดหย่อน “โมนิก้า” มองไม่เห็นเรื่องไหนที่ทำให้รู้สึกสบายใจจนหายใจได้ทั่วท้องเลยสักอย่าง ซึ่งเป็นสาเหตุให้นักเล่นเริ่มเทขายหุ้นบางตัวหนักมือขึ้นเจ้าค่ะ

*ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องจั่วหัวด้วยคำคมเพื่อทำให้นักเล่นเข้าใจความหมายที่ว่า “แรงน้อย..ถอยจม” ซึ่งเป็นการสะท้อนภาพเหตุการณ์ที่กำลังเกิดกับตลาดหุ้นไทย และถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปอีกระยะหนึ่งรับรองดูไม่จืดอย่างแน่นอน เพราะตลาดหุ้นไทยพร้อมลงมากกว่าทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เดี๊ยนถึงรู้สึกใจคอไม่ค่อยดีเมื่อเห็นต่างชาติทยอยรินหุ้นออกมาอีกรอบน่ะซี

*ตัวอย่างหนังที่ดีสุดในเที่ยวนี้ต้องยกให้แบงก์ตราดอกบัว BBL ถูกเทขายออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า จนราคาหุ้นทรุดลงมากองอยู่ที่ระดับ 181.50 บาท ลบไป 1 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.16 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่นักเล่นทิ้งหุ้นแบบไม่สนใจใยดี จนทำให้ราคาหุ้นลงมาทำจุดต่ำสุดในรอบ 1 ปี 11 เดือน เท่ากับเป็นการย้ำหัวหมุดว่า ไม่มีใครเอาจริง ๆ นะจะบอกให้

*อีกรายที่น่าจะปิดเกมอย่างเป็นทางการ คงเป็นพ่อดอกมะลิตัวดี JAS ของอีฉันนี่แหละ ! เพราะความจริงหลายอย่างค่อย ๆ เปิดเผยออกมาทีละเล็กทีละน้อย จนบรรดาขาเผือกรู้สึกเซ็งในอารมณ์กันเป็นแถว “โมนิก้า” ถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 6.30 บาท บวกไป 0.05 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 412 ล้านบาท ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาสักเท่าไหร่ ! เพราะมันไม่มีอะไรในกอไผ่ตั้งแต่ต้นนะตัวเอง

*เม้าท์ถึงตรงนี้ต้องหันมามองการร่วงหนักของหุ้น ORI ทั้งที่ไม่มีอะไรผิดแผกไปจากแผนการทำธุรกิจสักอย่าง แถมมีข่าวลือในตลาดหุ้นมากมายเกี่ยวกับการเพิ่มทุนเข้ามาอีกดอก “โมนิก้า” มองเป็นเกมทุบหุ้นเอาของจากบรรดาแมงเม่าธรรมดา แถมเมื่อดูจากการรูดลงมาปิดที่บริเวณ 8.15 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 13.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 926 ล้านบาท ย่อมมีรายใหญ่ผสมโรงกระทืบหุ้นให้จมดินอย่างแน่นอนค่ะ

*เรื่องประหลาด ๆ ที่ทำให้แฟนคลับงงไม่ใช่น้อยต้องหันมามอง KTC กระชากขึ้นแรงท่ามกลางความกังวลตัวเลขจะปังขนาดไหน ? ถือเป็นสถานการณ์ที่นักเล่นเกิดอาการลังเลใจที่จะตามเฮโลกันไปจริง ๆ แต่ถ้ามองในมุมของก๊วนสถาบันที่ได้ข่าวแบบใกล้ชิด “โมนิก้า” ก็ไม่แปลกใจที่เห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 47.75 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 5.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 986 ล้านบาท พร้อมกับทำ all time high แบบสบายใจเฉิบนะคะ

*อีกรายที่ขึ้นต่อเนื่องแบบไม่สนใจอะไรมากนัก “โมนิก้า” คงมองไปยังหุ้น COM7 ทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 25.25 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 5.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 421 ล้านบาท มันกลายเป็นประเด็นที่ทำให้สังคมต้องฉุกคิดเยอะพอสมควร แต่สำหรับนักเล่นขาประจำคงไม่มีอะไรต้องคิดมาก เพราะก๊วนนี้เขามองราคาสูงถึงระดับ 29-30 บาทกันเลยทีเดียวนะจ๊ะ

*ส่วนหุ้นเล็กที่มาแบบเหนือเมฆ ต้องยกให้อดีตหุ้นฉาว OCEAN ทะยานขึ้นมาปิดที่ 1.34 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 8% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 51 ล้านบาท หลังจากประกาศงบไตรมาส 2 มีกำไร 20 ล้านบาท หรือคิดเป็นตัวเลขกำไรต่อหุ้นไม่ถึง 2 สตางค์แบบนี้ “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นการบวกที่โอเวอร์รีแอ็กเกินไปสักหน่อย และอย่างที่รู้กันดีก็คือ ก๊วนนี้มีเจ้ามือคอยดูให้เป็นประจำ จึงต้องเลิกคิดไปได้เลยว่า หุ้นมาด้วยพื้นฐานเจ้าค่ะ

*ส่วนรายที่น่ามองจริง ๆ และยังเป็นช็อตเด็ดของการเล่นสั้น ๆ “โมนิก้า” ขอแนะนำให้แฟนคลับหันไปมอง SKY เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการเล่นรอบใหม่ หลังหุ้นแกว่งตัวไปมาในกรอบ 11.50-13.10 บาท เป็นเวลาร่วม 5 เดือน แถมเมื่อมองจากคอนเน็กชันทางธุรกิจที่แน่นเปรี๊ยะทุกอณู เดี๊ยนย่อมมองการขึ้นมาปิดที่ 12.50 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 4.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 34 ล้านบาท น่าจะมีช่องให้เล่นต่อแบบชิว ๆ นะตัวเอง