เคาะขวาสั้น ๆ

*ดูเหมือนสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยยังมีประเด็นที่ต้องคิดเยอะแยะมากมาย ทำให้นักเล่นเลือกเคาะขวาสั้น ๆ เพื่อหลบหลีกผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง พร้อมกับผันตัวเองเข้าสู่โหมดเซฟตี้โซนกันมากขึ้น ย่อมสะท้อนถึงบรรยากาศการลงทุนในช่วงก่อนวันหยุดยาว ไม่น่าจะมีเรื่องมุมบวก ๆ ให้นักลงทุนได้ชื่นใจสักเท่าไหร่ ซึ่งทำให้การซื้อลงทุนระยะยาวน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสุดนะจะบอกให้


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ดูเหมือนสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยยังมีประเด็นที่ต้องคิดเยอะแยะมากมาย ทำให้นักเล่นเลือกเคาะขวาสั้น ๆ เพื่อหลบหลีกผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง พร้อมกับผันตัวเองเข้าสู่โหมดเซฟตี้โซนกันมากขึ้น ย่อมสะท้อนถึงบรรยากาศการลงทุนในช่วงก่อนวันหยุดยาว ไม่น่าจะมีเรื่องมุมบวก ๆ ให้นักลงทุนได้ชื่นใจสักเท่าไหร่ ซึ่งทำให้การซื้อลงทุนระยะยาวน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสุดนะจะบอกให้

*เนื่องจากสิ่งที่เห็นชัดในเที่ยวนี้คือ นักเล่นกลุ่มสถาบันยังคงเดินหน้าปรับพอร์ตเพื่อความคล่องตัว ซึ่งทำให้ตลาดหุ้นไทยตกอยู่ในภาวะผันผวนถี่ขึ้นเรื่อย ๆ “โมนิก้า” ถึงเข้าใจเหตุผลที่ทำให้ดัชนีแกว่งตัวไปมาตลอดทั้งวัน ก่อนจะลงเอยด้วยการยืนปิดที่ระดับ 1,665.12 จุด ลบไป 4.32 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.26 หมื่นล้านบาท เพราะไม่มีประเด็นที่ทำให้นักเล่นอยากกอดหุ้นต่อไปน่ะซี

*เมื่อรูปการณ์ออกมาในโทนนี้ต้องเฟ้นหุ้นรายตัวมากขึ้น และนักเล่นพยายามเคาะหุ้นที่ลงมาแตะแนวรับสำคัญ “โมนิก้า” ถึงต้องโอนอ่อนไปตามกระแสที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้ และเริ่มกวาดสายตามองหาหุ้นเป้าหมายที่เหมาะต่อการถือจริง ๆ ซึ่งเที่ยวนี้ก็เห็นหุ้นหลายตัวที่มีพัฒนาการที่ดีขึ้น จึงขอเม้าท์หุ้นแบบรวม ๆ เพื่อเสนอเป็นทางเลือกให้กับคนที่ต้องการซื้อหุ้นเก็บไว้ในพอร์ตพะยะค่ะ

*พระเอกของวันที่กลายเป็นตัวเลือกแรกที่หุ้นลงมาถึงแนวรับแล้วเด้งกลับคงต้องยกให้ AOT นำโด่งในมุมของความสามารถเฉพาะตัว ผนวกกับเห็นลีลาการเคาะหุ้นไล่ขึ้นไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายขึ้นมาปิดที่บริเวณ 71 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 2.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.86 พันล้านบาท เดี๊ยนย่อมมองเป็นจุดของการเล่นรอบใหม่อย่างแน่นอน แต่จะไปได้ไกลขนาดไหนต้องติดตามดูกันเอาเองจ้า !

