เด้งกลับช่วงสั้น
*วันนี้ “โมนิก้า” ถือโอกาสเล่าถึงแทกติกการเล่นหุ้นนิดหน่อย เพื่อทำให้แฟนคลับได้เห็นพัฒนาการของตลาดหุ้นไทยยังลุ่ม ๆ ดอน ๆ ต่อไปเหมือนเดิม หลังผลงานของบริษัทจดทะเบียนไม่เปรี้ยงปร้างอย่างที่หลายคนคาดหวัง ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้นักลงทุนสถาบันทยอยขายหุ้นออกมาตั้งแต่ปลายเดือน ก.ค. ต่อเนื่องถึงทุกวันนี้ แถมทำให้ภาพของการลงทุนเริ่มขมุกขมัวขึ้นในทันทีนะคะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*วันนี้ “โมนิก้า” ถือโอกาสเล่าถึงแทกติกการเล่นหุ้นนิดหน่อย เพื่อทำให้แฟนคลับได้เห็นพัฒนาการของตลาดหุ้นไทยยังลุ่ม ๆ ดอน ๆ ต่อไปเหมือนเดิม หลังผลงานของบริษัทจดทะเบียนไม่เปรี้ยงปร้างอย่างที่หลายคนคาดหวัง ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้นักลงทุนสถาบันทยอยขายหุ้นออกมาตั้งแต่ปลายเดือน ก.ค. ต่อเนื่องถึงทุกวันนี้ แถมทำให้ภาพของการลงทุนเริ่มขมุกขมัวขึ้นในทันทีนะคะ
*ยิ่งมองในมุมของการทิ้งตัวลงจากระดับ 1,710 จุด แบบไม่มีหือไม่มีอือสักนิด ก่อนจะลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณแนวรับ 1,650 จุด ยิ่งเป็นการตอกย้ำเรื่องความเสี่ยงในการลงทุนยังตามหลอกหลอนไม่เลิกสักที “โมนิก้า” ถึงมองเห็นพวกโลกสวยเริ่มมีอาการลังเลใจมากขึ้น และนำไปสู่การขายทำกำไรช่วงสั้น ๆ เมื่อดัชนีดีดตัวขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับหันไปถือเงินสดมากขึ้นในระดับ 70% นะจะบอกให้
*ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้ “โมนิก้า” ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับการเด้งขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,671.48 จุด บวกไป 5.49 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.04 หมื่นล้านบาท เพราะของมันเห็นกันทนโท่ว่า การขึ้นมาของดัชนีเที่ยวนี้เป็นแค่ระยะสั้น ๆ ไม่ได้มีมูฟเมนต์พิเศษที่ทำให้เชื่อว่า ต่อจากนี้เป็นต้นไปทุกอย่างจะดีขึ้นอย่างบูรณาการ เดี๊ยนถึงพยายามให้แฟนคลับมองเหตุผลที่ทำให้หุ้นบลูชิพวิ่งกลับขึ้นมายืนในแดนบวกเกิดจากประเด็นอะไรกันแน่นะจ๊ะ
*โดยเฉพาะการทะยานขึ้นของหุ้นค้าปลีก CPALL เด้งกลับขึ้นไปถึงระดับ 86.25 บาท ทั้งที่พวกบล็อกเทรดกำลังรอถล่มขายแบบไม่มีเยื่อใย “โมนิก้า” มองเป็นการขึ้นที่ผิดจังหวะไปนิดหนึ่งในช่วงตลาดหุ้นผันผวน และมีโอกาสโดนรินหุ้นออกมาตลอดเวลา และสุดท้ายก็เป็นเหมือนที่มองไว้ เพราะหุ้นลงมาปิดเสมอตัวที่ระดับ 85.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.37 พันล้านบาท เดี๊ยนถึงไม่อยากให้นักเล่นคาดหวังอะไรมากมายกับการขึ้นในเที่ยวนี้เจ้าค่ะ
*เช่นเดียวกับในรายของเจ้าพ่อสื่อสารโทรคมนาคม ADVANC เดินหน้ารีดปันผลระหว่างกาลออกมาให้ในช่วงนี้ “โมนิก้า” มองเป็นการแก้เกมที่ยอดเยี่ยมในภาวะทุกอย่างฝืดเคือง และยังเป็นการเปิดทางเลือกให้นักเล่นระยะยาวไปในตัว ถึงกระนั้นต้องดูสถานการณ์รอบด้านประกอบด้วยว่า เอื้อให้มากน้อยขนาดไหน ? เพราะการขึ้นมายืนปิดที่ 215 บาท บวกไป 9 บาท หรือขึ้นไป 4.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.47 พันล้านบาท มันแรงเกินไปน่ะซี
