เซอร์ไพรส์ดอกเบี้ย

ดอกเบี้ยนโยบายปรับลดลงมา 0.25% นับว่าเซอร์ไพรส์มาก


ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

ดอกเบี้ยนโยบายปรับลดลงมา 0.25% นับว่าเซอร์ไพรส์มาก

ก่อนหน้านี้บรรดานักวิเคราะห์ และบุคคลในวงการตลาดเงิน ตลาดทุน ไม่มีใครคาดคิดว่า กนง.จะลดดอกเบี้ย

ส่วนใหญ่ มองว่า ดอกเบี้ยนโยบายจะคงไว้ที่ระดับ 1.50%

และหากจะมีการปรับลดลงมานั้น

กนง.อาจจะต้องรอดูท่าทีของ ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในการประชุมครั้งต่อไปว่าจะออกมาอย่างไร

ทว่า ครั้งนี้ กนง. ไม่ต้องรอทั้งเฟด และ ECB เลย

แต่ชิงปรับลดลงมาก่อน นัยสำคัญว่า เป็นเรื่องเร่งด่วน และเป็นการตั้งมือรับและพร้อมรุกกับสงครามค่าเงิน และการค้าที่กำลังฝุ่นตลบอยู่ในขณะนี้

การประชุมของ กนง.ในครั้งต่อไปคือ 25 กันยายน 2562

กนง.อาจจะมองว่า หากไปรอปรับลดดอกเบี้ยตอนนั้น ก็อาจจะไม่ทันกับเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

ย้อนกลับมาที่เหตุผลของ กนง.ที่ปรับลดดอกเบี้ยลงล่าสุด

กนง.มองว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่คาดไว้ครับ

และระบุว่าการชะลอตัวของภาคส่งออกเริ่มส่งผลต่ออุปสงค์ในประเทศ ถูกประเมินว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจมีโอกาสที่จะต่ำกว่าระดับศักยภาพ

ส่วนสถานการณ์ปัจจัยแวดล้อมไม่ได้เอื้อต่อการส่งออก การท่องเที่ยว การบริโภคเอกชน การลงทุนภาคเอกชน

และการใช้จ่ายของภาครัฐ ด้านแรงกดดันด้านราคา กนง. มองว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมายในช่วง 1-4%

และมาถึงประเด็น หรือปัจจัยสำคัญ คือ การแข็งค่าของ “เงินบาท” ยังเพิ่มความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น

แน่นอนว่า การลดดอกเบี้ยนโยบายครั้งนี้เป็นไปตามทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของโลกที่ผ่อนคลายลง

จากข้อมูลพบว่า ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมามีธนาคารกลางถึง 5 จาก 11 ประเทศที่ลดดอกเบี้ยนโยบายลงเช่นกัน

เช่น ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางของอินเดีย

และทำให้ถูกมองว่า ธนาคารกลางกำลัง “แข่งขันการผ่อนคลายนโยบายการเงิน”

ส่วนบรรดานักวิจัยด้านตลาดเงินต่างยังไม่แน่ใจว่าการตัดสินใจลดดอกเบี้ยนโยบายจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน

พวกเขาต่างมองว่าดอกเบี้ยอยู่ระดับต่ำอยู่แล้ว

ทว่า แนวโน้มต่อไป อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะยังคงอยู่ที่ 1.50% ตลอดช่วงที่เหลือของปีนี้

และประเด็นสงครามการค้าโลกจะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะมีผลต่อการปรับมุมมองของนักวิจัย และนักวิเคราะห์

แน่นอนว่า นอกจากจะส่งผลต่อค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง

ในด้านตลาดหุ้นเมื่อวานนี้ หลังจากเปิดตลาดภาคบ่าย หุ้นที่ได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยปรับลง ต่างพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง

กลุ่ม คอนซูเมอร์ไฟแนนซ์ นำโดย MTC SAWAD AMANAH และ THANI ปิดตลาดบวกกันมากกว่า 5%

ส่วนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ก็ได้รับประโยชน์เช่นกัน

เช่นเดียวกับกลุ่มท่องเที่ยวที่รับประโยชน์จากค่าบาทอ่อนลงนำโดย  AOT และ MINT

AOT เมื่อวานนี้ช่วงภาคเช้ายังเคลื่อนไหวในแดนลบ

แต่พอเปิดตลาดมาภาคบ่าย กลับวิ่งขึ้นสู่แดนบวกทันที และปิดตลาด +0.25 บาท ปิดที่ 69.50 บาท

ที่น่ากังวลคือกลุ่มธนาคารพาณิชย์ นำโดย 4 ธนาคารขนาดใหญ่ BBL KTB SCB และ KBANK ราคาหุ้นพากันร่วงระนาว จากดอกเบี้ยขาลง เพราะจะทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยแคบลง

วันนี้ไม่แน่ใจว่าราคาหุ้นจะฟื้นหรือเปล่า

คงต้องรอนักวิเคราะห์ดีดลูกคิดว่าจะมีผลกระทบขนาดไหน และอย่างไร

Back to top button