พาราสาวะถี

น่าสนใจและเป็นข้อสังเกต เรื่องอะไรที่เนติบริกรประจำรัฐบาลมั่นใจจะตอบฉับไวและไม่ลังเล แต่กรณีการกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 ที่ ปิยบุตร แสงกนกกุล ยกขึ้นมาถาม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันแถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภานั้น คำตอบของ วิษณุ เครืองาม ไม่หนักแน่นเหมือนเดิม การที่บอกว่าไม่มีอะไรจะพูดและไม่ขอตอบ เพราะนายกฯ ตอบไปแล้วในสภาว่าเสร็จเรียบร้อยครบถ้วน ผ่านพ้นไปแล้ว มันดูแผ่วเบายังไงชอบกล


อรชุน

น่าสนใจและเป็นข้อสังเกต เรื่องอะไรที่เนติบริกรประจำรัฐบาลมั่นใจจะตอบฉับไวและไม่ลังเล แต่กรณีการกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 ที่ ปิยบุตร แสงกนกกุล ยกขึ้นมาถาม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันแถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภานั้น คำตอบของ วิษณุ เครืองาม ไม่หนักแน่นเหมือนเดิม การที่บอกว่าไม่มีอะไรจะพูดและไม่ขอตอบ เพราะนายกฯ ตอบไปแล้วในสภาว่าเสร็จเรียบร้อยครบถ้วน ผ่านพ้นไปแล้ว มันดูแผ่วเบายังไงชอบกล

แถมพ่วงท้ายด้วยว่า ถ้าใครจะไปยื่นเรื่องเพื่อให้เกิดการตรวจสอบและวินิจฉัยก็แล้วแต่ ก่อนจะบอกสั้น ๆ ว่าที่ผ่านมา “เคยมี” การกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ โดยไม่อธิบายต่อว่าเป็นยุคไหนสมัยใด ผิดวิสัยของเนติบริกรสีข้างถลอกเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเหตุนี้จึงเกิดคำถามคาใจจาก อาทิตย์ อุไรรัตน์ ผู้ที่เคยถูกขนานนามว่าเป็นวีรบุรุษประชาธิปไตย

โดยด็อกเตอร์ไข่ผงตั้งปุจฉาว่า “มันเกิดอะไรขึ้นในประเทศนี้รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณ โดยมีข้อความชัดเจนเพียง 3 บรรทัด แต่นายกรัฐมนตรีกล่าวเพียง 2 บรรทัด ขาดหายข้อความสำคัญไป 1 บรรทัดเต็ม ๆ อย่างนี้จะโมฆะไหม” ใครจะเป็นคนตอบ ฟังมือกฎหมายประจำรัฐบาลก็ไม่มีความชัดเจน คงต้องให้ผู้เปิดประเด็นช่วยหาช่องทางในการที่จะทำให้สังคมคลายความเคลือบแคลงแล้วกระมัง

ยังไม่หยุดดูดสำหรับพรรคสืบทอดอำนาจ ล่าสุด พรศักดิ์ เจริญประเสริฐ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และเพิ่งเป็นอดีตผู้สมัครส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคเพื่อไทย ได้ลาออกจากพรรคนายใหญ่ไปสังกัดพลังประชารัฐ โดยมีเสียงมาจาก คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคว่า เกิดจากคดีความที่ติดตัว ก่อนที่คนที่ตีจากจะออกมาปฏิเสธว่า ไม่เกี่ยวกัน แน่นอนว่า ถามความรู้สึกคนทั่วไปคงได้คำตอบที่แน่ชัดว่าเชื่อฝั่งไหน

ความจริงผ่านพ้นการเลือกตั้งมาถึงขนาดนี้แต่ละพรรคเลือดน่าจะหยุดไหลได้แล้ว แต่ก็พอจะเข้าใจได้ การใช้อำนาจการดูดที่มีอยู่เต็มเปี่ยมเลือกเป้าเป็นคนของพรรคนายใหญ่ ก็เพื่อที่จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามเสียขวัญ ที่เห็น ๆ คือเป็นการตบหน้าฉากใหญ่ ทำให้คนแดนไกลเสียหน้า ซึ่งไม่น่าจะมีอะไร เพราะการได้พวกที่ไม่ใช่ระดับบิ๊กเนมไปร่วมทัพมันก็แทบจะไม่มีความหมายใด ๆ ในทางการเมือง แต่เป้าหมายใหญ่เชื่อได้เลยว่าไม่น่าจะอยู่ที่พรรคเพื่อไทยอีกแล้ว

ฟังจากสิ่งที่วิษณุชี้แจงนักข่าว จับใจความได้ว่า สมาชิกพรรคย้ายพรรคได้แต่ส.ส.ย้ายไม่ได้เพราะจะสิ้นสภาพ เว้นเสียแต่พวกที่พรรคถูกยุบสามารถหาต้นสังกัดใหม่ได้ภายใน 60 วัน ถ้ามองไปยังคดีความเวลานี้ก็จะเห็นว่ามีเพียงพรรคการเมืองเดียวเท่านั้นที่เข้าข่ายจะถูกยุบนั่นก็คืออนาคตใหม่ ซึ่งแนวโน้มมีความเป็นไปได้สูง หากแพแตกจริงคำถามตัวโตที่จะเกิดขึ้นก็คือ แล้วส.ส.มือใหม่ทั้งหลายจะยังคงเกาะกลุ่มกันเหนี่ยวแน่นหรือต่างคนต่างไป

