1,650 เป้าถัดไป
*หลังจาก “โมนิก้า” เม้าท์ถึงสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยวนไปวนมาพอหอมปากหอมคอ ก็ถึงเวลาไล่ซื้อหุ้นรอบใหม่อย่างเต็มตัวอีกครั้ง ซึ่งเที่ยวนี้เป็นการเอาความเชื่อเกี่ยวกับมาตรการทางการคลังเข้ามาเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก จึงกลายเป็นแรงกระตุ้นให้เหล่านักเล่นหวนกลับเข้ามาไล่ราคาหุ้นกันอีกครั้ง ส่งผลให้บรรยากาศของตลาดหุ้นไทยสดใสขึ้นเป็นกองนะจะบอกให้
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*หลังจาก “โมนิก้า” เม้าท์ถึงสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยวนไปวนมาพอหอมปากหอมคอ ก็ถึงเวลาไล่ซื้อหุ้นรอบใหม่อย่างเต็มตัวอีกครั้ง ซึ่งเที่ยวนี้เป็นการเอาความเชื่อเกี่ยวกับมาตรการทางการคลังเข้ามาเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก จึงกลายเป็นแรงกระตุ้นให้เหล่านักเล่นหวนกลับเข้ามาไล่ราคาหุ้นกันอีกครั้ง ส่งผลให้บรรยากาศของตลาดหุ้นไทยสดใสขึ้นเป็นกองนะจะบอกให้
*เมื่อปัจจัยที่เกี่ยวข้องเดินมาในทางบวกสุด ๆ “โมนิก้า” ย่อมทำตัวไหลตามน้ำไปกับเขาด้วยแบบไม่มีเงื่อนไข พร้อมกับหันมาให้ความสำคัญกับหุ้นบลูชิพในทันที เพราะเป็นแกนหลักที่นักลงทุนสถาบันเข้าลุยแบบสุดซอย วานนี้ถึงเห็นดัชนีวิ่งขึ้นมายืนปิดที่ 1,638.24 จุด บวกไป 12.67 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.68 หมื่นล้านบาทอย่างง่ายดาย พร้อมกับแสดงความต้องการขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปในทันทีเจ้าค่ะ
*วันนี้ถึงต้องโฟกัสไปยังแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,650 จุดเป็นด่านแรก เพราะเป็นจุดหลักในการยกตัวเพื่อขึ้นไปสร้างฐานใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิม และทุกครั้งที่เห็นดัชนีย่ำฐานบริเวณดังกล่าวสักระยะหนึ่ง ต่อจากนั้นมักเห็นดัชนีเดินหน้าขึ้นไปเป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ เพราะมันเป็นเรื่องจริงที่เคยพิสูจน์ให้เห็นมาแล้วหลายรอบน่ะซี
*เหมือนกับการทะยานขึ้นของหุ้น GULF ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 133 บาท บวกไป 8 บาท หรือขึ้นไป 6.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.39 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้เห็นประจำในช่วงที่ฝรั่งกลับลำเข้ามาซื้อหุ้นไทย บวกกับเที่ยวนี้เป็นการเด้งแรงพรวดเดียว จนขึ้นมาทำ all time high แบบไร้ข้อกังขา จึงเป็นจังหวะของการตามไปดูแบบหวังผลได้นะจ๊ะ
*อีกรายที่มาแรงไม่ใช่ย่อยต้องมองไปที่ CPALL เป็นรายถัดไปในทันที เพราะเมื่อมองดูจากอาการ “คอพับคออ่อน” หลายรอบที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ แต่สุดท้ายหุ้นวิ่งกลับขึ้นมาได้ทุกที “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่น่าศึกษาแบบเกาะติดขอบสนาม เพราะหุ้นมีโอกาสขึ้นมากกว่าลง แถมวานนี้หุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 86.50 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.31 พันล้านบาท จึงมีโอกาสทะลุยอดเดิมแถว 88 บาทสูงเจ้าค่ะ
*ส่วนรายที่มีสตอรี่อัดแน่น และทยอยปล่อยออกมาเรื่อย ๆ อย่างหุ้น PTG กลายเป็นช็อตเด็ดของนักเล่นขาประจำไปเสียแล้ว บวกกับตัวเลขกำไรก็มาตามนัดทุกอย่าง “โมนิก้า” ถึงมองการวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 20.90 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือขึ้นไป 5.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 676 ล้านบาท ยังมีแก๊ปให้โหนกระแสได้อย่างแน่นอน เพราะเกมนี้เขาเม้าท์กันว่า เล่นกันยาวนะคะ
*สำหรับในรายของหุ้น EA กำลังตั้งเกมรอบใหม่ พร้อมกับมีแรงซื้อไหลเข้ามาอีกครั้งแบบนี้ “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นช็อตของการกระโจนใส่แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะแวลูที่กูรูสำนักต่าง ๆ ประเมินไว้อยู่แถว 60 บาทเป็นอย่างต่ำ ขณะที่วานนี้หุ้นเพิ่งขึ้นมายืนอยู่ที่ระดับ 48.75 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 835 ล้านบาท จึงเหลือแก๊ปให้หุ้นวิ่งอีกบานตะไทพะยะค่ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ THANI มีข่าวพัวพันกับเรื่องคนมาเทกโอเวอร์เป็นระยะ เพราะธุรกิจมีแวลูที่เอาไปต่อยอดได้สบาย ๆ จึงไม่ต้องแปลกใจที่หุ้นตัวนี้อยู่ในโฟกัสของสมาคมแมงลือแห่งประเทศไทยเป็นประจำ และการขึ้นมาปิดที่ระดับ 7.05 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 5.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 243 ล้านบาท ก็เป็นช็อตของการเล่นสั้น ๆ เพื่อรอข่าวจริงปรากฏก็เท่านั้นเองจ้า!
*เม้าท์ถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ย่อมเล็งเป้าไปยังหุ้น JMART ในทันที เพราะการกลับมาเที่ยวนี้เป็นการมาด้วย “ธุรกิจดีจริง..กำไรดีจริง” แถมบรรดาบริษัทลูก ๆ ก็ทำเงินเป็นกอบเป็นกำ เดี๊ยนถึงมองการขึ้นมายืนปิดที่ 11.40 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 5.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 74 ล้านบาท ยังมีแก๊ปให้วิ่งอีกเพียบเช่นกัน ซึ่งครั้งก่อนเคยประเมินราคาเป้าหมายคร่าว ๆ ไว้แถว 18 บาท แต่พรายกระซิบยืนยันหนักแน่นว่า 24 บาทชัวร์ป้าบ!
*อีกรายที่ทรงมาค่อนข้างดีอย่าง PSTC ถือเป็นเกมที่ขาลุยหุ้นต่ำบาทห้ามพลาดเป็นอันขาด เพราะแวลูที่บรรดาขาเม้าท์มองไว้อยู่แถว ๆ 1 บาท ขณะที่วานนี้หุ้นยืนปิดอยู่ที่ระดับ 0.76 บาท บวกไป 0.03 บาท หรือขึ้นไป 4.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 120 ล้านบาท จึงกลายเป็นหุ้นทางเลือกที่บรรดานักเล่นน่าจะลองรับไว้พิจารณาบ้าง เพราะเที่ยวนี้วอลุ่มเขาอัดมาแน่นจริง ๆ นะนายจ๋า!