กับดักหุ้น IPO Saudi Aramco
จากกรณี “ซาอุดีอาระเบีย” มีคำสั่งให้ปิดบ่อน้ำมันของ Saudi Aramco ที่ถูกโจมตีทั้ง 2 แห่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 50% ของกำลังการผลิตทั้งหมด การโจมตีนี้ส่งผลให้กำลังผลิตน้ำมันของประเทศซาอุดีอาระเบียหายไปประมาณ 5.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากการผลิตทั้งหมด 9.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยมีการประเมินกันว่าต้องใช้เวลาประมาณ 1-3 สัปดาห์ ถึงจะกลับมาผลิตน้ำมันดิบได้ตามเดิม
พลวัตปี 2019 : สุภชัย ปกป้อง
จากกรณี “ซาอุดีอาระเบีย” มีคำสั่งให้ปิดบ่อน้ำมันของ Saudi Aramco ที่ถูกโจมตีทั้ง 2 แห่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 50% ของกำลังการผลิตทั้งหมด การโจมตีนี้ส่งผลให้กำลังผลิตน้ำมันของประเทศซาอุดีอาระเบียหายไปประมาณ 5.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากการผลิตทั้งหมด 9.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยมีการประเมินกันว่าต้องใช้เวลาประมาณ 1-3 สัปดาห์ ถึงจะกลับมาผลิตน้ำมันดิบได้ตามเดิม
เหตุการณ์ดังกล่าว..หลีกเลียงไม่ได้ ที่จะส่งผลกระทบต่อแผนการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ของ Saudi Aramco ที่ถือเป็นการทำ IPO ที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก จากแผนระดมทุนมากถึง 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยการนำหุ้นเพียง 5% ของบริษัทออกเสนอขายครั้งนี้..
แผนการขายหุ้น IPO ดังกล่าว แบ่งออกเป็น 2 ช่วง กล่าวคือ ช่วงแรกจะเป็นการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ซาอุดี อาระเบีย ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนปีนี้ โดยจะขายไอพีโอ 25,000 ล้านหุ้น และมีการเสนอขายหุ้นในตลาดต่างประเทศ ช่วงปี 2563-2564
โดย “เจ.พี.มอร์แกน” มีโอกาสสูงจะได้รับเป็นที่ปรึกษาหลักในการเสนอขายหุ้นแก่สาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) หลังคู่แข่งสำคัญคือ “มอร์แกน สแตนลีย์” ได้รับผลกระทบจาการเสนอขายไอพีโอ “อูเบอร์” เนื่องจากประเมินดีมานด์ไอพีโอหุ้นอูเบอร์ผิดพลาดช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้ราคาหุ้นอูเบอร์ปรับตัวลง 18% ช่วง 2 วันแรกของการซื้อขายหลักทรัพย์
การเสนอขายหุ้นไอพีโอ Saudi Aramco ถือเป็นอีกหนึ่งความพยายามของมกุฎราชกุมารโมฮัมมัด บิน ซัลมาน ผู้ปกครองซาอุดีอาระเบียโดยพฤตินัยและองค์รัชทายาทของสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน ที่จะปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจให้มีความหลากหลายและลดการพึ่งพาน้ำมัน
ขณะที่ “อามิน นาสเซอร์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) Saudi Aramco ระบุถึงความพร้อมทำการขายหุ้นไอพีโอ 2 ครั้ง รวมถึงการจดทะเบียนในต่างประเทศเร็ว ๆ นี้
จากข้อมูลเบื้องต้นปี 2561 Saudi Aramco มีกำไร 111,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ตามการเปิดเผยของ Moody’s) เทียบบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Apple มีกำไร 59,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วน ExxonMobil บริษัทพลังงานรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ มีกำไร 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ Royal Dutch Shell บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่สุดของโลก มีกำไร 23,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยก่อนหน้านี้ Saudi Aramco กำลังมีการพิจารณาเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หลังจากตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก ยื่นข้อเสนอให้ Saudi Aramco นำหุ้นมาจดทะเบียนฯโดยตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนและฮ่องกง ถือเป็นเป้าหมายแรกที่นักลงทุนคาดการณ์กันไว้
แต่ด้วยความไม่แน่นอนทางการเมือง จากปัจจัยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ไม่ได้รับเลือก ส่วนความวุ่นวายที่เกิดจากการชุมนุมประท้วงในฮ่องกง ได้ลดความน่าสนใจของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเช่นกัน
เหตุการณ์โจมตีบ่อน้ำมัน Saudi Aramco ครั้งนี้ ได้กลายเป็นกับดักต่อแผนการขายหุ้นไอพีโอ 25,000 ล้านหุ้น มีอันต้องเลื่อนไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้..แต่จะเลื่อนไปเมื่อไหร่เท่านั้นเอง..!??