เรื่องกระสุนดินดำและของล่อตาล่อใจนั้น ฝ่ายต้องการคะแนนเสียงพร้อมจะประเคนให้อยู่แล้ว ขณะนี้จึงรอเพียงเวลาที่จะมีการตัดสินเท่านั้น ส่วนใครที่มองโลกสวยว่าถ้าพิจารณาตามตัวบทกฎหมายโอกาสที่พรรคของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จะถูกยุบไม่น่าจะเกิดขึ้นหรือเป็นไปได้น้อย แต่หลายเหตุการณ์ที่ผ่านมามันได้พิสูจน์แล้วว่า ไม่มีหลักเกณฑ์หรือบรรทัดฐานใด ๆ ทั้งสิ้นที่จะใช้ยืนยันได้ ความเชื่อมั่นมันสูญหายไปนับตั้งแต่วันที่เปิดพจนานุกรมตัดสินคดีแล้ว

ยังเถียงกันไม่จบเรื่องผู้นำเผด็จการวางแผนถึง 3 ปีก่อนยึดอำนาจ 22 พฤษภาคม 2557 จริงหรือไม่ ไม่ว่าใครจะหูแว่ว ไม่ว่าใครจะบอกว่าไม่เคยได้ยิน ไม่ว่าใครจะยืนยันว่าเป็นความจริง ทั้งหมดแล้วแต่คนจะเชื่อ ทั้งหลายทั้งปวงนั้น มันไม่ได้อยู่ที่ว่าวางแผนจริงหรือไม่ หากแต่มันอยู่ที่ว่าผู้มีอำนาจ ณ เวลานั้น หรือผู้อยู่เบื้องหลังถูกหลอกและมั่นใจในอำนาจที่ตัวเองมีมากเกินไปนั่นเอง มิเช่นนั้น ข้อเสนอโง่ ๆ ว่าด้วยกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอยคงไม่เกิดขึ้น

เพราะนั่นคือจุดเริ่มต้นของการนำไปสู่การก่อม็อบและปลุกกระแสจนบานปลายเป็นการชัตดาวน์ประเทศ หากไม่มีเชื้อไฟให้ฝ่ายตรงข้ามได้โหมกระพือ ก็ยากที่ไฟจะไหม้บ้านตัวเองจนวอดวาย ถามว่า ช่วงประมาณเดือนสิงหาคมหรือกันยายน 2556 ยังมีการพูดกันอยู่เลยว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น่าจะอยู่ครบเทอม เมื่อประเมินจากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ดูเป็นใจ แต่พลันที่มีการขยับด้วยข้อเสนอโง่ ๆ ท่ามกลางวาทกรรม “กลับบ้านแบบเท่ ๆ” พวกกองเชียร์ไม่ลืมหูลืมตาก็พากันเออออห่อหมกทันควัน

เหล่านี้คือบทเรียนอันสำคัญที่วันนี้นายใหญ่เองยังมึนไม่หาย ต่อไม่ติด แม้กระแสตอบรับและแรงสนับสนุนยังหนาแน่น แต่ด้วยขุมกำลังและการวางแผนอย่างแยบยลผลที่ตามมาก็อย่างที่เห็น ชนะเลือกตั้งแล้วตั้งรัฐบาลไม่ได้ การประกาศไม่เลิกเล่นการเมืองและวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลทหารของคนแดนไกลช่วงวันเกิดของตัวเองที่ผ่านมา ก็เห็นได้ว่าเมื่อฝ่ายตรงข้ามไม่เล่นด้วย ทุกอย่างก็เงียบหายไปในสายลม สิ่งที่หวังกันอย่างเดียวเวลานี้ก็คือ อย่าให้ผู้นำเผด็จการแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้

เดิมพันทางการเมืองรอบนี้ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับคนชื่อประยุทธ์ จะเห็นได้จากการกระโดดมาเป็นผู้กุมบังเหียนงานด้านเศรษฐกิจด้วยตนเอง เพราะเชื่อมั่นว่าถ้าทำให้คนหายจน ปัญหาปากท้องของประชาชนได้รับการแก้ไขได้ ผู้คนก็จะลืมคนชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ไปในที่สุด และคำว่าประชารัฐก็จะเข้ามาแทนที่ประชานิยมที่อยู่คู่สังคมไทยมาอย่างยาวนานเกือบ 20 ปี

บทพิสูจน์แรกที่คณะสืบทอดอำนาจต้องทำให้เห็นคงเป็นบรรดานโยบายทำได้ทำทันที ที่กรอบระยะเวลาของผลงานต้องปรากฏไม่เกิน 3 เดือน หากช้าไปกว่านี้ การจะติ๊ดชึ่งด้วยข้ออ้างอุปสรรคต่าง ๆ คงไม่มีใครรับฟัง ขณะเดียวกันประเด็นบัตรคนจนที่วันก่อนมีการพูดว่าจะเริ่มสแกนคุณสมบัติคนที่ถือครองอยู่ในปัจจุบัน ก็จะเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญว่าจะส่งผลต่อคะแนนนิยมในตัวท่านผู้นำและพรรคสืบทอดอำนาจด้วยหรือไม่ อีกไม่นานคงเกินรอน่าจะพอเห็นคำตอบ

Back to top button