ขายเพราะกลัว

*ช่วงนี้เรื่องมั่ว ๆ ซั่ว ๆ เกี่ยวกับด้านพริตตี้กลายเป็นประเด็นฮอตฮิต มาแรงแซงทางโค้งทุกอย่างอย่างไม่น่าเชื่อ “โมนิก้า” หันไปทางไหน ด้านไหน ก็มีแต่คนเม้าท์เรื่องฉาว ๆ คาว ๆ ของคนในวงการเอ็นเตอร์เทน (เจ้าของบ้านรวยจากเล่นหุ้น และลงทุนบิตคอยน์) จนเดี๊ยนรู้สึกทะแม่ง ๆ กับพฤติกรรมของคนเหล่านี้มากเสียเหลือเกิน จึงต้องกระโจนลงไปสืบค้นข้อมูลให้แน่ชัดว่า ไม่ใช่การฟอกเงินนะจะบอกให้


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ช่วงนี้เรื่องมั่ว ๆ ซั่ว ๆ เกี่ยวกับด้านพริตตี้กลายเป็นประเด็นฮอตฮิต มาแรงแซงทางโค้งทุกอย่างอย่างไม่น่าเชื่อ “โมนิก้า” หันไปทางไหน ด้านไหน ก็มีแต่คนเม้าท์เรื่องฉาว ๆ คาว ๆ ของคนในวงการเอ็นเตอร์เทน (เจ้าของบ้านรวยจากเล่นหุ้น และลงทุนบิตคอยน์) จนเดี๊ยนรู้สึกทะแม่ง ๆ กับพฤติกรรมของคนเหล่านี้มากเสียเหลือเกิน จึงต้องกระโจนลงไปสืบค้นข้อมูลให้แน่ชัดว่า ไม่ใช่การฟอกเงินนะจะบอกให้

*ด้วยตรรกะของนักคิดแบบนี้กระมัง ถึงทำให้นักลงทุนในตลาดหุ้นมีลักษณะชอบเล่นเกมเสี่ยง ถนัดเข้าเล่นของหวือหวา ไม่ชอบเล่นเกมช้า ผลที่ออกมาเลยกลายเป็นว่า ดัชนีแกว่งตัวผันผวนถี่ขึ้นเรื่อย ๆ แรงซื้อพร้อมแปรเปลี่ยนเป็นแรงเทขายตลอดเวลา คนเข้าเล่นต้องทันต่อเหตุการณ์ แถมหลักสูตรนี้ต้องเรียนรู้ด้วยตนเอง ไม่มีคนคอยทำทางให้อย่างแน่นอน หวังว่าคงเข้าใจตรงกันนะตัวเอง

*แรงกระเพื่อมของข่าวสารทำให้ดัชนีแกว่งตัวลงเป็นเวลาหลายวัน จนวานนี้ยืนปิดที่ระดับ 1,622.79 จุด ลบไป 13.41 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.51 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นสถานการณ์ที่นักลงทุนรับรู้กันอยู่แล้วว่า ดัชนีต้องย่ำฐานควบคู่กับการสร้างฐานอีกสักระยะ เพื่อให้แน่ใจว่าแรงเทขายสะเด็ดน้ำจริง ๆ หลังเห็นกันอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่า การพลิกแนวต้าน 1,680 จุดให้กลายเป็นแนวรับไม่ง่ายนะจ๊ะ

*เหมือนกับสุดยอดม้าตีนต้น CPALL ถือเป็น “ของร้อน ของแรง” สำหรับคนใจถึง ไม่ต้องบรรยายให้เปลืองกระดาษ ไม่ต้องพูดถึงคนอยู่หลังม่าน ถ้านับตั้งแต่ทำจุดสูงสุดที่ระดับ 87 บาทเมื่อเดือนก่อน ต่อจากนั้นรูดลงมาเรื่อย ๆ จนใกล้จะหลุดเส้นแนวรับสุดท้ายอยู่รอมร่อ ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 80.75 บาท ลบไป 0.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.23 พันล้านบาท มันเป็นเกมที่ผู้เล่นต้องตัดสินใจเอง คนอื่นไม่มีทางรู้ดีไปกว่าตัวเรานะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ DOHOME ดูตามหน้าเสื่อ บวกกับรูปการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องมีคนได้ ต้องมีคนเสีย ถือเป็นความชอบส่วนบุคคล ไม่จำเป็นต้องเล่าข้อเท็จจริงที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ให้ฟัง ยกเว้นเกิดอาการ want สุดตัว “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่ต้องเม้าท์สักเล็กน้อยว่า หุ้นตัวนี้ได้รับผลดีจากน้ำท่วมจริงไหม? และการอ่อนตัวลงมาปิดที่ 11.40 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 5.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 360 ล้านบาท จบเกมแล้วหรือเปล่า?

