อย่าซ้ำรอยเดิม

*หากมองสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยแบบละเอียดลออจะเห็นว่า การเคลื่อนตัวของดัชนียากเกินกว่าจะเข้าใจ แถมยังได้รับแรงกดดันจากอิทธิพลตลาดหุ้นต่างประเทศตลอดเวลา จึงออกอาการขาสั่นเป็นประจำเมื่อเริ่มมีการยกฐานสูงขึ้นนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นวงรอบปกติที่เคยเห็นกันมาตั้งแต่ต้นปี 2562 และถ้าดูกันจริง ๆ จะเห็นการลงมาแตะที่ระดับ 1,600 จุด เกิดขึ้นมาทั้งหมด 3 ครั้งแล้วนะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*หากมองสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยแบบละเอียดลออจะเห็นว่า การเคลื่อนตัวของดัชนียากเกินกว่าจะเข้าใจ แถมยังได้รับแรงกดดันจากอิทธิพลตลาดหุ้นต่างประเทศตลอดเวลา จึงออกอาการขาสั่นเป็นประจำเมื่อเริ่มมีการยกฐานสูงขึ้นนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นวงรอบปกติที่เคยเห็นกันมาตั้งแต่ต้นปี 2562 และถ้าดูกันจริง ๆ จะเห็นการลงมาแตะที่ระดับ 1,600 จุด เกิดขึ้นมาทั้งหมด 3 ครั้งแล้วนะคะ

*จุดที่น่าสนใจอีกจุดหนึ่งก็คือ การวิ่งขึ้นมายืนบริเวณ 1,650 จุด ก็เกิดขึ้นมาทั้งหมด 3 ครั้งด้วยกัน “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับมองการขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 1,654.92 จุด บวกไป 15.78 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.31 หมื่นล้านบาท กำลังบอกอะไรให้เรารู้บ้าง? และต่อจากนี้รูปเกมจะเดินต่อไปแบบไหน ? เพื่อเป็นไกด์ไลน์สำหรับการเคาะขวา พร้อมกับกำหนดจุด take profit ได้แม่นยำขึ้นกว่าเดิมไงล่ะจ๊ะ

*เนื่องจากหุ้นแกนหลักของตลาดหุ้นไทยกลับมาทำหน้าที่ดันดัชนีอีกรอบ และไม่มีใครรู้ว่าหุ้นเหล่านี้จะยืนระยะได้นานแค่ไหน? รวมทั้งมีภูมิป้องกันปัจจัยลบจากภายนอกดีหรือยัง? “โมนิก้า” ถึงต้องจั่วหัวออกไปในโทนวิตกจริตมากไปสักหน่อย เพราะที่ผ่านมามักพบกับความเจ็บช้ำน้ำใจเป็นประจำ (ดราม่าดีไหมคะ) จึงไม่อยากคาดหวังอะไรที่ไกลเกินตัวอีกแล้วน่ะซี

*เหมือนกับพี่เบิ้ม PTT เกิดอาการเสียรังวัดเป็นเวลานานร่วมเดือน ทั้งที่เห็นกันทนโท่ราคาที่ซื้อขายไม่ได้โอเวอร์รีแอ็กต์ สุดท้ายหุ้นก็ตีกลับจากราคาต่ำสุดบริเวณ 41 บาทอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 44.25 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 2.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.14 พันล้านบาท “โมนิก้า” ยังมองเป็นช็อตที่ไหลตามน้ำได้เหมือนเดิม แต่ในความเป็นจริงจะไปได้แค่ไหน? คงต้องดูกันวันต่อวันนะจะบอกให้

*เช่นเดียวกับในรายของ AOT ทุกคนรับรู้กันโดยทั่วไปว่า ราคาหุ้นควรจะไปไกลกว่าระดับ 75 บาท แต่ไป ๆ มา ๆ กลับโดนเทขายเมื่อถูกปัจจัยภายนอกกดดันอย่างหนัก จนหุ้นร่วงผล็อยไม่เป็นท่ามาแล้วนั้น “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นปรากฏการณ์เหนือการควบคุม และเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น จึงมองการขึ้นมาปิดที่ระดับ 72 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.25 พันล้านบาท เป็นหนังเรื่องยาวที่ต้องติดตามดูกันไปเรื่อย ๆ นะคะ

