TMB – TBANK จบดีล

ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

วันนี้ (9 ส.ค.) ผู้บริหารของทั้ง 2 สถาบันการเงินคือ TMB กับ TCAP หรือ ทุนธนชาต จะแถลงข่าวร่วมกัน

เท่ากับว่า เป็นการสิ้นสุดการรอคอย “ความชัดเจน” เกี่ยวกับรายละเอียดการควบรวมกิจการกันระหว่าง TMB กับ TBANK ในครั้งนี้ว่า จะออกมารูปแบบไหนกันแน่

ก่อนหน้านี้ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” นำเสนอข่าวนี้แบบเกาะติดมาโดยตลอด

ทว่า ข้อมูลที่ได้รับนั้น แม้จะมีการระบุเรื่องของราคาที่จะใช้ในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนของแต่ละฝ่ายออกมา

แต่นั่นเป็นเพียงประมาณการ

รวมถึงสัดส่วนการถือหุ้นของแต่ละฝ่ายทั้งกระทรวงการคลัง ทุนธนชาต (TCAP กลุ่มไอเอ็นจี และโนวาสโกเทีย) ใน “ธนาคารแห่งใหม่” ที่อยู่ภายใต้สูตร A+B = C

ข้อมูลเบื้องต้น มูลค่าการเพิ่มทุนครั้งนี้จะอยู่ที่ประมาณ 1.3 แสนล้านบาท

“กลุ่มไอเอ็นจี” จะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุด

รองลงมากลุ่มทุนธนชาต กระทรวงการคลัง และในส่วนของโนวาสโกเทีย จะถือน้อยสุดหลังจากเพิ่มทุนแบงก์ใหม่ และจะทยอยลดสัดส่วนไปจนเหลือ 0%

แน่นอนว่า นักลงทุนที่ถือหุ้น TMB อยู่ ต่างต้องการรับทราบว่า ราคาที่จะใช้สิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนนั้นอยู่ที่เท่าไหร่

เข้าใจว่าวันนี้น่าจะมีคำตอบได้

ขณะที่ราคาหุ้นล่าสุดของ TMB ที่ปิดเมื่อวานนี้อยู่ที่ 1.79 บาท

น่าจะสะท้อนเกี่ยวกับราคาซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ TMB ได้บ้าง หรือ อาจจะ บวก/ลบ ไม่ต่างจาก 1.79 บาทไปมากนัก

ทั้งคลัง ผู้ถือหุ้น (รายย่อย) TMB และกลุ่มไอเอ็นจี น่าจะใช้ราคาซื้อหุ้นเพิ่มทุนในราคาเดียวกัน

ส่วนของธนชาต ราคาจะสูงขึ้นมาหน่อย

ว่ากันว่า อาจจะมากกว่าระดับ 2.00 บาท

คำแนะนำของนักวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้น TMB แต่ละโบรกฯ แตกต่างกันไปครับ

มีทั้งแนะ ซื้อ, ถือ และขาย

เช่นเดียวกับราคาเป้าหมายจาก 15 โบรกฯ ให้ราคาสูงสุด 2.67 บาท และต่ำสุด 1.84 บาท ส่วน IAA Consensus Target Price หรือราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 2.12 บาทต่อหุ้น

นับจากวันนี้ หากมีการระบุเรื่องราคาซื้อหุ้นเพิ่มทุนออกมาชัดเจน

เชื่อว่า น่าจะทำให้ราคาหุ้นของ TMB มีเสถียรภาพมากขึ้น

และจะรู้ว่าราคาหุ้นควรจะไปในทิศทางใดกันแน่

ระหว่าง การวิ่ง “เพิ่มขึ้น” หรือ อาจจะปรับ “ลดลง”

และแน่นอนอีกว่า เมื่อมีความชัดเจนเรื่องการควบรวมนั้น การประมาณการผลประกอบการของ TMB หรือแบงก์ใหม่จากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ต่าง ๆ นั้น จะเปลี่ยนแปลงไป

เพราะอาจจะไม่ได้ดูจากผลประกอบการของ TMB อย่างเดียว

แต่จะมองข้ามไปว่า  แบงก์ใหม่ที่เกิดขึ้นมา ผลประกอบการจะเป็นอย่างไร

และราคาหุ้นก็น่าจะเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน

ทว่า กระบวนการหรือขั้นตอนการควบรวมกิจการกันนั้น อาจจะต้องใช้เวลาอีกพอสมควร กว่าจะแล้วเสร็จในทุกขั้นตอน

ซึ่งจากการที่มีการประเมินกันไว้คือ อาจจะ 1-2 ปีนับจากนี้

หรืออาจจะเร็วกว่านั้นก็ได้

ส่วนทางด้านฝั่ง TCAP ก็น่าจะมีการปรับทัพทางธุรกิจใหม่ด้วยเช่นกัน

รวมถึงการขายหุ้น “ราชธานีลิสซิ่ง” (THANI) ออกมา เพราะไม่เช่นนั้นจะไป Conflict  กับธนาคารแห่งใหม่

(ใกล้) จบดีลซะที TMB กับ TBANK