หุ้นใหญ่ดันตลาด

*หากนักเล่นคิดตามตัวเลขยอดซื้อของกองทุนในแต่ละปีที่ “โมนิก้า” นำเสนอไปเมื่อวันก่อนแบบง่าย ๆ ก็จะเห็นภาพการเคลื่อนตัวของดัชนีได้ชัดเจนขึ้น และเข้าใจสาเหตุที่ทำให้ดัชนีทะยานขึ้นมาปิดที่ 1,658.64 จุด บวกไป 16.39 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขาย 6.48 หมื่นล้านบาทได้อย่างลึกซึ้ง เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับหันมาสนใจรูปแบบการเคลื่อนตัวของดัชนีมากขึ้นกว่าเดิมนะจะบอกให้


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*หากนักเล่นคิดตามตัวเลขยอดซื้อของกองทุนในแต่ละปีที่ “โมนิก้า” นำเสนอไปเมื่อวันก่อนแบบง่าย ๆ ก็จะเห็นภาพการเคลื่อนตัวของดัชนีได้ชัดเจนขึ้น และเข้าใจสาเหตุที่ทำให้ดัชนีทะยานขึ้นมาปิดที่ 1,658.64 จุด บวกไป 16.39 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขาย 6.48 หมื่นล้านบาทได้อย่างลึกซึ้ง เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับหันมาสนใจรูปแบบการเคลื่อนตัวของดัชนีมากขึ้นกว่าเดิมนะจะบอกให้

*เนื่องจากมันเห็นกันอยู่แล้วว่า การขึ้นของดัชนีเที่ยวนี้เป็นผลมาจากหุ้นบลูชิพหลายตัวยังมีแก๊ปให้วิ่งอีกเพียบ ผนวกกับพวกสถาบันเริ่มชินกับท่าทีบ้าคลั่งของผู้นำ “พญาอินทรี” และเข้าใจถึงการออกมาตอบโต้ของผู้นำ “พญามังกร” จึงพอมองเหตุการณ์คร่าว ๆ ในภายภาคหน้าจะออกมาในรูปไหน จึงตัดสินใจกระโจนเข้าสู่สนามหุ้นอย่างเต็มตัวอีกรอบ ซึ่งส่งผลให้ดัชนีทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงไงล่ะคะ

*ด้วยสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ไม่มีความจำเป็นในการไปแส่หาเรื่องชาวบ้านอีกต่อไป เพราะเท่าที่ดูตอนนี้มีเพียงประเด็นแค่ “หมาขี้เรื้อนกัดกัน” ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหญ่โตจนเดี๊ยนต้องกระโดดลงไปฟัดกับเขาด้วย ผนวกกับมองไม่เห็นประโยชน์อันใดจะเกิดขึ้นกับแฟนคลับ จึงอย่าแปลกใจที่ดีกรีความเผือกของอีฉันลดลงไปเป็นจำนวนมาก แถมการโยกย้ายงานของคนในวงการหุ้นก็เป็นเพียงแค่ “ซื้อตัว” เดี๊ยนถึงไม่อยากให้ราคาคนเหล่านั้นมากเกินไปพะยะค่ะ

*เม้าท์ถึงตรงนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” อยากจะตั้งคำถามกับทุกคนว่า วันนี้ใครคือดาวรุ่งในวงการตลาดหุ้น? และใครเป็นมือเก๋าแห่งวงการโบรกเกอร์? หรือแม้กระทั่งการแข่งขันห้ำหั่นของบริษัทจดทะเบียน มีเรื่องของการเมืองเข้ามาเอี่ยวด้วยจริงไหม? และยังมีอีกหลายเรื่องที่ผู้คนมากมายอยากรู้เต็มไปหมดนั้น เดี๊ยนมองเป็นเรื่องของไทม์มิ่งถึงจะเม้าท์ได้มันส์แบบสุดติ่งกระดิ่งแมวนะจ๊ะ

