สังคมข่าวหุ้น

คาเฟอีน

*กองทุนสบช่องช่วงตลาดหุ้นปรับลงมาค่อนข้างมาก หุ้นหลายตัวราคาลงมาต่ำกว่าพื้นฐาน เข้ามาดักเก็บเข้าพอร์ต ทำให้ดัชนีปิดตลาดพุ่งขึ้นมา +22.21 จุด มาที่ 1,639.14 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายกว่า 59,622 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า 4,883 ล้านบาท ส่วนรายย่อย ต่างชาติ และพอร์ตโบรกฯ ต่างขายสุทธิทั้งหมด หรือรุมกินโต๊ะแบบ 3 : 1 ส่วนแนวโน้มวันนี้ ตลาดฯ ยังมีโมเมนตัมเชิงบวกอยู่นะ แต่ยังต้องจับตาตัวเลขจีดีพีของสหรัฐฯ ที่ประกาศเมื่อคืนนี้ด้วย

*นักลงทุน “ขายหมู” หุ้นแบงก์กรุงเทพ BBL มา 3 วันทำการติดต่อกัน ทั้งที่สัปดาห์หน้า (4 ก.ย.) จะขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายเงินปันผล 2.00 บาทต่อหุ้น แถมยังมีข่าวจาก “ชาติศิริ โสภณพนิช” บิ๊กบอสของ BBL ว่าจะปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากลงมา และน่าจะทำให้ตัวเลข NIM ดีขึ้น ส่งผลต่อกำไรสุทธิในปีนี้ และระยะถัดไป หุ้น BBL เลยฟื้นขึ้นมาได้ บวก 1.50 บาท ปิด 168.50 บาท ส่วนนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ 18 แห่งที่ Cover หุ้น BBL พบว่า แนะนำ “ซื้อ” 16 โบรกฯ และถือ 2 โบรกฯ หรือไม่มีใครแนะนำขายเลย IAA Consensus Target Price อยู่ที่ 225.0 บาท

*ส่วนหุ้นไทยพาณิชย์ SCB วิ่งขึ้นสวน XD (ปันผล 1.50 บาทต่อหุ้น) บวก 1.50 บาท ปิด 122.00 บาท หลังจากก่อนหน้านี้ราคาปรับลงไปค่อนข้างมาก ส่วนเรื่องดอกเบี้ยเงินฝากจะปรับลดหรือเปล่า “อาทิตย์ นันทวิทยา” ซีอีโอ SCB ส่งซิกว่า หากเป็นลูกค้ารายใหญ่ เช่น เงินฝาก 50 ล้านบาท หรือ 100 ล้านบาท อาจจะมีการขยับ ส่วนรายย่อยทั่ว ๆ ไป จะพยายามดึงไว้ และไม่อยากให้กลุ่มลูกค้าเหล่านี้ได้รับผลกระทบ

*ข่าวดีสำหรับตลาดหุ้นไทยวันนี้ เพราะระหว่างเขียนต้นฉบับ ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งกว่า 200 จุด บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากที่ทางการจีนยืนยันว่ากำลังหารือกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับการจัดการเจรจาการค้าในเดือน ก.ย. และจีนยินดีที่จะแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการค้าอย่างสงบ โดยในวันอาทิตย์นี้ (1 ก.ย.) ที่ทั้งสองฝ่ายมีกำหนดขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกัน

*บ้านปู BANPU ราคาหุ้นน่าเบื่อหน่าย ปรับลงต่อเนื่อง ทำให้บอร์ดของบ้านปูอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนของบริษัทเพื่อการบริหารทางการเงิน หรือ Treasury Stocks ภายในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 5,000 ล้านบาท และจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 385 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 7.5% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยเป็นการเข้าซื้อในตลาดหลักทรัพย์ฯ และมีกำหนดระยะเวลาซื้อหุ้นคืน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย. 2562-10 มี.ค. 2563

*ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น TQM โบรกเกอร์ขายประกันรายใหญ่สุดของไทย วานนี้ราคาหุ้นวิ่งขึ้นทำนิวไฮ 49.75 บาท หรือชนแนวต้านสำคัญพอดี แต่ไม่ผ่าน ทำให้ราคาย่อตัวลงไป และมาปิด 49.00 บาท ท่ามกลางวอลุ่มมากกว่าหลายวันก่อนหน้านี้หรือ 171.8 ล้านบาท ส่วนราคาเป้าหมายของ TQM สูงสุด 53.50 บาท ให้ไว้โดย บล.ธนชาต ส่วนต่ำสุดอยู่ที่ 47.00 บาท ของ บล.เอเซีย พลัส และมี IAA Consensus Target Price 50.00 บาท ส่วนหุ้นเพิ่งขึ้น XD เมื่อ 28 ส.ค. แล้วใครถือเลยมาจนถึงวานนี้ รับไปเลย 2 เด้งทันที!!!!

*เจมาร์ท JMART หากราคาหุ้นย่อตัวลงมาจะต้องซื้อ เพราะหากดูจากกราฟ จะเห็นว่า ราคาหุ้นเป็นทิศทางขาขึ้น และน่าจะวิ่งยาวเลยล่ะ รับกับผลประกอบการที่จะออกมาสวยหรูในปีนี้ และปีถัด ๆ ไป หลังจากบริษัทลูกเกือบทุกแห่ง สร้างกำไรให้เป็นกอบเป็นกำ โดยเฉพาะ JMT ดังนั้น ใครที่ซื้อไว้แล้วราคาหุ้นร่วงลงมา น่าจะซื้อเพื่อถัวเฉลี่ย และรอสักหน่อย เดี๋ยวหุ้นเด้งกลับมาแน่นอน ต้องใจร่ม ๆ และมั่นใจในพื้นฐาน

*การประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ในวันนี้ (30 ส.ค.) จะเลื่อนออกไปก่อน และไม่ได้มีการแจ้งว่าจะมีการนัดประชุมเมื่อใด จึงยังไม่มีปัจจัยหนุนตลาดหุ้นจากการประชุมฯ

*ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับบรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (International Finance Corporation : IFC) สมาชิกของกลุ่มธนาคารโลก ร่วมต่อยอดการพัฒนาตลาดทุนไทยด้านความยั่งยืน มุ่งเน้นการส่งเสริมความตระหนักเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การลงทุนยั่งยืน การเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืน การให้ความรู้แก่บุคลากรตลาดทุนและผู้ลงทุน เพื่อสร้าง Ecosystem ด้านความยั่งยืนครบทุกมิติ ช่วยเพิ่มความน่าสนใจของตลาดทุนไทยสู่สายตาผู้ลงทุนทั่วโลก