เป้า 1,500 จุดโมนิก้าและทีมงาน

*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยวานนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาของคนจนผู้ยิ่งใหญ่ (กรีซ) ท่าทีของเฟดในเรื่องปรับขึ้นดอกเบี้ย หรือแม้กระทั่งความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจในประเทศช่วงครึ่งหลังปี 58 ฯลฯ ล้วนเป็นตัวแปรที่ส่งผลโดยตรงกับความเชื่อมั่นในการลงทุนแบบมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นข้อมูลที่นักลงทุนต้องไปถามใจตัวเองกันอีกทีหนึ่งนะค่ะ

*เนื่องจากพฤติกรรมการลงทุนที่เห็นในช่วงนี้ยังไม่มีอะไรเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ บรรดาเหล่านักเล่นหน้าใหม่หน้าเก่ายังมีอาการมึนๆ งงๆ กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นต้องปรับกระบวนยุทธ์ตลอดเวลา หลังดัชนีขยับขึ้นมาปิดที่ 1,490.65 จุด บวกไป 5.75 จุด ด้วยมูลค่า 3.10 หมื่นล้านบาท มันคล้ายกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ทุกอย่างเลยนะจ๊ะ

*สิ่งที่ทำให้ “โมนิก้า” ตะขิดตะขวงใจนิดๆ หน่อยๆ ล้วนมาจากท่าทีของบริษัทใหญ่ที่ทำเสียงอ่อยๆ เหมือนคนกำลังจะหมดแรงนั้น มันเป็นภาพสะท้อนที่ทำให้รู้ว่า ทุกอย่างยังไม่เดินไปถึงจุดที่ควรจะเป็น บวกกับฝรั่งหัวทองยังสาดหุ้นออกมาเป็นระลอก จึงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า รอบนี้จะขึ้นไปยืนเหนือ 1,500 จุด แล้วไต่ระดับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,520 จุดได้อีกหรือเปล่า?

*เนื่องจากในไซเคิลย่อย 3 รอบที่ผ่านมา ดัชนีวนเวียนไปมาในระดับนี้ตลอด “โมนิก้า” ถึงไม่แน่ใจว่า ทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกไหม? เพราะพี่เบิ้มอย่าง PTT และPTTEP มีอาการข้อเข่าทรุดเรื้อรัง บวกกับมีข่าวซุบซิบเกี่ยวกับผลการดำเนินงานแย่ลงตลอดเวลา วันนี้ถึงไม่ใช่วันของหุ้นพลังงาน! คำแนะนำในช่วงนี้ถึงออกมาในลักษณะทยอยสะสมเมื่ออ่อนตัวไงล่ะค่ะ

*เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ KBANK ช่วงนั้นใครๆ ก็เม้าท์แต่เรื่องร้ายๆ ให้ฟังเป็นประจำ จุดที่คิดว่า ลงมาต่ำแล้ว ก็ยังมีจุดที่ต่ำกว่าให้เห็นอีก  ทว่า..ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา หุ้นกระชากขึ้นอย่างแข็งแกร่ง จากราคาฐานที่ระดับ 181 บาท วันนี้ขึ้นมาปิดที่ 191.50 บาท บวกไป 4.50 บาท หรือขึ้นไป 2.50%  วอลุ่มหนาแน่นถึง 2.40 พันล้านบาท มันทำให้เชื่อว่า หุ้นจะขึ้นไปยืน 200 บาทอีกรอบนะคะ

*ส่วนในรายของ KTB ถ้าวิเคราะห์ตามเนื้อผ้าจะเห็นว่า ทุกอย่างยังว่างเปล่าเหมือนเดิม! ความเชื่อมั่นที่มีต่อตัวธนาคารยังมีไม่มาก แถมสินเชื่อที่ปล่อยก็ยังลูกผีลูกคน “โมนิก้า” ถึงแปลกใจที่เห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 17.90 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่า 1.40 พันล้านบาท เดี๊ยนประเมินสถานการณ์เที่ยวนี้เป็นแค่ “รีบาวด์” โดยได้แรงหนุนหลักจากกองทุนเข้ามาแบบนี้..มันเป็นเรื่องที่น่าคิดไม่ใช่น้อยพะยะค่ะ