*เหมือนกับอาการของหุ้น CPN ผงกหัวขึ้นมาอีกรอบ ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 69 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 3.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 929 ล้านบาท มันเกี่ยวข้องกับ “เซ็นทรัล วิลเลจ” โดยตรงใช่อ๊ะป่าว? และเรื่องนี้ก็โยงใยกับอำนาจรัฐที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกันอยู่ใช่ไหม? โดยเรื่องนี้จะลงเอยในลักษณะคนหนึ่ง “ชนะ” อีกคนหนึ่งเป็นฝ่าย “แพ้” ไหมเอ่ย? เดี๊ยนมองเป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูกันต่อไปเจ้าค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันมามองคู่กรณีโดยตรงอย่าง AOT เพื่อทำให้เห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นอาจกระเทือนจิตใจใครบางคนก็จริง! แต่เมื่อดูกันยาว ๆ จะเห็นว่าพวกกองทุนต้องย้อนกลับเข้ามาไล่เก็บหุ้นวันยังค่ำอยู่ดี เพราะของมันเห็นกันทนโท่ ว่าเสือนอนกินตัวพ่อ! วานนี้ถึงเห็นหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 74.25 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 3.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.72 พันล้านบาทแบบนี้ มีสิทธิ์ทะลุยอดเก่า 76 บาทสูงจ้า!

*อีกรายที่โดดเด่นจนขึ้นหม้อต้องยกให้ BTS ภายใต้การกุมบังเหียนของหลงจู๊ “คีรี” ผ่านเกมการเมือง และเกมธุรกิจมาอย่างโชกโชน ย่อมไม่มีอะไรต้องวอร์รี่อีกต่อไป แถมเมื่อดูจากแนวโน้มรับทรัพย์ก้อนโตในอนาคต วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นมาทำ all time high ด้วยการยืนปิดที่ระดับ 14.10 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 4.44% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.40 พันล้านบาทแบบสบาย ๆ สไตล์พี่เบิร์ดนะคะ

*ส่วนรายที่พุ่งแรงแซงทางโค้งต้องยกให้ HMPRO กระชากขึ้นทำ all time high ด้วยการยืนปิดที่ระดับ 18.60 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 4.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 937 ล้านบาท ถือเป็นช็อตกองทุนลุยสุดซอย ถึงทำให้ราคาหุ้นถีบตัวขึ้นแรงอย่างไม่น่าเชื่อ เดี๊ยนเลยอยากให้มิตรรักแฟนเพลงประเมินการเทรดหุ้นบนค่า P/E 40 เท่า ยังมีแก๊ปให้หุ้นวิ่งต่อได้อีกหรือเปล่า? ลองถามใจเธอดู..อิอิอิ

*ผิดกับในรายของหุ้นขายไก่ CPF ทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 29.25 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 4.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.22 พันล้านบาท ก็ยังเทรดบนค่า P/E 16 เท่าเอง “โมนิก้า” ถึงกล้าฟันธงว่า นี่เป็นหุ้นที่น่าตามไปดูสุด ๆ เพราะเมื่อมองดูจากผลงานที่ดีขึ้น และแรงซื้อที่เข้ามาไม่ขาดสาย จึงมีความเป็นไปได้ที่หุ้นจะวิ่งขึ้นไปสร้างฐานเหนือยอดเก่าบริเวณ 30 บาทเจ้าค่ะ

*เม้าท์ถึงหุ้นที่ไล่ราคาแปลก ๆ “โมนิก้า” ย่อมมองไปที่หุ้น ERW เพื่อทำให้นักเล่นเห็นว่า การขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 6.40 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 4.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 185 ล้านบาทนั้น กลายเป็นการเทรดบนค่า P/E 35 เท่าเสียฉิบแบบนี้ เดี๊ยนมองเป็นเรื่องความเชื่อมั่นที่นักเล่นมองว่ากำไรในช่วงครึ่งหลังปี 2562 จะมาตามนัด ถึงกล้ากระโจนใส่กันอย่างบ้าระห่ำ (หากกำไรไม่มาเหมือนที่คิด รับรองเละเป็นโจ๊กแน่ ๆ) ไงล่ะคะ

Back to top button