*สำหรับเจ้าพ่อบรอดแบรนด์ JAS ยังมีกิมมิกที่คอยบิลต์อารมณ์ได้เป็นประจำ เรื่องเก่าในอดีตประเภทร่วมหอลงโรงยังขายได้ดี แม้พล็อตเรื่องจะเก่าสุดแสนจะเก่า แต่ทุกครั้งที่ถูกนำมาปัดฝุ่นใหม่ทีไร ทำให้ลูกเป็ดขี้เหร่ กลายเป็นหงส์ขึ้นมาในทันที บวกกับเที่ยวนี้มีเรื่องปันผลพิเศษเข้ามาเป็นตัวเดินเรื่องอีกแรง หุ้นถึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ 6.40 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 3.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 263 ล้านบาทนะจะบอกให้

*ส่วนกรณีของ PTTGC เอาเข้าจริง ๆ คงไม่มีอะไรในกอไผ่ เว้นเสียแต่ว่า หุ้นลงมาถึงจุดเด้งกลับแบบพอเหมาะพอเจาะ อะไรหลายอย่างเลยดูสวยหรูไปหมด ทั้งที่เนื้อในยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ เผอิญพวกที่เล่นหุ้นมีภาพความคิดในหัวสมองเป็นแบบมโนสุดซอย หุ้นถึงกระตุกขึ้นมาให้เห็นอีกครั้ง ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 54 บาท บวกไป 0.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.05 พันล้านบาท น่าจะเป็นการดันแล้วสาดนะเนี่ย!

*พูดถึงประเด็นนี้ขึ้นมาทีไร “โมนิก้า” นึกถึงหุ้น DTAC ขึ้นมาในทันที!..งานนี้ไม่ต้องหาเหตุผลอื่นมาอธิบาย ของมันเห็นกันทนโท่ ไม่มีอะไรในกอไผ่ จุดจบของหุ้นถึงไม่แฮปปี้เอ็นดิ้ง ยิ่งเห็นหุ้นไหลลงเรื่อย ๆ ท่ามกลางแรงเทขายที่หนาแน่นขึ้นทุกวัน ยิ่งมั่นใจได้ล้านเปอร์เซ็นต์ว่า “ไม่มีคนเอา” หรือ “เขาไม่ยอมเอา” ก็สุดแต่ขาเม้าท์จะมโน ล่าสุดหุ้นดิ่งลงมาปิดที่ 56.75 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 2.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 705 ล้านบาท มันตรงกับที่น้องโมว่าไว้ไหมล่ะ!

*เหมือนกับในรายของ THG ภายใต้การกำกับดูแลของ “หมอบุญ” มันเป็นอะไรที่พูดยากมาก ๆ และต้องใช้เวลาอธิบายนานพอสมควร “โมนิก้า” ถึงอยากให้ขาเล่นเข้าใจกิมมิกเรื่องนี้ก่อนช้อนซื้อ เรื่องนี้ไม่ยากที่จะเรียนรู้ และไม่ยากที่จะทำความเข้าใจ ปัญหามีอยู่อย่างเดียวว่า นี่ใช่หุ้นทางเลือกจริงไหม? หลังค่า P/E ปาเข้าไป 57 เท่า ทั้งที่หุ้นทรุดต่อเนื่องเป็นแรมเดือน จนวานนี้ลงมาปิดที่ 22.50 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 4.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 65 ล้านบาท มันเป็นเรื่องของ “พื้นฐาน” กับ “ความจริง” ที่ไม่ไปในทิศทางเดียวกันน่ะซี

*ป.ล.ก่อนจากกันขอย้ำให้แฟนคลับได้รู้ถึงสาเหตุที่ทำให้หุ้นหลายตัวร่วงเละเทะ ล้วนมาจากประเด็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาเต็มแวลู จึงต้องขายทุกราคาเพื่อโยกพอร์ตไปลงทุนในหุ้นตัวอื่นแทนเจ้าค่ะ

Back to top button