สังคมข่าวหุ้น

*เส้นกราฟดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ เหมือนกับรถไฟเหาะตีลังกา ดูแล้วเวียนหัวมาก เดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวลง และพอมาปิดตลาดก็ไม่รอดจริง ๆ ลบ 4.32 จุด มาที่ 1,665.12 จุด มูลค่าการซื้อขายยังหนาแน่น 62,650 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาซื้อสุทธิ 9,256 ล้านบาท ส่วนกองทุนขายตามระเบียบ หลังจากวันก่อนหน้านี้ซื้อไปเกือบ 5 พันล้านบาท


คาเฟอีน

*เส้นกราฟดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ เหมือนกับรถไฟเหาะตีลังกา ดูแล้วเวียนหัวมาก เดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวลง และพอมาปิดตลาดก็ไม่รอดจริง ๆ ลบ 4.32 จุด มาที่ 1,665.12 จุด มูลค่าการซื้อขายยังหนาแน่น 62,650 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาซื้อสุทธิ 9,256 ล้านบาท ส่วนกองทุนขายตามระเบียบ หลังจากวันก่อนหน้านี้ซื้อไปเกือบ 5 พันล้านบาท

*เขียนถึงกลุ่มนักลงทุนสถาบัน ประเภทกองทุนที่ขายหุ้นออกมาต่อเนื่อง ผ่านมาจนถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครรู้ว่าจะหยุดขายเมื่อไหร่ แต่ที่แน่ ๆ คือ กองทุนจะถือเงินสดนานไม่ได้ และเงินสดที่ถือนั้น ก็จะเกินสัดส่วนที่กำหนดไว้เมื่อเทียบกับมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดก็ไม่ได้ ดังนั้น กองทุนจะต้องนำเงินที่ได้จากการขายหุ้นเข้าไปลงทุนต่อในตลาดหุ้นนั่นแหละ เพียงแต่ว่า อาจจะย้ายกลุ่มเปลี่ยนตัวเล่น ส่วนจะเป็นกลุ่ม และหุ้นตัวไหน ต้องคอยติดตามข้อมูลกัน เบื้องต้นอยู่ในกลุ่ม SET100 แน่นอน และอีกส่วนหนึ่งน่าจะกันเงินไว้เพื่อลงทุนในหุ้นไอพีโอที่เหลือของปีนี้

*หุ้นทีคิวเอ็มฯ หรือ TQM แนวโน้มกำไรไตรมาส 2/2562 โบรกฯ คาดกำไร 115 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% สำหรับหุ้นตัวนี้มีนักลงทุนรายใหญ่เข้ามาซื้อ ๆ ขาย ๆ อยู่ รวมถึงคนในกลุ่มอัลตร้า เวลท์ และอีกหลายกองทุน ส่วนราคาเคยขึ้นไปสูงสุด 49.25 บาท เมื่อต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา แล้วก็ค่อย ๆ ปรับลงมา ล่าสุดมาอยู่ที่ 41.25 บาท โดยราคาเคลื่อนไหวในกรอบ 40-43 บาท มาหลายวันละ ไม่แน่ใจว่าช่วงที่ราคาลงมา เพราะกองทุนขายปรับพอร์ตหรือเปล่า

*BAY แบงก์กรุงศรีฯ ภายใต้การควบคุมของกลุ่ม MUFG ล่าสุดบอร์ดของแบงก์อนุมัติเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 50% ของหุ้นที่ออกและชำระแล้วใน SB Finance Company (SBF) บริษัทไฟแนนซ์ในฟิลิปปินส์ที่เติบโตสูงจาก Security Bank Corporation (SBC) มูลค่าการลงทุนเบื้องต้น 1,828.2 ล้านเปโซฟิลิปปินส์ หรือ 1,096.9 ล้านบาท บนฐานส่วนของผู้ถือหุ้น SBF ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2562 ที่ 1,507.20 ล้านเปโซฟิลิปปินส์ หรือคิดเป็น 904.3 ล้านบาท

*เมืองไทย แคปปิตอล หรือ MTC แจ้งงบ กำไรกว่า 1,021 ล้านบาท ต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาดเล็กน้อย หรือ 7% แต่ด้วยราคาที่วิ่งขึ้นมาค่อนข้างสูง ทำให้เกิดการขายทำกำไรออกมา ราคาหุ้นร่วงลงแรง 8.20% (ปิด 58.75 บาท) แต่ในมุมมองนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ “ถือ” และ “ซื้อ” หลังราคาลงมา และมองว่าครึ่งปีหลังน่าจะปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์ได้มากขึ้น และต้นทุนทางการเงินจะลดลงจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยเป็นขาลง

*หลังกนง.ลดดอกเบี้ยนโยบายลงมา 0.25% ลงมาเหลือ 1.50% ล่าสุดบรรดานักวิจัยของสถาบันการเงินต่าง ๆ ออกมาคาดกันว่า มีโอกาสสูงที่ดอกเบี้ยจะปรับลงมาอีก 0.25% ในปีนี้ เพราะจะต้องรับมือกับสงครามการค้า และสงครามค่าเงินที่รุนแรงแน่นอน ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารฯ โดยเฉพาะ 4 แบงก์ใหญ่ KBANK KTB BBL และ SCB น่าจะได้รับผลกระทบบ้าง แต่ต้องมาดูกันอีกครั้งว่า จะกระทบมากน้อยแค่ไหน

*สำหรับ SCB ไทยพาณิชย์ ราคาฟื้นขึ้นมาค่อนข้างเร็ว วานนี้ปิดบวก 0.50 บาท มาที่ 132.00 บาท เพราะแม้จะรับผลลบจากดอกเบี้ยขาลง แต่อย่าลืมว่ามีปัจจัยหนุนจากการขายหุ้น SCBLIFE ที่จะแล้วเสร็จในปีนี้แน่นอน และน่าจะบันทึกรายได้ทัน ส่วนเงินจะนำไปใช้อะไรบ้างทั้งจ่ายเงินปันผลพิเศษ ลงทุนเพิ่มเติม และตั้งสำรองฯ ก็ต้องรอขั้นตอนที่จะต้องดำเนินการกับคปภ.และธปท.ให้แล้วเสร็จทั้งหมดก่อนนั่นแหละ

*บมจ.พีพี ไพร์ม (PPPM) เมื่อวานนี้ราคาหุ้นลงไปฟลอร์ (-0.59 บาท มาที่ 1.38 บาท เปลี่ยนแปลง -29.95%) หลังตลาดปลดเครื่องหมาย SP ส่วนวันนี้ต้องมาลุ้นอีกว่าจะลงไปฟลอร์อีกหรือไม่ เพราะหุ้นแบบนี้หาแนวรับไม่เจอ เผลอ ๆ มีโอกาสลงไปต่ำกว่า 1 บาท ส่วนผู้บริหารเอง บอกว่า PPPM เตรียมขายหุ้นในบมจ.เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป (ACAP) และบมจ.สตาร์ ยูนิเวอร์แซล เน็ตเวิร์ค (STAR) รวมถึงที่ดินและโรงไฟฟ้าในญี่ปุ่นเพื่อนำเงินมาชำระหนี้หุ้นกู้

Back to top button