ไม่ถึงฝั่งฝัน (สักที)

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*หากมองอาการ “เป๋ไป เป๋มา” ของดัชนีในเที่ยวนี้แบบเลือกข้างแบบสุดโต่ง และตีความเข้าข้างตัวเองในทุกมิติ ย่อมทำให้นักเล่นเกิดอาการเบื่อ ๆ เซ็ง ๆ มากขึ้นเป็นทวีคูณ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นไม่เคยเป็นเหมือนกับที่คาดการณ์ไว้เลยสักอย่าง จนนำไปสู่การถกเถียงที่ว่า วันนี้จะเอาปัจจัยไหนมาเป็นแรงหนุนให้ดัชนีขึ้นอย่างบูรณาการสักที? ส่งผลให้ภาพของการลงทุนยังมีลักษณะแทงกั๊กต่อไปแบบไม่มีกำหนดนะนายจ๋า!

*ในเมื่อตลาดหุ้นไทยยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจนสักที “โมนิก้า” เลยถือโอกาสนี้บอกเล่าถึงเรื่องทั่วไปที่นักลงทุนควรรู้ไว้บ้างก็คือ ปัจจัยภายในที่เห็นไม่มีอะไรจรรโลงจิตใจสักอย่างแล้ว ปัจจัยภายนอกยิ่งหนักหนาสาหัสกว่าที่เป็นอยู่หลายเท่า เดี๊ยนถึงไม่แปลกใจที่ผู้เล่นก๊วนใหญ่ ๆ พยายามปล่อยของที่มีอยู่ในพอร์ตออกมาตลอดเวลา เพราะเชื่อว่า อาจมีของถูกให้ซื้อเก็บเข้าในพอร์ตอีกน่ะซี

*ผนวกกับวานนี้ “โมนิก้า” เหลือบไปเห็นข่าว “ซาอุฯ” พร้อมกระโจนเข้าสู่สงครามอย่างเต็มตัวกับ “อิหร่าน” หากผลสอบสวนออกมาตรงกันว่า อิหร่านเป็นคนอยู่เบื้องหลังการโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน! ก็จะเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่ในภาวะช็อกตาตั้งอีกครั้งอย่างแน่นอน เดี๊ยนถึงเกิดอาการนอยด์สุด ๆ ในห้วงเวลานี้ เพราะอะไรหลายอย่างดูติดขัดไปหมดซะทุกเรื่องนะตัวเอง

*ขนาดตลาดหุ้นไทยทำท่าฟื้นขึ้นมาอีกรอบ สุดท้ายก็ทรุดตัวลงมาปิดที่ 1,628.38 จุด ลบไป 2.12 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.48 หมื่นล้านบาท ทั้งที่วันก่อนเพิ่งขยับขึ้นไป 7 จุด และเมื่อรวมการขยับเขยื้อนในช่วง 3 วันทำการ พบว่าดัชนียังวนเวียนอยู่แถว 1,625 จุด จึงเท่ากับเป็นการย้ำหัวหมุดการเล่นหุ้นเที่ยวนี้ว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีความสุ่มเสี่ยงที่พวกกองทุนใหญ่จะเทหุ้นออกมาตลอดเวลา เพราะไม่มีตัวเหนี่ยวรั้งให้ถือหุ้นต่อไปนะจะบอกให้

*เหมือนกับอาการยงโย่ยงหยกของหุ้นแบงก์สีเขียว KBANK ล้วนมาจากความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขกำไรในไตรมาส 3 ต่อเนื่องถึงไตรมาส 4 จะดีขึ้นได้อย่างไร? ในเมื่อเทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้คนไปอย่างสิ้นเชิง รวมทั้งเศรษฐกิจในประเทศก็ยังชะลอตัวเหมือนเดิม ราคาหุ้นถึงขยับขึ้นขยับลงที่บริเวณเดิมเป็นประจำ ก่อนจะลงเอยด้วยการยืนปิดที่ระดับ 161.50 ลบไป 0.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1 พันล้านบาทไงล่ะคะ