*คล้ายกับกรณีของ GULF มองในมุมของการเล่นยาว ๆ ราคาหุ้นยังมีโอกาสถีบตัวขึ้นไปทำ all time high อย่างแน่นอน แม้ราคาที่เห็นจะสูงลิบลิ่วเมื่อเทียบกับพี/อีปัจจุบัน แต่เมื่อดูจากโครงการใหม่ที่เข้ามาตลอดเวลา เลยทำให้ราคาปิดที่ 145 บาท บวกไป 3.50 บาท หรือขึ้นไป 2.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.73 พันล้านบาท ยังมีแก๊ปให้เล่นกันแบบชิว ๆ อีกนานเลยทีเดียว..ไม่เชื่อถามคุณพี่ “สารัชถ์” ดูก็ได้นะจ๊ะ

*เม้าท์ถึงคนที่ทำโครงการแบบชิว ๆ ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอย้อนกลับมาดูความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกับหุ้น CPN เพื่อทำให้เห็นความเสี่ยงในการทำธุรกิจยังไม่คลี่คลายแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด หุ้นถึงวิ่งขึ้นมาได้แค่ระดับ 67.25 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 2.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.64 พันล้านบาทแบบนี้ เดี๊ยนมองเป็นวิบากกรรมที่ต้องเผชิญอีกสักระยะหนึ่ง จึงไม่ขอเอาตัวเข้าไปเสี่ยงด้วยหรอกจ้า!

*คล้ายกับกรณีของ BANPU แก้เกมด้วยการประกาศซื้อหุ้นคืนเพื่อบรรเทาการตกต่ำของราคาหุ้นแบบนี้ “โมนิก้า” ต้องขอปรบมือ พร้อมกับชื่นชมเรื่องการเอาใจใส่ผู้ถือหุ้น แต่เมื่อมองดูธุรกิจถ่านหินที่ไม่รุ่งโรจน์เหมือนในอดีต จึงอาจเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ และการถีบตัวของหุ้นขึ้นมาปิดที่ 12.70 บาท บวกไป 1.20 บาท หรือขึ้นไป 10.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 988 ล้านบาท อาจไม่จีรังยังยืนไงล่ะคะ

*ขนาดหุ้นร้านอาหาร ZEN ทำท่าเหมือนจะไปได้สวย พร้อมกับมีการปูทางทำกำไรแบบยั่งยืนให้เห็นกันทนโท่ แต่เผอิญนักเล่นเห็นค่า P/E 38 เท่า เข้าเท่านั้นแหละ! ราคาหุ้นก็ร่วงผล็อยลงอย่างหนัก จนสุดท้ายลงมาปิดที่ระดับ 16.10 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 4.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 58 ล้านบาท เดี๊ยนมองได้อย่างเดียวคือ งานเลี้ยงซูชิเลิกอย่างเป็นทางการแล้วพะยะค่ะ

*น่ากลัวสุด ๆ อีกรายคงไม่พ้น DOHOME ทุบหุ้นอย่างไม่ปรานีปราศรัย จนนักเล่นร้องขอชีวิตกันเลยทีเดียวแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่ทำให้ทุกคนเข็ดขยาดอย่างหนัก พร้อมกับทำให้รู้ว่า เคาะสั้นปลอดภัยกว่าเยอะ! และไม่ควรฝากความหวังไว้กับหุ้นที่พี/อีสูง เพราะมีโอกาสโดนจัดหนักแบบไม่รู้ตัว เดี๊ยนถึงมองการลงมาปิดจุดต่ำสุดของวันที่ระดับ 8.85 บาท ลบไป 0.65 บาท หรือลงไป 6.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 541 ล้านบาท สัญญาณไม่ค่อยดีแล้วนะ

Back to top button