*คล้ายคลึงกับกรณีของหุ้นน้องใหม่ DOHOME ต้านแรงเทขายที่มีออกมาก่อนเปิดเทรดได้อย่างยอดเยี่ยม ต่อจากนั้นก็ทะยานขึ้นมาเรื่อย ๆ จนสุดท้ายขึ้นมาปิดที่ระดับ 8.70 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 11.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.82 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่ต้องดูกันยาว ๆ เพราะแรงซื้อที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องในภาวะแบบนี้ มักคาดหวังผลงานในปี 2562 จะออกมาแจ่มสุด ๆ พะยะค่ะ
*น่าแปลกใจสุด ๆ คงเป็นรายของหุ้น TQM โดนเทหุ้นออกมาเป็นระยะ จนร่วงลงจากยอดด้านบนบริเวณ 50 บาท ลงมายืนปิดที่ระดับ 41 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 2.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 168 ล้านบาท ทั้งที่แมงโม้เม้าท์ให้ฟังเป็นคุ้งเป็นแคว กำไรจะดีอย่างนั้น..กำไรจะดีอย่างนี้ แต่สุดท้ายหุ้นยังเทรดบน P/E 30 เท่าแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นปรากฏการณ์ในลักษณะโอเวอร์แอ็กติ้ง และหุ้นมีโอกาสไหลลงยาวนะจะบอกให้
*เหมือนกับในรายของหุ้นขายแก๊ส SGP ตกอยู่ในภาวะปิดฉากม้วนเสื่อกลับบ้านหรือไม่ ? ก็ขึ้นอยู่กับวันนี้ทะยานขึ้นมาปิดบวกได้ไหม ? หลังหุ้นลงมายืนปิดที่บริเวณแนวรับสุดท้ายอย่างเป็นทางการอีกครั้ง “โมนิก้า” ถึงรู้สึกลุ้นระทึกเมื่อเห็นหุ้นยืนปิดที่ระดับ 9.20 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือลงไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 47 ล้านบาท เพราะมันเป็นวันที่ชี้เป็นชี้ตายไงล่ะจ๊ะ
*อีกรายที่เข้าข่ายดังกล่าว “โมนิก้า” คงต้องหันไปมอง EPG เพื่อสะท้อนให้เห็นทิศทางของหุ้นที่โค้งตัวลงอย่างช้า ๆ สวนทางกับข่าวเม้าท์เกี่ยวกับทิศทางของธุรกิจที่ฟื้นตัว ผนวกกับช่วงนี้แรงซื้อขาดหายไปเป็นจำนวนมาก เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับพิจารณาการลงมายืนปิดที่ 6.45 บาท ลบไป 0.15 บาท หรือลงไป 2.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 41 ล้านบาท ใช่โอกาสของการเล่นรอบใหม่เมื่อเทียบกับค่า P/E 20 เท่าหรือเปล่า ? (หลังขึ้น XD)
*ประเด็นดังกล่าวคล้ายกับการเด้งขึ้นของหุ้นน้องใหม่แห่งตลาด mai ซึ่งเข้าเทรดได้เกือบเดือนอย่าง ARIN แต่ราคาหุ้นอยู่ในทิศทางขาลงลูกเดียว “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่น่าวิตกกังวลมากเหลือเกิน เพราะก่อนหน้านี้หุ้นยืนอยู่บริเวณ 1.70 บาท แต่วันนี้หุ้นเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ 0.90 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 9.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 29 ล้านบาท ก็ทำเป็นกระดี๊กระด๊าไปเสียแล้ว มันไม่ถูกเรื่องเลยพับผ่าสิ ! แถมขึ้นชื่อเป็นหุ้นการเมืองด้วยแล้ว..อย่าประมาทเป็นอันขาดเจ้าค่ะ