*ผิดกับในรายของ IFEC พอเปิดช็อตเด็ดเกี่ยวกับการคว้างานผลิตไฟฟ้าในกองทัพเรือ ราคาหุ้นก็ผงกหัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง และดูเหมือนการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 11.60 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 6.40% เป็นการปรับตัวขึ้นเป็นวันแรกเสียด้วย “โมนิก้า” ถึงกล้ามองเป้ารอบนี้แถว 14 บาท เพราะตามทฤษฎีคลื่น 3 ลูกที่ร่ำเรียนมา ทุกอย่างเข้าองค์ประกอบหมดนะจะบอกให้

*ไหนๆ เม้าท์ถึงหุ้นที่รีบาวด์ขึ้นแรงเป็นวันแรกทั้งที  “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่ TRC เพื่อเป็นออปชั่นสำหรับนักเกาะกระแสก็แล้วกัน ยิ่งเห็นวอลุ่มซื้อทยอยเข้ามาตลอดทั้งวัน ยิ่งกระตุ้นให้เดี๊ยนต้องส่องกล้องมองดูเป็นพิเศษวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.30 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 5.50% ขณะที่ยอดสูงสุดครั้งก่อนอยู่ที่ระดับ 2.50 บาท มันเป็นอะไรที่น่าตามไปดูเสียจริงๆ นะจะบอกให้

*เช่นเดียวกับในรายของ SAWAD ถือเป็นอีกหนึ่งหุ้นที่น่ามองในช่วงธุรกิจลีสซิ่งเฟื่องฟู และเหตุผลของการเม้าท์ถึงไม่มีอะไรมาก แค่อยากจะบอกให้รู้ว่า พรายกระซิบได้ยินจิ้งจกทักว่า กำไรโต 40%..NPL ลดลง และยังทักซ้ำว่า กำไรโต 40%..NPL ลดลง แถมเป็นการพูดซ้ำวนเวียนอยู่หลายรอบ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับลองหันไปมองหุ้นตัวนี้สักเล็กน้อยไงล่ะค่ะ

*ส่วนนักผจญภัยที่นิยมเล่นหุ้นต่ำสิบเป็นนิจสิน “โมนิก้า” ขอแนะนำให้มอง EIC ดาวรุ่งผีพุ่งใต้ที่โผล่ขึ้นมาแบบวูบวาบ หลังจากนั้นหายวับไปอย่างรวดเร็ว เพราะการเล่นหุ้นตัวนี้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไม่ต้องอาศัยอะไรเลย เพราะมีแค่ “ความกล้า” กับ “ความไว” เพียงเท่านี้ก็กระโจนใส่ได้ทันที ล่าสุดหุ้นเด้งขึ้นมาปิดที่ 1.90 บาท บวกไป 0.26 บาท หรือขึ้นไป  16%  มันเป็นอะไรที่สุดๆ มากนะคะ

*อีกหนึ่งรายที่สุดๆ พอกัน “โมนิก้า” นึกถึงหุ้น VTE ขึ้นมาในทันที และเหตุผลที่ทำให้นึกถึงก็มาจาก “เสี่ย ย.” เข้ามามีชื่อพัวพัน บวกกับมีกระแสความเชื่อในเรื่องเทิร์นอะราวด์ ตั้งแต่ต้นปี 58 ถึงมีการดันๆ ทุบๆ กันอย่างสนุกมือ แถมเหตุผลหลักที่ทำให้บริษัทเติบโตอย่างบูรณาการ ยังเป็นเรื่องที่จับต้องไม่ได้แบบนี้ ก็ลองไปคิดกันเอาเองว่า 3.94 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 4% มันเหมาะที่จะเล่นสั้นๆ หรือเล่นยาวๆ นะจ๊ะ