*เหมือนกับในรายของ CPALL ทำท่าหมดแรงเหมือนจะไปต่อไม่ไหว แต่ดันมีแรงซื้อเข้ามาตั้งแต่วันก่อน แถมวานนี้ยังไล่ซื้อแบบไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น จนหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 87.50 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 1.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.32 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่เดาใจยากเหลือเกิน และยังไม่เข้าใจเหตุผลที่ทำให้หุ้นเดินหน้าขึ้นไปไม่หยุดสักที จึงต้องให้ขาลุยประเมินสถานการณ์กันเอาเองนะจ๊ะ

*อีกรายที่เด้งสวนแบบไม่น่าเชื่อ จนบรรดาแมงลือร้องวี้ดว้ายกระตู้วู้กันยกใหญ่ “โมนิก้า” คงเทน้ำหนักไปที่หุ้น GPSC เป็นรายถัดไปในทันที หลังเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาเรื่อย ๆ ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 71.50 บาท บวกไป 3.75 บาท หรือขึ้นไป 5.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.03 พันล้านบาท มันเป็นเกมที่นักเล่นคาดหวังที่จะได้เห็นยอดเก่าบริเวณ 75 บาท อีกครั้งแหง ๆ ถึงเดินหน้าใส่กันอุตลุดนะคะ

*คล้ายกับกรณีของพ่อดอกมะลิ JAS ทำท่าเฉย ๆ นิ่ง ๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่เผลอปุ๊บ..กลับวิ่งปั๊บ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่โอเวอร์แอ็กติ้งเกินไปหน่อยสำหรับมุกเดิม ๆ ที่เอามาปั่นกระแส เพราะมันไม่มีอะไรที่ทำให้เชื่อว่า หุ้นจะวิ่งขึ้นมายืนปิดที่ 6.65 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 5.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.42 พันล้านบาท เดี๊ยนไม่สามารถอธิบายได้ว่า what happen !

*อีกหนึ่งรายที่มาในแนวเดียวกัน ต้องมองไปที่ TKN เพื่อทำให้เห็นว่า การขึ้นมาปิดที่ระดับ 10.30 บาท บวกไป 0.85 บาท หรือขึ้นไป 9% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 301 ล้านบาท มันควรมีคำอธิบายที่ดีในการสื่อให้รู้ว่า ไม่ได้ลวงโลก ! เพราะก่อนหน้านี้มีการเม้าท์ให้แซ่ดว่า มีของดีรอโชว์แบบชุดใหญ่ไฟกะพริบ แต่จนแล้วจนรอดยังไม่มีอะไรออกมาให้เห็นสักที จนกองเชียร์เริ่มเกิดอาการเซ็งตามกันแบบนี้..ลุยหรือไม่ลุย อยู่ที่ตัวเม่าแล้วละค่ะ

*เหมือนกับอาการของหุ้นบันเทิงเริงรำ RS ทะยานขึ้นมาปิดที่ 16.20 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 3.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 160 ล้านบาท แถมเป็นการบวกแรงวันแรก หลังจากแกว่งตัวขึ้น ๆ ลง ๆ มาพักใหญ่ “โมนิก้า” มองไม่ออกจริง ๆ หุ้นจะไปอย่างไรต่อ ? เพราะปัจจัยหนุนที่ส่งผลดีต่อหุ้นตัวนี้ไม่ชัดเจนสักอย่าง ผสานกับตลาดหุ้นยังเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิงแบบนี้ ดูให้ชัวร์แล้วค่อยลุยดีกว่านะคะ

*ก่อนจากกัน “โมนิก้า” ขอเม้าท์เรื่องดี ๆ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับนักเล่นอีกนิดหนึ่ง หลังพรายกระซิบคอนเฟิร์มจากคนย่านสาทรว่า TQM ภายใต้การกุมบังเหียนของ “อัญชลิน พรรณนิภา” กำลังซุ่มทำดีลกับแบงก์ชั้นแนวหน้าของไทย เพื่อออกผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาดในอนาคตอันใกล้ เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า กำไรปี 2562 จะปังสุด ๆ ค่าพี/อีจะลดลงฮวบ พร้อมกับเปิดโอกาสให้หุ้นถีบตัวขึ้นอีกแบบนี้ คงต้องกระโจนใส่สถานเดียว เพราะราคาปิดที่ 41.25 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 3.50% กลายเป็นราคาที่เล่นได้น่ะซี

Back to top button