*ขนาดหุ้นทีเด็ดอย่าง OSP มีสตอรี่เกี่ยวกับเติบโตเข้ามาหล่อเลี้ยงไม่ขาดสายตั้งแต่ต้นปี 2562 จนดันราคาหุ้นขึ้นจากบริเวณ 25 บาทมาเรื่อย ๆ จนสุดท้ายออกอาการตื้อ ๆ ตัน ๆ ที่บริเวณ 38 บาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องราวที่เมกเซนส์มาก ๆ สำหรับเหตุการณ์ที่ผ่านมา แต่ทันทีที่เห็นราคาหุ้นเริ่มโรยตัวลงอย่างช้า ๆ จนวานนี้ลงมายืนปิดที่ 35 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือลงไป 2.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 563 ล้านบาท มันชักน่ากลัวจนบอกไม่ถูกเลยจริง ๆ นะคะ

*ส่วนรายที่มีอาการหนักสุด ๆ จนต้องร้องขอชีวิต “โมนิก้า” ขอชี้เป้าไปยังหุ้น TPIPP หลังโดนถล่มอย่างหนักเป็นเวลา 2 เดือนเต็ม ๆ เท่ากับเป็นการย้ำภาพให้เห็นความผิดปกติบางอย่างได้เกิดขึ้นแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องเอาตัวเข้าไปแลก เพราะการเด้งกลับในช่วงหลัง ๆ ก็เป็นเพียงแค่การ “เด้งเพื่อลง” เดี๊ยนถึงมองการขึ้นมาปิดที่ 4.88 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 3.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 315 ล้านบาท ไม่มีนัยพะยะค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวร้อนถึงหุ้น SIRI ด้วยเช่นกัน เพราะหุ้นไหลลงจากระดับ 1.50 บาทแบบไม่มีทีท่าจะหยุดลงสักที แถมช่วงนี้มีข่าวลือเรื่องหนี้สินล้นพ้นตัวเข้ามากระทบอีกระลอก หุ้นเลยหาทางกลับบ้านไม่เจอสักทีแบบนี้ “โมนิก้า” คงบอกได้แค่เพียงว่า อย่าไปยุ่งจะดีกว่า! หลังเห็นหุ้นลงมานอนกองอยู่ที่ 1.21 บาท ลบไป 0.02 บาท หรือลงไป 1.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 40 ล้านบาท มันทำให้เดี๊ยนเกิดอาการระเหี่ยใจสุด ๆ เจ้าค่ะ

*เรื่องนี้โยงไปถึงหุ้น IRPC ด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อมองดูจากสถานการณ์ธุรกิจที่ยังกระท่อนกระแท่น จนทำให้บริษัทมีโอกาส “ขาดทุน” มากกว่าปรากฏตัวเลข “กำไร” ย่อมเป็นตัวแปรที่กดดันให้ราคาหุ้นทรุดลงไปเรื่อย ๆ “โมนิก้า” ถึงไม่มั่นใจว่า ราคาหุ้นจะเด้งกลับตรงบริเวณ 3.50 บาทเหมือนรอบก่อน หลังเห็นหุ้นลงมายืนปิดที่ 3.68 บาท ลบไป 0.08 บาท หรือลงไป 2.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 190 ล้านบาทน่ะซี

*เม้าท์ถึงเรื่องที่มีความวุ่นวายขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ย่อมโฟกัสไปยังคู่กัดที่ซัดกันนัวเนียอย่าง AOT กับ CPN หลังมีข่าวเม้าท์กันสนุกปากเหลือเกินว่า ทอท.เตะโด่งร้านสะดวกซื้อแฟมิลี่มาร์ทออกจากสนามบิน ซึ่งเป็นการเอาคืนแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อทำให้รู้ว่า อย่ามาแหยม! เดี๋ยวจะโดนจัดหนักมากกว่านี้ เดี๊ยนถือเป็นไทยไฟต์ที่ผู้ชมกำลังนั่งลุ้นกันอย่างสนุกสนาน เพราะแต่ละฝั่งเริ่มออกหมัดแย็บหนัก ๆ ให้เห็นแล้วนะจ๊ะ