กฎหมายท่วมประเทศ

ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

ผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย นายกฯ กล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญและละเมิดสิทธิเสรีภาพของนักศึกษารามคำแหงที่มาร้องหรือไม่ แต่ในขณะเดียวกัน ผู้ตรวจฯ ก็เห็นว่าถวายสัตย์ฯ ไม่ครบเป็นเรื่องของการกระทำ ไม่ใช่ประเด็นว่าข้อความมีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

ชาวบ้านฟังแล้วยังงง ๆ แต่ส่วนใหญ่ไม่กังวล เพราะเห็นประยุทธ์อารมณ์ดี มีความสุข ไม่ยักรู้สึกเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย นี่ถ้าเป็นนายกฯ เพื่อไทย คงหน้ามืดดำคร่ำเครียด รัฐบาลแทบล่มสลาย

ไม่เห็นต้องกลัวอะไรกับความยุติธรรม ดูอย่าง “หมอธี” อดีตรัฐมนตรีศึกษาธิการ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ภริยาถือหุ้นสัมปทานรัฐ ต้องตกเก้าอี้ ห้ามดำรงตำแหน่ง 2 ปี

หมอธีน้อมรับคำวินิจฉัยแต่โดยดี เพราะวันนี้ลาออกจากรัฐมนตรีไปเป็น ส.ว.แล้ว แม้ยังมีข้อถกเถียง ว่าเป็น ส.ว.ได้หรือไม่ อดีต กรธ. 2 รายเห็นต่างกัน

เรื่องขำ ๆ ก็คือคดีนี้ “หมอธี” สุวิทย์ เมษินทรีย์ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล และไพรินทร์ ชูโชติถาวร โดนร้องมาตั้งแต่ ม.ค. ก.พ.61 แต่ กกต.เพิ่งมีมติส่งศาลเมื่อ ม.ค. 62 ต่างกับธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กกต.ส่งศาลทันทีหลังประกาศรับรองผลเลือกตั้ง ศาลจะวินิจฉัยเร็ว ๆ นี้ว่า สมาชิกภาพ ส.ส.สิ้นสุดลงหรือไม่ ซึ่งใครก็รู้ว่า ส่งผลทางการเมืองต่างกัน

รัฐธรรมนูญ 2540 ที่ถูกรัฐประหาร เปลี่ยนเป็นรัฐธรรมนูญ 2550, 2560 ยิ่งมายิ่งกำหนดข้อห้าม คุณสมบัติ ให้อำนาจศาล องค์กรอิสระ วินิจฉัยการกระทำ ซึ่งมีผลให้ ส.ส. รัฐมนตรี ตกเก้าอี้ ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ได้ง่าย ๆ ทั้งที่ไม่มีประเทศประชาธิปไตยประเทศไหนในโลก กำหนดกติกาถี่ยิบอย่างนี้

เอาง่าย ๆ ไม่มีประเทศไหนในโลก ที่นักการเมืองทั้งระดับประเทศและท้องถิ่น ถูกลงโทษถูกตัดสิทธิมากมาย เพียงเพราะไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สิน โดย ป.ป.ช.ไม่ได้พิสูจน์ต่อไปว่า เหตุที่ไม่แจ้งนั้นมาจากการทุจริตหรือไม่

การเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินนักการเมืองในประเทศไทย ก็กลายเป็นมหกรรมหรือ Circus สนุกสนานกับการวิพากษ์วิจารณ์ มากกว่าให้ประชาชนช่วยกันตรวจสอบว่า มีทรัพย์สินซุกซ่อนหรือไม่

ส.ส.รายหนึ่งก็เลยแจ้งว่ามีเงินในบัญชีแค่ห้าพัน มีห้าพันมาตั้งแต่เป็น อบจ. ไม่เคยลดเคยเพิ่ม เงินก็ขอแม่ใช้ รถก็ยืมเพื่อนใช้ หาเสียงก็มีเพื่อน อบจ.สนับสนุน แจ้งแบบนี้ไม่ต้องกลัวผิด

รัฐมนตรีเคยขี่เครื่องบิน อ้าว ไม่มีในบัญชีทรัพย์สิน ก็ของพี่ชาย ไม่จำเป็นต้องแจ้ง

กฎกติกาที่ล้นเกินมันไปลบเจตนารมณ์ประชาชน ซึ่งเป็นกติกาพื้นฐาน ส.ส.ได้รับเลือกจากความนิยม หากไม่มีการทุจริตจนถึงขั้นเปลี่ยนคะแนนนิยมได้ ก็ไม่ควรส่งผลให้ตกเก้าอี้

แต่กติกาแบบนี้ ก็ยังมีคนลอดช่องได้ เช่นไพบูลย์ นิติตะวัน จะยุบพรรคตัวเอง แล้วอาศัยรัฐธรรมนูญมาตรา 101 สังกัดพรรคพลังประชารัฐใน 60 วัน ทำให้เมื่อ กกต.แจกใบเหลืองใบแดงสั่งเลือกตั้งใหม่ คำนวณจำนวน ส.ส.ใหม่ ไพบูลย์ก็ไม่ต้องเดือดร้อนกับใคร อยู่ยงคงกระพัน

ขณะที่รัฐบาลเอง ซึ่งควรเป็นผู้ถูกตรวจสอบ กลับใช้อำนาจสบายใจ ออก พ.ร.ก.ชะลอ พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาและคุ้มครองสถาบันครอบครัว ทั้งที่รัฐธรรมนูญให้ออก พ.ร.ก.เมื่อเป็นกรณีฉุกเฉินจำเป็นเร่งด่วนเท่านั้น

ใช่เลยครับ พ.ร.บ.ฉบับนี้มีปัญหา ก่อนนี้ก็มีคนค้าน แต่ สนช.ดันทุรังผ่านออกมาเมื่อ 15 ก.พ. จนมีผลบังคับใช้วันที่ 20 ส.ค. อีก 3 วันจึงออก พ.ร.ก.ให้ชะลอ โดยอ้างว่ากระทรวงพัฒนาสังคมยังไม่พร้อม เล่นง่ายยังกับสมัยมี ม.44

ท่ามกลางคำพูดพร่ำ ประชาชนต้องเคารพกฎหมาย รู้หรือยัง ทำไมคนไทยชอบฝ่าฝืนกฎหมาย ทำไม มอเตอร์ไซค์ยังขี่บนทางเท้า ไม่ว่าแท็กซี่หรือรถหรู ก็ปาดคอสะพาน